บ่ายวันที่ ๒๒ มกราคม๒๕๖๑ ที่โรงพยาบาลสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ผมฟังคุณหมอจรัส สิงห์แก้ว ผอ. รพ. สารภี เล่าเรื่อง ทุนทางสังคม (social assets) ในพื้นที่ สำหรับนำมาใช้เป็นหัวขบวนดำเนินการพัฒนาพื้นที่ในรูปแบบใหม่ๆ ว่ามีมากหากรู้จักหา และท่านบอกว่าครูเกษียณคือกำลังหรือทุนที่มีมากและมีพลังที่สุด
ทำให้ผมกลับมาคิดตีความต่อว่าวงการครูเป็นวงการที่ขาดแคลนกิจกรรมสร้างสรรค์ที่สุดวงการหนึ่ง แต่ครูเกษียณกลับเป็นทรัพยากรแห่งความสร้างสรรค์ในชุมชน แสดงว่า จริงๆแล้วครูมีความสร้างสรรค์ตามธรรมชาติ ของความเป็นมนุษย์ แต่ตอนที่ทำงานราชการหรือทำหน้าที่เป็นครู พื้นที่การปฏิบัติงานไม่เอื้อ หรือไม่เปิดโอกาสให้สร้างสรรค์ เพราะมีกฎระเบียบรัดรึงต่างๆ นานา
ต้องรอจนเกษียณอายุเปลี่ยนพื้นที่แสดงออกในชีวิต มาเป็นพื้นที่ที่ไม่เป็นทางการมีอิสระในการคิดและการเลือกทำสิ่งที่ตนชอบ ครูซึ่งเป็นคนมีความรู้สูงในชุมชน หลายคนจึงผันตัวไปเป็นแกนนำสร้างสรรค์ในชุมชน
คุณหมอจรัส สิงห์แก้วเป็นหมอรางวัลแพทย์ชนบทอันทรงเกียรติ รู้ดีว่าสุขภาวะที่ดีของคนในชุมชนต้องการกิจกรรมหลายอย่างที่คนในวงการวิชาชีพสุขภาพไม่มีเวลาและไม่มีแรงทำ ต้องสร้างพื้นที่ให้ชาวบ้านช่วยกันทำ จากประสบการณ์ที่มีความสำเร็จในหลายพื้นที่มายาวนาน ทำให้ท่านเข้าใจ “ทรัพย์สินทางปัญญา” เพื่อทำกิจกรรมพัฒนาสุขภาวะในชุมชน ได้อย่างทะลุ ท่านจึงมีข้อสรุปดังกล่าว
ผมเอาข้อสังเกตนี้มาเล่าให้คุณหมอสมศักดิ์ชุณหะรัศมิ์ ท่านบอกว่า เวลาทำงานท่านคำนึงถึง enablingmechanism สำหรับให้คนทำงานใช้ความริเริ่มสร้างสรรค์ของตนและทำกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมกัน
เป็นที่รู้กันว่าสำหรับมนุษย์ พื้นที่สร้างสรรค์คือ S. O. L. E. (Self-Organized LearningEnvironment)
๒๔ ม.ค. ๖๑
บริเวณอาคารผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลปิยะมหาราชการุณย์
ไม่มีความเห็น