769. Appreciative Inquiry กับ "ครอบครัว 4.0"


Family 4.0

วันนี้ผมอยากเขียนเรื่องครอบครัวครับ เป็นอะไรที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อหลายท่าน เนื่องจากรู้จักคนมาก เริ่มมีบางคนเอาปัญหาทั้งธุรกิจและเรื่องส่วนตัวมาคุยให้ฟัง เรื่องส่วนตัวเป็นอะไรที่มันคลาสสิกมากๆ เช่น

“ลูกสะไภ้ขี้เกียจ”

“เมียไม่มีความสุข”

“เมียเอาแต่ไปเจอเพื่อน”

“ลูกและเมียไม่เอาทางธรรมเลย”

“ลูกเรียนไม่เก่ง”

ผมจะค่อยๆตอบปัญหาห้าข้อนี้นะครับ แต่ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมเป็นอาจารย์ด้าน Appreciative Inquiry (AI) ผมใช้ AI ในการให้คำปรึกษา ..AI คือกระบวนการค้นหาสิ่งดีๆ ในตัวคน องค์กร เพื่อนำมาขยายผลสร้างการเปลี่ยนแปลง ...

สำหรับเรื่องความสัมพันธ์ของคนด้วยกัน ผมชอบทฤษฎีสัตว์สี่ทิศครับ ผมเอา AI มาตั้งคำถามดีๆกับคนทั้งสี่ทิศ แล้วเก็บข้อมูลไว้ครับ

เมื่อเจอคนมีปัญหา...โดยผมก็ใช้ข้อมูลที่ผมเก็บรวบรวมมาแชร์ให้ฟัง หลายคนก็เข้าใจแล้วกลับไปทำอะไรให้ดีขึ้น ผมเลยอยากมาเล่าให้ฟังว่าเป็นอย่างไร

มาทำความเข้าใจกันนิดสัตว์สี่ทิศคืออะไร มันคือบุคลิกคนที่มีข้อดีข้อเสียต่างกัน เป็นธรรมชาติเลย เช่นกระทิง เป้นพวกขาลุย แต่ด้านมืดคืองานได้ผล คนแหลกราญ อินทรี พวกคิดเยอะ ไอเดียบรรเจิด แต่ไม่ค่อยทำ หมีพวกเจ้าระเบียบ แต่บางทีหยุมหยิม หนู รักเพื่อน แต่บางทีไม่ควบคุมตนเอง ตามเพื่อนไปหน่อย ใจอ่อน

เอาเป็นว่าคนแต่ละทิศจุดอ่อน จุดแข็ง วิธีการใช้ชีวิต การมองโลก การหาความสุข การเรียนรู้ แม้กระทั่งการทำบุญต่างกันสุดั้ว มาดู Case แรกจะเริ่มเห็นปัญหา

แม่สามีบ่น “ลูกสะไภ้ขี้เกียจ” วันหยุดนอนเยอะ ชอบเสียตังค์ไปกิน เที่ยวไกลๆ

สามีอึดอัด ภรรยาอึดอัด สามีมาคุยกับผม.. เลยเปิด Slide ให้ดู เมื่อกลับไปถามใช่เลยครับ เรื่องนี้ผมสำรวจคนมาราวๆ 300 คน...จะเห็นว่าหมี ฟื้นฟูพลังด้วยการกินอาหารดีๆ ได้เที่ยว ได้พักผ่อน (นอน) ได้คุย.. คุณจะเห็นว่าความสุขของกระทิงจะเป็นอะไรที่ง่ายกว่ามากๆ หมีมีแนวโน้มจะให้เงินกับความสุขพอควรเช่นการกินดี แม่สามีกระทิงถ้าไม่เข้าใจ จะไปคนละทางทีเดียว


ที่สุดสามีไปทำอะไรครับ ภรรยาจะจริงจังทำงานเครียดมาก ไม่หยุด กลัวหาเงินไม่พอ เขาไปคุยที่สุดภรรยายอมพักหนึ่งวัน เขาจัดสภาพวดล้อมให้ภรรยาได้พักผ่อน สนับสนุนให้คุยกับเพื่อนสมัยเรียน เท่านั้นเองดีขึ้น ... และเขาเองก็มั่นใจจะสื่อสารแม่ตัวเองฟังด้วย รายนี้ Happy ขึ้น

Case ที่สอง เมียไม่มีความสุข .. จัดให้ครับเรื่องความสุข


ความสุขของเมียหมี กับสามีอินทรี ... จะเห็นว่าคนละเรื่อง กรณีนี้มี 2 case เหมือนกันเลย คือภรรยาไม่มีความสุข เครียด เมื่อมาดูที่ผมทำไว้..อ้อวางแผน ให้เธอวางแผนอะไรก็ได้ แล้วสนับสนุนให้เธอทำได้สำเร็จ มีรายหนึ่งชวนกันฝากเงินในบัญชีให้ลูก เท่านี้ทุกเดือนเธอก็มีความสุข อีกรายชวนทำสวน แค่นี้เธอนี้เธอก็ได้สนุกกับการวางแผนและก็สามารถสร้างความสำเร็จในระยะสั้นๆด้วย

