พฤติกรรมและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ของหญิงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
นางอารี้ ใจคำปัน และคณะ
โรงพยาบาลสันทราย เชียงใหม่
สังคมไทยในยุคโลกาภิวัตน์ ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี สังคม เศรษฐกิจ ฯลฯ จากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้มีการแข่งขันในการพัฒนาทุกรูปแบบ ส่งผลกระทบต่อการทำงาน และวิถีชีวิตของคนทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันครอบครัว จากเดิมที่มีการดูแลบุตรหลานแบบให้ความรัก ความอบอุ่น ทำให้มีเวลาดูแลบุตรหลานน้อยลง เด็กวัยรุ่นจะถูกทอดทิ้งให้อยู่ตามลำพังมากขึ้น และในปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้หลายรูปแบบ จากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้กระตุ้นให้เด็กวัยรุ่นมีความอยากรู้ อยากมีประสบการณ์ เช่นการคบเพื่อนชาย การเลียนแบบเพื่อน การมีเพศสัมพันธ์ ฯลฯ จนส่งผลกระทบต่อเด็กใน ด้านการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ การแท้ง การเรียนไม่จบ ฯลฯ จากสถิติของเด็กหญิงระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่มาใช้บริการเกี่ยวกับการแท้งมีมากเป็นสองเท่าของหญิงทั่วไป เพื่อศึกษาบริบท พฤติกรรม ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์และปัจจัยที่มีผลต่อการมีเพศสัมพันธ์ตลอดจนหาแนวทางในการลดอุบัติการณ์การตั้งครรภ์ในหญิงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึก 112 รายสนทนากลุ่ม จำนวน 8 กลุ่ม 64 คน กลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนชาย หญิง มัธยมต้นและปลาย ครู ตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กลุ่มที่มีประสบการณ์และไม่มีประสบการณ์ มีการใช้การสังเกตแบบมีส่วนร่วมเพื่อสังเกตสภาพแวด ล้อม ความเป็นอยู่ของกลุ่มตัวอย่างมีการจัดกลุ่มข้อมูลเพื่อวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมExcelจัดเรียงข้อมูลวิเคราะห์เนื้อหาเชิงลึกและตรวจสอบข้อมูลโดยใช้เทคนิคแบบสามเส้า
สรุปผลการศึกษา :
ลักษณะการมีเพศสัมพันธ์ของหญิงระดับมัธยมศึกษาตอนต้นนั้นมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามที่มีลักษณะเด่นๆโดยมีรูปแบบการมีเพศสัมพันธ์เริ่มจากการคบกันเป็นแฟนในโรงเรียน
สถานการณ์ที่นำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์มี 2แบบคือตั้งใจ
ได้แก่การยุแหย่จากเพื่อน
ทำให้อยากลองส่วนแบบไม่ตั้งใจคือการอยู่สองต่อสอง
มีการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมด้วย ซึ่งสถานที่ไปมีเพศสัมพันธ์คือ
ที่บ้านฝ่ายชายตอนกลางวันบางส่วนพบว่า
ใช้เทคโนโลยีเพื่อนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ได้แก่
คอมพิวเตอร์โทรศัพท์มือถือสามารถนำไปสู่การตั้งครรภ์คือฝ่ายชายไม่ถุงยางอนามัยเนื่องจากมีขนาดไม่เหมาะสมและใช้การหลั่งนอก
ส่วนฝ่ายหญิงไม่รับประทานยาคุมกำเนิดเห็นว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก
ส่วนข้อเสนอแนะของกลุ่มเป้าหมายมีดังนี้
เรื่องความสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัวบทบาทของพ่อแม่
ชุมชนให้ความร่วมมือสอดส่องดูแลเยาวชนในพื้นที่
ด้านสถานศึกษาควรสอนเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ในเด็กมัธยมต้นและปรับทัศนคติในเรื่องการคบเพื่อนต่างเพศของนักเรียนและ
หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทำงาน
ในรูปเครือข่ายเพื่อแก้ไขปัญหา แบบมีส่วนร่วม
สนับสนุนทุนพัฒนานักวิจัย โดย
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ภายใต้โครงการพัฒนาต้นแบบการสร้างเสริมสุขภาพในบริบทพยาบาลชุมชน
ชมรมพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทย
ความรู้สึกของผู้วิจัยฝากถึงทีมจัดการ
งานวิจัยเชิงคุณภาพทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น
ความอดทนต้องมีและมากด้วย ทำให้เข้าใจ เห็นใจ
ผู้อื่นมากกว่าเดิม ...........
ความจริงที่อยากบอก...... ( 13 มิถุนายน 2549
) “ เฮือกสุดท้าย ”
ที่ใกล้จะจมน้ำตายสำหรับฉัน เป็นครั้งแรกในชีวิตจริง ๆ กับการ
PRESENT ข้อมูลที่ SENSITIVE ก่อนขึ้นเวที
รู้สึกตัวเริ่มชา สมองไม่รับรู้อะไร
บอกกับตัวเองว่า “ ช่างมัน”
ทำให้เต็มความสามารถก็แล้วกัน อะไรจะเกิดก็เกิด
ยอมรับได้ ….การ PRESENT ก็เป็นอย่างที่ท่านทราบ
.....แต่...ก่อนรุ่งเช้าของวันที่ 13 มิ.ย. กลุ่มเล็ก ๆ
กลุ่มหนึ่งที่บางคนนั่ง นอน บนพื้นห้องประชุมที่จะนำเสนอ
( นาย อ้อย สาวพะเยาดอกไม้ แอน สาวสุโขทัย
อุ้ยสาวเชียงราย และชาวสันทราย ( คุณหมอจุก
คุณหมอปลา มอน อ้อย และ ฉัน )
เป็นกลุ่มสุดท้ายที่จากกัน.....( 04.00 น )
ภาพเหล่านี้ยังประทับใจและจะอยู่ในความทรงจำของฉันตลอดไป
ขอบคุณทุกคำพูด ทุกตัวอักษรที่ PRESENT
นั้นเป็นตัวแทนของรุ่นฝ้ายคำและลืมไม่ได้
ลืมไม่ลงคือ ผู้กำกับมือทอง คุณหมอจุก ( ทันตแพทย์จุฑามาศ
) คุณหมอปลา ( ทันตแพทย์ อังคนา ) สุดยอดหมอ
“ ฟัน” ของเรา ขอบคุณอาจารย์
นายแพทย์ทวีศักดิ์
นพเกษรผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับงานวิจัยเชิงคุณภาพ ขอบคุณพี่ยา (
คุณจรรยาวัฒน์ ) คุณพี่อ้อย ( คุณรุจิรา ) คุณแจ๋ว (
คุณอุบล หน.ของดิฉันเองค่ะ ) และขอขอบคุณทีมวิจัย “
รุ่นฝ้ายคำ ” ทุกคนที่เป็นกำลังใจมาโดยตลอด
ขอบคุณมาก ขอบคุณค่ะ
อยากศึกษาข้อมูลเต็มๆ จังเลยคะ
ติดต่อที่ เจ้าของงานวิจัยเละครับ
สุพัฒน์