นี่คือเป้าหมายหลักของการเดินทางไปนิวยอร์กคราวนี้ แต่ชื่อการประชุมจะไม่ค่อยสะท้อนสาระ ในการประชุมตรงนัก เพราะเรามีวาระทั้งการนำเสนอภาพรวมของการประชุม PMAC เพื่อให้สมาชิกใหม่ จากเจ้าภาพร่วมที่เพิ่งมาประชุมเป็นครั้งแรก ได้รู้จัก PMAC
หลังจากนั้นเป็นการหารือการจัดการประชุม PMAC 2018 สั้นๆ ว่าเตรียมการณ์ไปถึงไหนแล้ว มีปัญหาการเชิญผู้ใหญ่จากที่ต่างๆ มาเป็น keynote speaker อย่างไรบ้าง และขอให้สมาชิกของที่ประชุมช่วยแนะ แนวทางแก้ไข หรือช่วยติดต่อคนที่ยังไม่ตอบการเชิญ
ต่อด้วยการนำเสนอสาระสำคัญของการ refresh PMAC ในอนาคต ตามที่สรุปจากการประชุม ที่ลอนดอนระหว่างวันที่ ๒๖ - ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ ผมดีใจที่ช่วงนี้ นพ. พีระพงษ์ สุพรรณไชยมาตย์ (หมอปูน) เป็นผู้นำเสนอ ผมจ้องจับภาพใหญ่ ว่าที่ประชุมแนะอะไรเราบ้าง แล้วผมก็ได้เรียนรู้จริงๆ
คำถามจากคนที่มาร่วมประชุมครั้งแรกมีคุณค่าต่อความลึกในการประชุมเสมอ คราวนี้ตัวแทนจาก WHO เป็นคนใหม่ คือ Fiona Bull, Program Manager, NCDs มาตั้งคำถาม “who” ว่าเป้าหมายของ PMAC คือใคร ซึ่งคำตอบคือผู้กำหนดนโยบายระดับสูงขององค์กรระหว่างประเทศ ของประเทศ และผู้ทำงานในเรื่องนั้นๆ
คนใหม่อีกคนหนึ่งคือ Ms. Katie Dain, CEO (London) NCD Alliance มาแนะว่าเพื่อให้มี policy impact PMAC ควรประชุมก่อน high level policy meeting ของโลก เช่นของ G 20
ผู้เข้าร่วมประชุมมีความเห็นตรงกันว่า การ refresh PMAC ให้มี policy impact จริงๆ เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ซึ่งหมายความว่า ต้องจัด PMAC ให้ก่อกวน status quo ของระบบสุขภาพโลก และของประเทศ ว่าด้วยนโยบายสุขภาพในหัวข้อนั้นๆ ผมจับความได้ว่า PMAC ต้องจับจุดแข็งของตัวเอง หรือสร้างวิธีทำงานขึ้นมา โดยมีประเด็นสำคัญคือ
ตอนบ่ายจึงเป็นเรื่องของ PMAC 2019 โดยตรง เรื่อง NCD Prevention Through Multisectoral Movement ที่จะมีการเริ่มปรับวิธีจัดการประชุม และสิ่งที่เราพบก็คือ WHO กำลังจะจัดการประชุม เรื่องเดียวกันในสัปดาห์หน้า ที่ประเทศอุรุกวัย (๑) และเป็นการประชุมเรื่องกว้างๆ เช่นเดียวกัน เถียงกันไปสักพักก็พอแยกการประชุมของ WHO ที่อุรุกวัยกับ PMAC 2019 ว่าการประชุมที่อุรุกวัย เน้นความกว้าง (breadth) ส่วน PMAC เน้นความลึก (depth)
การอภิปรายกว้างขวางมาก จนคนเก่งที่มาร่วมประชุมบอกว่างง ทำให้ผมนึกในใจว่า งงได้ที่แล้วก็จะเกิดความคิดใหม่ ซึ่งก็เห็นได้จากประธานในที่ประชุม คือ Michael Myers ผู้อำนวยการของ Rockefeller Foundation สรุปทางเลือกว่า ให้เป็นการประชุมเรื่องการป้องกัน NCD และแนะให้พัก ดื่มน้ำและของว่าง พร้อมกับคิดว่าจะโฟกัสให้แคบลง ไปอีกไหม
เริ่มประชุมใหม่ช่วงสุดท้าย ก็ได้ชื่อการประชุมเบื้องต้นว่า “NCD : Political Economy Prevention and Control” โดยระบุชื่อ Plenary 0 ว่า “Imagine 2100 A World Free of Preventable NCD”
มีการกล่าวถึงบทความในวารสาร The Lancet Global Health เรื่อง The commercial determinants of health โดย Elona Kickbusch (๒) ที่เสนอบทบาทหรืออิทธิพลของภาคธุรกิจต่อบุคคล และต่อสุขภาพโลก โดยที่ภาคธุรกิจมีเป้าหมายเพื่อผลกำไรทางธุรกิจ มีสุขภาวะของพลโลกเป็นเหยื่อ
ก่อนจบการประชุมวันแรก เวลา ๑๖.๓๐ น. เราก็ได้ร่างหัวข้อ Plenary 1, 2, 3
ผมสบายใจ ที่ได้เห็นการประชุมที่มีประสิทธิภาพสูง และทีมคนหนุ่มของไทยเข้าร่วมอภิปรายอย่าง เอาจริงเอาจังมาก และการที่หมอปูนสรุปความเห็นในที่ประชุมเป็นร่างประเด็นการประชุม ช่วยให้การประชุม มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมาก
วิจารณ์ พานิช
๑๒ ต.ค. ๖๐
ห้อง 202, Fairfield Inn & Suite, NY
1 ในห้องประชุม
2 ถ่ายจากอีกมุมหนึ่ง
<p></p><p></p>
ไม่มีความเห็น