ในสัปดาห์ที่ ๔ หลังจากที่พระพุทธองค์ได้ตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับพระอภิธรรมซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับปรมัตถธรรม (จิต เจตสิก รูป นิพพานป อันเป็นแก่นของธรรมะในพระพุทธศาสนาอยู่ตลอด ๗ วัน ในขณะที่ทรงพิจารณาเรื่องของเหตุ เรื่องของปัจจัยในปรมัตถะรรมอันเป็นที่มาของคีมภีร์ปัฎฐานอยุ่นั้น ก็ปรากฎฉพพรรณรัสี แผ่ออกจากพระวรกายอย่างน่าอัศจรรย์
ในช่วง ๖ พรรษาแรกของการประกาศสานา พระพุทธองค์ยังมิไทรงตรัสสอนพระอภิธรรมแก่ผู้ใด เพราะพระอภิธรรมเป็นธรรมะที่เกี่ยวข้องกับปรมัตถธรรมล้วนๆ ยากแก่การที่จะอธิบายให้เข้าใจได้โดยงาย บุคคลที่ จะรับอรรถรสของพระอภิธรรม ได้นั้นต้องเป็นบุคคลที่ประกอบด้วยศรัทธา อันมั่นคงและได้เคยสั่งสมบารมีอันเกี่ยวกับปัญญาในเรื่องนี้มาบ้างแล้ว แต่กาลก่อน แต่ในช่วงต้นของการประกาศศาสนานั้นคนส่วนใหญ่ยังมีศรัทธา และมีความเชื่อในพระพุทธสานาน้อย ยังไม่พร้อมที่จะรับคำสอนเกี่ยวกับปรมัตถธรรมซึ่งเป็นธรรมอันลึกซึ้งได้
ล่วงมาพรรษาที่ ๗ พระพุทธองค์จึงได้ทรงแสดงพระอภิฑรมเป็นคร้งแรก โดยเสด็จจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อทดแทนคุณ ของพระมารดาด้วยการแสดงพระอภิธรรเมเทศนาโปรดพุทธมารดา ซึ่งได้อุบัติเป็นเทพบุตรอยู่บนสวรรคั้นดุสิต ในโลกมนุษย์นั้น ทรงแสดงแก่พระสารีบุตรเป็นองค์แรก
ภายหลังที่พระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพาน ถวายพระเพลิง แล้ว พระมหากัสสปเถระ พระอุบาลีเถระ พระอานนทเถระ พร้อมด้วยพระอรหันต์รวมทั้งสิ้น ๕๐๐ องค์ ซึ่งล้วนเป็นปฏิสัมภิทัปปัตตะ ฉฬภิญญะ และเตวิชชะ ได้ช่วยกัน สังคายนาพระธรรมวินัย และได้กล่าวยกย่องพระอภิธรรมเป้นหมวดธรรมที่สำคัญมากของพระพุทธศาสนา การทำ สัคยานาครั้งนี้ มีพระเจ้าอชาติศัตรูเป็นศาสนนูปถัมภก
- อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย ม.มหาจุฬาฯ หน้า๑๗
ไม่มีความเห็น