ชีวิตที่พอเพียง 3078b. ถามด้วยความสุภาพ
หนังสือ Humble Inquiry : The Gentle Art of Asking Instead of Telling (๑) เขียนโดย Edgar H. Schein ให้คำแนะนำแก่ผู้บริหารหรือผู้นำ ให้ใช้คำถามเพื่อทำหน้าที่ผู้นำ โดยมีวิธีตั้งคำถามที่ได้ใจลูกน้อง คือไม่ทำให้เขารู้สึกเสียหน้าหรือถูกกดดัน ความสามารถในการตั้งคำถามแนว humble inquiry เป็นทักษะสำคัญของผู้นำ
ผมอ่านหนังสือนี้แล้วบอกกับตัวเองว่า การเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ที่ถูกต้อง ได้ปูพื้นเด็กตั้งแต่ก่อนชั้นอนุบาลแล้ว ให้มีทักษะตั้งคำถามแบบนี้ การเรียนรู้ที่แท้จริงคือการฝึกตั้งคำถาม และรู้จักตั้งคำถามอย่างสุภาพ ถามแล้วได้มิตรภาพ ไม่ใช้ถามแล้วเสียมิตร คือถามแบบอยากรู้จริงๆ ไม่ใช่ถามแบบต้อนให้คนอื่นจน
ข้อสรุปของหนังสือคือ คำถามที่ดีขึ้นกับความสัมพันธ์ที่ดี คำถามที่ดีช่วยเพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ไม่ใช่แค่ถามเพื่อให้ได้คำตอบ
อุปสรรคสำคัญที่สุดของการถามด้วยความสุภาพคือความรู้สึกว่าเป็นคนละชนชั้น หรือมีศักดิ์ศรีต่างกัน ทำให้น้ำเสียง กิริยาท่าทาง ส่อความสัมพันธ์แบบนาย-บ่าว ซึ่งไม่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งสบายใจที่จะตอบออกมาจากใจ จากประสบการณ์ตรงของตน
ผู้เขียนใช้คำว่า humble inquiry. แต่ผมชอบคำว่า appreciative inquiry มากกว่า
ถามและตอบแบบ KM
ผมสนใจเรื่องศาสตร์และศิลป์ของการตั้งคำถามมานานมากแล้ว เคยทั้งปฏิบัติผิดๆ และปฏิบัติแล้วได้ผลเกินคาด จึงขอนำประสบการณ์ส่วนตัวมาแลกเปลี่ยน
คำถามหลักคือ ถามเป้าหมายใหญ่ เป้าหมายตน และตนเองจะทำอะไร/ไม่ทำอะไร เพื่อบรรลุเป้าหมาย
เมื่อทำงานไปได้ระยะหนึ่ง คำถามใหม่ที่เกิดขึ้นคือ
การตั้งคำถาม ให้ผู้ปฏิบัติงานตอบจากมุมของประสบการณ์ในการทำงานของตน เป็นการกระตุ้นให้ผู้ปฏิบัติงานทำ reflection จากประสบการณ์การทำงาน เมื่อพูดออกมาแล้วได้รับการรับฟัง จะช่วยสร้างความมั่นใจในตนเอง ต่อการเรียนรู้จากการทำงาน การเรียนรู้จากการทำงานเป็นมิติสำคัญที่สุดของกระบวนการ KM
วิจารณ์ พานิช
๑ ม..ค. ๖๑
ไม่มีความเห็น