1-ละครและวิถีไทย ดูละคร (เรามักไม่ย้อนดูตน)
2-Don't limit a child to your own learning, for he was born in another time. [ Tagore ]
Cre: Rumi page
3-จิตวิทยาเด็ก
4-กลุ่มดราก้อนบอล(ในเฟสบุ๊ค)
4.1-น้าต๋อยคนพากย์ดราก้อนบอลป่วย เคยเห็นสมาชิกในกลุ่มโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับคนๆหนึ่งที่พาดพิงว่าการ์ตูนเป็นเรื่องไร้สาระ แล้วก็มีเด็กคนหนึ่งที่ดูการ์ตูนผ่านน้าต๋อยมาแต่ และเป็นหมอ (ขออาสาช่วย)
จากชุดข้อมูลและ/หรือ องค์ความรู้ ข้างต้น สอนผมหลายอย่าง ผ่านหลายช่วงอายุ วัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน และตอนนี้เป็นพ่อคน
การวิพากษ์วิจารณ์ บทนิยาย ไม่ว่าจะเป็น ละคร หนัง หรือแม้แต่การ์ตูน(ก็ไม่เว้น) เป็นสิ่งที่กระทำกันโดยทั่ว แต่บางครั้ง คนวิจารณ์ ก็มักจะล้ำเส้นในส่วนของผู้แต่งไปหลายระยะทีเดียว ทำไมคนนั้นไม่เป็นแบบนี้ ทำไมตัวละครตัวนั้นไม่ทำแบบนั้น
แม้มันจะดูตึงเครียดหรือน่าเบื่อสำหรับบางท่าน แต่ผมกลับสนุกและมีความความสุขกับการแกะปรัชญาต่างๆจากสิ่งรอบข้าง
จาก ข้อ 2
การ์ตูนเปรียบเสมือนเด็ก ถ้าเราพยายามใส่ความเป็นเราเป็นผู้ใหญ่ พยายามใส่โลจิกในธรรมชาติของเด็ก(หรือการ์ตูน) นั่นเรากำลังทำร้ายเขา เรากำลังมีปัญหา เรากำลังฝืนธรรมชาติ ของเขา
ความผิดพลาดทางเทคนิคของผู้จัดทำการ์ตูน ก็เปรียบเสมือน ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็ก บางอย่างก็มองผ่านไปได้บางอย่างที่อันตรายก็ตักเตือน/วิจารณ์ ในวิสัย
จากข้อ 1
เคยโพสต์ในกลุ่ม (ข้อ-4) ว่า ถ้า คนอย่างฟรีเซอร์ จอมมารบูร (ตัวร้ายในดร้าก้อนบอล) มาเดินตลาดสดในเมืองไทย อาจเจอตบเจอด่าจากแฟนการ์ตูนได้
นี่แหละที่ซ้ำร้าย เราไปกำกับ เนื้อเรื่อง ของคนอื่นมากเกิน บางครั้ง ก็เลยเถิดจน หมดเสน่ห์ของการวิเคราะห์วิจารณ์ เมื่อครั้งถูกติงก็มักจะแก้ตัวว่าขำๆ หลายครั้งที่เราจริงจังในการวิจารณ์ผู้อื่น พูดถึงผู้อื่นในหน่วยในมิติของเรา
ไม่มีความเห็น