ครูบาบินก้าว
ครูบา บินก้าว อิทธิภาโว จนอีหลีอีหลอ

เขาก็จะเป็นอย่างที่เขาเป็นได้เพียงแค่นั้น... จริง รึ



บันทึกตรึกคิด...จากพ่อหนุ่มคนหนึ่งที่ฟันธง จาก บทสนทนา...ที่รับฟังไว้

พ่อหนุ่ม : หลวงพี่ เชื่อเหอะว่า... แนวปฏิบัติต่างๆ ของคนบริหารนั้น ไม่ว่าจะในระดับไหน ??!! ในที่สุดเขาก็จะเป็นอย่างที่เขาเป็นเท่านั้นแหละ... การที่เขาแสดงออกถึงการรับฟังเสียงคนอื่นนั่น.. โน่น.. นี่.. ที่เสมือนว่า เขานั้นใจกว้างรับฟังข้อมูลอะไร ๆ จากทุกคน ทุกทิศอย่างเคารพที่เห็น ๆ นั้นน่ะ จริง ๆ มันเป็นมายาภาพลวงตา มันก็เหมือนกับศาสนพิธี ที่คนยุคนี้เข้าใจผิดโดยเชื่อว่า นั่นน่ะ คือ เนื้อหาของศาสนา...นั่นแหละครับผม...ต่อให้หลวงพี่มีสัมมาทิฐิ ชัดเจน และ เอาเนื้อหาที่ถูกตรงออกมานำเสนอสู่สังคมอย่างไร ๆ คนที่รับเขาก็พยักหน้าหงึกๆ เห็นดีด้วย หากที่สุดเขาก็ทำแบบเดิม ๆ นั่นแหละครับ...

หลวงพี่ : เออ น่าคิด แล้วมันยังไงต่อ...เอ็งช่วยขยายหน่อย...สิ !

พ่อหนุ่ม : ครับ... ในสายตาผมนั้น...สรุปเลยว่า ใครฝึกมาอย่างไร เขาก็จะทำแบบที่เขาฝึกนั้น เขาจะไม่สามารถเปิดใจทำในแบบอื่นได้หรอกครับผม... คนที่จะเปิดใจทำตามในแบบที่คนอื่นนำเสนอได้ดีกว่า คมกว่าแนวของตนได้ จะมีก็เพียงคนที่มีเชื้อแท้แห่งพระโพธิสัตว์ และ ระดับนิยตโพธิสัตว์ เพียงเท่านั้น !!! 

ส่วนที่สังคมเห็นว่า เขาเข้าท่านะ เขาเปิดใจกว้างนะ ที่แท้ เขาทำท่าเพียงการรับฟังความคิดเห็นคนอื่นนั้นน่ะ... ที่แท้ก็เพียงต้องการซื้อเวลา...เพื่อจะให้เขาปรับท่าทีในส่วนของเขาให้มั่นคงซะก่อน... ตัวอย่างนะครับ เช่น...

- คนที่เป็นนักการทหารการคิด พูด ทำ ก็จะนำปฏิบัติการแบบทหาร- คนที่เป็นนักธุรกิจการคิด พูด ทำ ก็จะปฏิบัติการแบบนักธุรกิจ- คนที่เป็นคนขี้โลภการคิด พูด ทำ ก็จะปฏิบัติการแบบคนขี้โลภ- คนที่เป็นคนนักการเงิน การธนาคาร นักเล่นหุ้นการคิด พูด ทำ ก็จะปฏิบัติการแบบนักการเงิน การธนาคาร นักเล่นหุ้น- คนที่เป็นคนขี้หลีการคิด พูด ทำ ก็จะปฏิบัติการในที่สุดก็เป็นแบบคนขี้หลี- คนที่เป็นพวกหลงตัวการคิด พูด ทำ ก็จะปฏิบัติการในแบบคนหลงตัว- คนที่เป็นนักปราศัยใจเชือดคอการคิด พูด ทำ ที่สุด ก็จะปฏิบัติการแบบนักปากปราศัยใจเชือดคอ- คนที่เป็นพวกหลงติดในกิน กาม เกียรติ เสพติดโลกธรรม การคิด พูด ทำ ก็จะปฏิบัติการในแบบคนหลงติดในกิน กาม เกียรติ เสพติดโลกธรรมอยู่อย่างนั้น ๆ

- คนที่มาเป็นพระการคิด พูด ทำ ก็จะปฏิบัติการในแบบพระ 

ฯลฯ

การจะให้ใครอื่นเปิดใจเพื่อนำการคิด พูด ทำ และ สามารถนำไปปฏิบัติการตามแบบ ตามแนวที่เขาชัดว่า..ดีกว่าแนวของตนจากคนอื่น โดย นำไปเพิ่มศักยภาพตามที่ตนถนัดแต่ละด้านที่ตนฝึกมา ร่ำเรียนมา ฯลฯ มันจึงเป็นไปได้ยาก จนถึงเป็นไปไม่ได้เลย

หลวงพี่ : เออแน่ะ ๆ เอ็งนี่...งั้นก็แสดงว่า การจะให้บรรดาตัวอย่างลักษณะบุคคลที่เอ็งว่ามา... หมายจะให้มาเชื่อคำของหลวงพี่แล้วเอาไปปฏิบัตินั้น มันเป็นไปไม่ได้ จริงมั๊ย... !!! เอางี๊ ดีกว่า...งั้น หลวงพี่ขอเสกให้เอ็ง เพาะบ่มเชื้อแท้แห่งความเป็นพระโพธิสัตว์ ให้เกิดเชื้อสัมมาทิฐิในจิตใจให้มากขึ้น ๆ มากไปจนถึงระดับพระนิยตโพธิสัตว์ตามกำลังแห่งอินทรีย์-พละของเอ็งเท่าที่จะสามารถให้ได้เลยนะ 

พ่อหนุ่ม : ซ๊ า า . . ธุ . . . !!!

หลวงพี่ : หากอย่างน้อยทั้งเอ็ง และ หลวงพี่ก็น่าจะเกิดกำลังใจที่ได้พบเจอพระโพธิสัตว์ พระนิยตโพธิสัตว์ กันมาบ้างแล้ว เพื่อจะได้เกิดกำลังใจว่า... ยังมีบุคคลที่แม้จะน้อยหากก็มี อาทิ เจ้าชายสิทธัตถะ จากที่พระองค์เกิดในตระกูลสูงมีครบพร้อมทั้งหน้าตา ฐานะ ชื่อเสียง วงศ์ตระกูลในการเกิดมาที่น่าหลงเสพ หลงติด ตามที่คนทั้งหลายปรารถนา ฯลฯ เมื่อพลังแห่งสัมมาทิฐิแจ่มชัดในจิตใจ พระองค์ก็ก้าวออกมาเป็นคนจน... หรือ ในยุคปัจจุบัน พวกเราก็พบเห็นบทบาทชีวิตแห่งองค์ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่พระองค์แม้เกิดในแผ่นดินอื่น ร่ำเรียนมาอย่างมากมาย แต่พระองค์ก็มิได้หลง หรือ เชื่อไปกับค่านิยมสิ่งเหล่านั้น 

พระองค์กลับเข้าใจพื้นฐานชีวิตแบบคนไทย และ นำตนก้าวออกมานำ มาทำในแบบคนไทยด้วยความเสียสละยิ่งใหญ่ในแบบคนจนตลอดมาพร้อมฝากผลงานอันมีคุณค่ามอบไว้...ตราบชีวิต... !!!

หมายเลขบันทึก: 642896เขียนเมื่อ 1 ธันวาคม 2017 17:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 ธันวาคม 2017 17:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท