ช่วงเช้าวันนี้เป็นการจัดพิธีวันไหว้ครูประจำปีการศึกษา 2559 โรงเรียนพุทธิโศภน บรรยากาศอบอวลด้วยความอบอุ่น จึงหวนคิดไปถึงภาพพิธีไหว้ครูเมื่อครั้งยังเป็นนักเรียน ก่อนจะมาโรงเรียนเด็กน้อยทั้งหลายต้องทำสวยดอกและหาดอกไม้มาให้ครบ ซึ่งประกอบไปด้วย
1. หญ้าแพรก เป็นสัญลักษณ์แทนความเจริญงอกงามอย่างรวดเร็ว และความอดทน เพราะแม้ต้องอยู่ในพื้นที่แห้งแล้ง หรือโดนเหยียบย่ำ แต่หญ้าแพรกก็จะไม่ตาย แต่ถ้าได้รับน้ำเมื่อใด ก็จะเจริญงอกงามได้อีกครั้ง เช่นเดียวกับลูกศิษย์ ที่เมื่อได้รับการอบรมสั่งสอนจากครู ก็จะรับรู้และนำไปปฏิบัติให้เกิดผลดีต่อตนเองและสังคมต่อไป ดังนั้น คนโบราณจึงถือเอาเป็นเคล็ดว่า ถ้าใช้หญ้าแพรก ดอกมะเขือไหว้ครูแล้ว สติปัญญาของเด็กจะเจริญงอกงามเหมือนหญ้าแพรกและดอกมะเขือนั่นเอง
2. ดอกเข็มเป็นสัญลักษณ์แทนความแหลมคมประดุจเข็ม เปรียบดังสติปัญญาที่มีความเฉียบคมราวเข็ม ประหนึ่งเป็นอาวุธที่จะใช้ป้องกันตนได้ในทุกโอกาส ดังนั้น คนโบราณจึงถือเอาเป็นเคล็ดว่า ถ้าใช้ดอกเข็มไหว้ครู นอกจากมีสติปัญญาที่มีความเฉียบคมแล้ว จะทำให้ชีวิตมีความสดชื่นเหมือนรสหวานของดอกเข็ม
3. ดอกมะเขือ เป็นสัญลักษณ์แทนความสะอาดบริสุทธิ์ของจิตใจ เป็นคนซื่อสัตย์ อ่อนน้อมถ่อมตนของลูกศิษย์ที่มีต่อครู ดังเช่นลักษณะของดอกมะเขือที่โค้งลง เหมือนเป็นการแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน ในขณะที่ดอกมะเขือดอกใดชี้ดอกขึ้นเหมือนดอกไม้ชนิดอื่น ดอกนั้นจะไม่ให้ผล เพราะจะเน่าร่วงหล่นไป เหมือนบุคคลที่ขาดความอ่อนน้อมถ่อมตน ขาดความเคารพก็จะหมดโอกาสที่จะได้รับการถ่ายทอดความรู้จากครู
4. ข้าวตอก เป็นสัญลักษณ์ของความมีระเบียบวินัย หากใครสามารถทำตามกฎระเบียบ เอาชนะความซุกซนและความเกียจคร้านของตัวเองได้ บุคคลนั้นก็จะเป็นเหมือนข้าวตอกสีขาวที่ถูกคั่วออกจากข้าวเปลือก แต่หากใครที่ทำตามใจตนเอง โดยไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ บุคคลนั้นก็จะเป็นเหมือนข้าวเปลือกที่ถูกคั่ว แต่ไม่มีโอกาสได้เป็นข้าวตอก (ที่มา : http://education.kapook.com/view64510.html)
จากความหมายของการใช้ดอกในพิธีไหว้ครูดังกล่าวนั้น จะใช้ดอกไม้วันไหว้ครูทั้ง 4 อย่างนี้เป็นหลักในการจัดพานไหว้ครู นอกจากนี้ยังนิยมนำดอกไม้
อื่น ๆ มาร่วมจัดพานไหว้ครู เพื่อให้พานมีความสวยงามมากขึ้นด้วย เช่น ดอกมะลิ บานไม่รู้โรย ดอกบัว ดอกดาวเรือง เป็นต้น
พานของนักเรียนนั้นสวยงามยิ่งนัก
ไม่มีความเห็น