อันนี้เจอลูกศิษย์สามีเป็นกระทิง “เมียเอาแต่ไปเจอเพื่อน”... มาดูครับภรรยาคนนี้เป็นหนู แน่นอนความสุขของหนูคือไปเจอเพื่อน พบปะพูดคุยกัน ...ธรรมชาติเขา ทำไงดีเมื่อรู้ พาไปเล่นกีฬาครับ กลายเป็นรู้จักคน มีแวดวงทางธุรกิจขึ้นมาทันที

“ลูกและเมียไม่เอาทางธรรมเลย” เสียงบ่นของสามี เลยถามได้ความว่าเมียเป็นหมี ลูกเป็นอินทรี ...ดูวิธีการทำบุญนะครับ... คนละโลก


หมีจะทำบุญอะไรเป็นระบบ ถ้าบริจาคต้องรู้ว่าเงินบริจาคไปไหน และชอบอะไรเป็น Formal ...เมื่อรู้เลยง่ายๆ มีหลักสูตรอะไรก็แชร์ facebook ให้เขา นานๆ แชร์ทีก็ได้ไม่ต้องเร่ง..ตอนนี้เรียนร้อยไปเข้า Course แล้วครับ ส่วนอีกคนลูกเป็นอินทรี ก็สบายๆ ครับส่ง Clip ให้ดูบ้าง (ลองแล้วแต่ยังไม่มีผลกลับมา) แต่ผมว่าอย่างน้อยก็กลับไปสร้างสภาพแวดล้อมให้เขามีความสุข มีความเบิกบานบ้างไว้จะดีครับ

“ลูกเรียนไม่เก่ง” นี่พ่อเป็นกระทิง ลูกเป็นหนู... คุณมาลองวิธีการเรียนรู้สิครับ ..คนละเรื่อง


กระทิงจะลุยเองลองผิดลองถูก ..ส่วนหนูเรียนกับเพื่อน ปรึกษาหารือ เรียนรู้จากคนอื่น..ผมแนะนำเอาไปฝากครูที่เก่งๆ และหาเพื่อนไปเรียนกับเขา เปิดบ้านให้ลูกพาเพื่อนมาคุยกัน ให้เขาคบหามิตรดีๆ ส่วนอีกคนเพิ่งมาใหม่ พ่อเป็นอินทรี ลูกเป็นอินทรีแม่เป็นหมี ลองติวเลขให้ลูกปรากฏว่าแม่ที่เป็นหมีสอนเป็น Step ทำให้ลูกอินทรีที่มักเลินเล่อ จับจุดได้ดีกว่า มี Basics แม่น ..ส่วนพ่อที่เป็นอินทรีก็ให้ติววิชายากๆ ทางสังคม กฏหมาย เพราะพ่ออินทรีจะมี idea เชื่อมโยงวิชายากๆ ได้ ทำให้ง่ายลงได้

รายเดียวกันบอก “ลูกจะสู้ใครได้เนี่ย” หนูทำอะไรได้เยอะครับ เป็นวิทยากร เป็นหมอเด็กเก่งๆ เป็น HR เงินเดือนแพงๆ ก็มีให้เห็น เลยบอกเขาไป..หนูเป็นเหมือนนักจิตวิทยาโดยธรรมชาติ เขาเข้าใจคน และดูแคนอื่นได้ดีมากๆ ไม่เครียด และอย่าไปกดดันเขาครับ สบายๆ เขาจะไปได้เอง แค่เน้นให้รู้จักคบเพื่อนให้ถูกคน ปฏิเสธให้เป็น ควบคุมวินัยตัวเองให้ได้ เท่านั้นก็ไปได้ไกลแล้วครับ

ครอบครัวเป็นอะไรที่สำคัญ และเข้าใจผิดกันง่ายๆ ทำไมครับ เพราะตั้งแต่ผมศึกษามาเป็นพันครอบครัว ก็ค้นพบว่า 99.99999% พ่อแม่ลูกอยู่คนละทิศครับ ถ้าไม่เข้าใจเรื่องนี้ ก็จะพบกับความแปลกแยกมากขึ้นเรื่อยๆ น่าสงสารมากครับ

และที่สุดพยายามเน้นให้คนในครอบครัวพัฒนาตัวเองให้มีสี่ทิศในตัวให้ได้ นั่นคือแผนระยะยาว...ผมไปเจอบริษัทดีๆ คนที่เป็นคนเก่ง เงินเดือนสูง ไ้ด้รับการยกย่องจากคนในองค์กรมักเป็นคนมี 3 ทิศอย่างต่ำ ..ถ้าเขาจะคัดคนมาเรียนกับผมในหลักสูตร Talent Development Programme จะมีอย่างต่ำ 2 ทิศ..ส่วนที่ไม่คัดมา มักจะเป็นคนเก่งมาก แต่ไปกลับคนอื่นไม่ได้คือเป็นคนมีทิศเดียวในตัว กลายป็นคนเก่งแต่ไม่ก้าวหน้า ไปไม่ถึงไหนอย่างน่าเสียดาย

มีอะไรอีกมากที่ผมเก็บข้อมูลไว้ จะเอามาเล่าอีกในโอกาสอันควร

วันนี้พอเท่านี้ เพียงเล่าให้ฟัง ลองเอาไปพิจารณาดูนะครับ

บทความโดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์


หมายเลขบันทึก: 617593เขียนเมื่อ 29 ตุลาคม 2016 13:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม 2016 14:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท