สัปดาห์แห่งการรับใช้มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล พ.ศ. ๒๕๖๑ เริ่มวันจันทร์ที่ ๒๙ มกราคม ไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เต็ม ๗ วัน
เริ่มด้วยการประชุม Side Meeting จำนวน ๔๐ การประชุม ในวันที่ ๒๙ และ ๓๐ มกราคม โดยผมไปร่วมการประชุมวิชาการโครงการเยาวชน รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล (Youth Program Conference) ในวันที่ ๒๙
การประชุมวิชาการโครงการเยาวชน มีรูปแบบลงตัวแล้ว คือจัด ๒ วันที่โรงแรมเซนทาราเวิร์ล ซึ่งเป็นสถานที่จัด PMAC และยังมีการประชุมเฉพาะเรื่องตามคณะแพทยศาสตร์ในกรุงเทพและต่างจังหวัดด้วย ปีนี้มีจัดที่ศิริราช (Systems Biology) ในวันที่ ๓๐ และ มข. (Patient-Centered Care) ในวันที่ ๗ กุมภาพันธ์
การประชุมวิชาการโครงการเยาวชน ปีนี้ เป็นปีที่ ๖ โดยที่โครงการเยาวชนรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลดำเนินการมาครบ ๑๐ ปีแล้ว คือเริ่มปี พ.ศ. ๒๕๕๑ วันที่ ๒๙ ผมอยู่กับการประชุมวิชาการโครงการเยาวชน ตลอดทั้งวัน โดยการประชุมเริ่มด้วยคำกล่าวรายงานของประธานคณะกรรมการดำเนินงาน ศ. นพ. อภิชาติ อัศวมงคลกุล (๑) และคำกล่าวเปิดของผม (๒)
หลังจากวีดิทัศน์เล่าเรื่องมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล และโครงการเยาวชน เป็นการนำเสนอของผู้ได้รับพระราชทานทุนรุ่นที่๗ จำนวน ๕ คน เรื่องที่ไปศึกษาของสองคนแรกเชื่อมโยงกับการศึกษาแพทยศาสตร์คือเรื่องการเรียนจาก simulationที่ฮาร์วาร์ด ที่เป็นการเรียนเป็นทีมหลายวิชาชีพ กับเรื่องการเรียน patient-centered care ในหลักสูตรการศึกษาแพทย์ในอังกฤษ ซึ่งเขาให้เวลาไปฝึกใน Family Medicine มากกว่าในบ้านเรามาก
อีกสองเรื่องเป็นโรคในกลุ่มโรคเรื้อรังหรือNCD ที่มีการวิจัยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านgenomics ที่ซับซ้อน สะท้อนความก้าวหน้าในการวิจัยเพื่อทำความเข้าใจกลไกทางพันธุศาสตร์ของโรคที่เรียกว่าอยู่ในกลุ่มmultifactorial diseases คือเกิดจากทั้งสาเหตุทางพันธุกรรม ร่วมกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม และที่น่าตื่นตาตื่นใจคือการศึกษากลไกการถ่ายทอดลักษณะผิดปกติแบบซ่อนเร้น จากพ่อแม่ไปสู่ลูกหลานโดยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่DNA sequence ที่เรียกว่า epigenetics เป็นกลไกทำให้เสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่นโรคอ้วนเบาหวาน อย่างซับซ้อนยิ่ง โดยที่ยังเข้าใจกลไกไม่ชัดเจน
อีกเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ที่หากไม่ระมัดระวังจะสิ้นเปลืองทรัพยากรมหาศาล โดยเกิดประโยชน์น้อย งานวิจัยที่ทำเป็นการนำข้อมูลผู้เสียชีวิต๒๕,๐๐๐ คน ในช่วงปี 2010– 2015 ในพื้นที่หนึ่งของรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ให้ผลที่อาจารย์ mentor ตลึง เพราะตรงข้ามกับที่คาดไว้ คือการเขียนใบแจ้งความจำนงในช่วง๓๐ วันสุดท้าย ให้หมอไม่ช่วยยืดชีวิต สู้การเขียนไว้ล่วงหน้านานๆ ไม่ได้ โจทย์วิจัย วิธีการวิจัยและผลการวิจัยนี้ ปูทางสู่การวิจัยเชิงระบบในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายได้อีกมาก
อาจารย์ mentor ต่างประเทศพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หากมี PMA YP scholar ที่ดีเช่นนี้ให้ส่งไปให้เขาอีก
ช่วงบ่าย เป็น Symposium เรื่อง บทบาทของปัจจัยด้าน genetic และepigenetic ต่อการทดสอบกรองและการป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ ๒ ที่ให้ความรู้มากมาย สะท้อนความก้าวหน้าทั้งด้านความรู้เชิงลึกและความรู้เชิงประยุกต์
ผู้เข้าร่วมประชุมเต็มห้องนับได้ ๑๖๐ คน มีนักศึกษาแพทย์มาจากโรงเรียนแพทย์ต่างจังหวัดหลายแห่ง บรรยากาศของการประชุมคึกคักกว่าปีก่อนๆ โดยที่ของปีก่อนๆ ก็คึกคักมากอยู่แล้ว
เห็นได้ชัดเจนว่าโครงการเยาวชน รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล กำลังทำหน้าที่เอื้อโอกาสให้เยาวชนทำหน้าที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงของระบบสุขภาพไทยในเรื่องใหญ่ๆ ที่มีความสำคัญ โดยที่ผู้บริหารของโรงเรียนแพทย์ก็เข้ามาใช้เป็นกลไกสร้างการเปลี่ยนแปลง
น่าพิศวงมากว่าในเวลาเพียง ๑ ปี ผู้รับทุนสามารถผลิตผลงานและเรียนรู้ได้มากถึงเพียงนี้
วิจารณ์ พานิช
๒๙ ม.ค. ๖๑
ไม่มีความเห็น