หลายคนชอบคิดว่า..ความฝันเป็นเรืองลมๆแล้งๆ ที่ไม่มีวันเป็นจริง
นั่นเป็นเพราะว่า..เขาแยกความฝันกับความจริงออกจากกัน..เก็บความฝันให้อยู่แต่ในฝัน..และดำรงตนให้ไหลไปกับความจริง..
แต่หากมองให้ดี..ความฝันกับความจริงมันมีแค่เส้นบางๆกั้นเอาไว้เท่านั้น..ถ้าหากแค่เรายืนมองมันจากฝั่งตรงข้าม..มันก็ยังคงเป็นสิ่งที่เราแตะต้องไม่ได้อยู่ดี แต่ถ้าเราใจดีสู้เสือ..ลองกล้าตัดสินใจกระโดดข้ามไป นั่นคือ..การลงมือทำ..ด้วยความมุ่งมั่นจะให้มันเป็นจริง..
พลังใจ..เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้อุปสรรคยิ่งใหญ่เท่าภูเขา
เหลือเท่าขี้มด..แต่มันต้องอาศัยองค์ประกอบอีกอย่างคือ..ความอดทน..นั่นคือ..ถ้าหากมีฝัน แล้วอยากให้มันเป็นจริง..เราต้อง "ทำ" และ "ทน"
การลงมือทำ..ทำให้ความฝันที่เรามองเห็นว่ามันอยู่ไกลเริ่มใกล้เข้ามา..ความอดทน..เป็นสิ่งที่เราต้องกระทำตามมา..
อดทนกับ"การรอคอย"..วันที่เราจะไปพิชิตมัน..
หนทางมันไม่ง่าย..ไม่งั้นคงไม่มีใครเรียกมันว่า.."ความฝัน" และคงไม่มีคนหลายคน..ยอมแพ้ทิ้งมันซะกลางคัน..
การลงมือทำ..และอดทน-ไม่ท้อถอย..จะได้รับการตอบแทน..และของขวัญที่จะได้รับจากความพยายามครั้งนี้..แน่นอน!! มันจะทำให้เราหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง..
และคงไม่มีใครได้สัมผัสความรู้สึกนั้นอย่างอิ่มเอม..เท่ากับเจ้าของความฝันชั้นนั้น..นั้นเอง!!!
ต่างคน ต่างมีความฝันที่ไม่เหมือนกัน มันก็จริงนะ ฝันแล้วต้องพยายามทำให้ฝันเป็นจริงให้ได้ แต่ต้องใช้ 2 ท จริงด้วย จะพยายามทำตามฝันต่อไป สู้ ๆๆๆๆ
มีอีกคำหนึ่งคือ"ความเพ้อฝัน" ความเพ้อฝันเป็นสิ่งที่เราคิดโดยไม่ได้ลงมือทำ แต่ความฝันเป็นสิ่งที่เราต้องการจะทำให้ได้ ดังนั้นอย่าปล่อยให้ความฝันของตัวเองต้องกลายเป็นความเพ้อฝันนะครับ "ทำ" กับ "ทน" จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดภายใต้สังกัด ททท.(ทำทันที)