PMAC (Prince Mahidol Award Conference) (๑, ๒) ดำเนินการมาครบ ๑๐ ปี ใน PMAC 2016 เราจึงตั้งคำถามว่า ในอนาคต ๑๐ ปีจากนี้ไป PMAC จะดำเนินการในรูปแบบใด คำตอบแบบกำปั้นทุบดินคือ มี ๓ ทางเลือก (๑) ทำแบบเดิม (๒) ฉีกแนวไปสุดๆ (๓) แบบผสม
ตอบอย่างนั้น มันได้แต่ตอบในกระดาษ หรือตอบเล่นๆ ตอบแบบเอาจริงต้องคิดให้กว้างขวาง ร่วมกันคิด จึงเริ่มจากมีคณะประเมิน PMAC นำโดย Prof. Kenji Shibuya แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว เป็นหัวหน้าทีม ทำงานหลัง PMAC 2016 จบ นำผลเบื้องต้นมารายงานใน PMAC 2017 แล้วปรับปรุงจนได้ รายงานที่มีพลัง ช่วยชี้ประเด็นว่า เราประสบความสำเร็จตามเป้าหมายเริ่มแรก แต่ในช่วง ๑๑ ปี ที่มี PMAC ได้เกิดสถานการณ์ความท้าทายทั้งภายนอกและภายในทีมงานของ PMAC
เราจึงเดินทางไปลอนดอน เพื่อร่วมกันระดมความคิด กับภาคีเจ้าของร่วม PMAC ในต่างประเทศ
บ่ายวันอาทิตย์ที่ ๒๔กันยายน ๒๕๖๐ สาวน้อยกับผมไปดูละครเรื่อง สี่แผ่นดิน ที่โรงละครรัชดาลัย โดยได้ตั๋วฟรีจากธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นการเปิดหูเปิดตา เพราะในยามชรา นานๆ (แปลว่าหลายปี) เราจึงจะได้ไปชมมหรสพโรงสักครั้ง และค่าชมเดี๋ยวนี้ไม่ใช่ถูกๆ ตั๋วที่เราได้ราคาใบละ ๓,๐๐๐ บาท ผู้ชมแน่นโรง
ตกเย็นฝนตกลงมาอย่างหนัก ผมจึงนั่งแท็กซี่ออกจากบ้านตั้งแต่สองทุ่มครึ่งเผื่อรถติด ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ติดเลย และฝนก็หยุดแล้ว ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เดี๋ยวนี้เราไม่ต้องเขียนเอกสาร ตม. ๖ อีกแล้วนะครับ สะดวกขึ้นเยอะ
เมื่อผ่าน ตม. เข้าไปในสนามบิน ผมก็ลงบันไดเลื่อนไปที่ห้องรับรองการบินไทยทันที กำลังจะหย่อนก้นนั่ง อ. หมอเจี๊ยบ ภัทรวลัย ตลึงจิตร และคุณหมออรรถยา ลิ้มวัฒนายิ่งยง ก็เดินเข้ามา เราจึงนั่งคุยกัน พร้อมๆ กับกินอาหาร ผมจึงได้รับรู้ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของผู้เข้าร่วมทำงานให้แก่ PMAC ส่วนของไทย ว่ามีความอ่อนไหวมาก ผมเป็นคนที่ไม่ประสีประสากับเรื่องแบบนี้
สักครู่ ดร. วไลพร พัชรนฤมล ก็เข้ามาสมทบ พอเที่ยงคืนเราก็เดินไปที่ประตู C3 เพื่อขึ้นเครื่อง เที่ยวบินนี้ผู้โดยสารเต็ม เครื่องบินออกเวลาตี ๑ ของวันที่ ๒๕ กันยายน ผมได้ที่นั่ง 15A ได้นั่งทั้งริมหน้าต่างและริมทางเดิน นอนสบายแต่นอนไม่ค่อยหลับ คอแห้ง ต้องลุกขึ้นมาดื่มน้ำ และเข้าห้องน้ำ ๔ ครั้ง ได้นอนราวๆ ๕ ชั่วโมง แล้วตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือ The End of College : Creating the Future of Learning and the University of Everywhere (๓) ใน Kindle Reader ที่อยู่ใน MacBook
บริการต่างๆ บนการบินไทยดีเลิศ เราบินถึงสนามบินฮีธโรว์ก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง ท่ามกลางหมอกจัด และฝนตก เครื่องกำลังจะลงอยู่แล้ว ต้องเร่งเครื่องเชิดหัวขึ้นไปบินวนใหม่ เพราะมีเครื่องบินขวางรันเวย์ สุดท้ายก็ลงตรงเวลา
เราได้บัตรเข้าตรวจ immigration แบบ Fast Track ซึ่งมีแถวเดียวและคนเยอะ เลยชวนกันไปเข้าแถวปกติซึ่งมีหลายเคาน์เตอร์ (อังกฤษยังมีใบ immigration ให้เขียนอยู่นะครับ) ออกมาหาคนรับที่คุณฝนนัดไว้ที่ข้างหน้าร้านกาแฟ Nero ในที่สุดก็ทราบว่าทางเรานัดผิด บอกเวลาเป็น pm ไม่ใช่ am เราจึงนั่งรอ และคุยกัน จน ๑๐ น. รถจึงมาถึง เป็นรถตู้ นั่งแถวละ ๓ คน หันหน้าเข้าหากัน
เขาคุยกันเรื่องหาโรงเรียนอนุบาลให้ลูก ผละมีโรงเรียนดีของคนไทย สามภาษา ค่าเล่าเรียนปีละ ๗ แสนบาท โดยครูส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง
ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงโรงแรม De Vere Davenport ซึ่งอยู่ใน Greenwich UNESCO Heritage Site ห้องกว้างขวาง สะดวกสะบาย ค่าที่พัก ๔ คืนเป็นเงิน ๒๙,๔๖๐ บาท คืนละเกือบ ๗,๕๐๐ บาท มีข้อดีคืออยู่กับธรรมชาติทำให้จิตใจสบาย
ตกบ่ายเราชวนกันไปเที่ยวชม National Maritime Museum ซึ่งจะแยกไปเล่า ต่างหากในตอนท้ายของบันทึกชุด เรียนรู้จาก PMAC Retreat นี้
วิจารณ์ พานิช
๒๖ ก.ย. ๖๐
ห้อง ๑๑๖ De Vere Davenport House
ไม่มีความเห็น