พระตรีมูรติหรือผู้เป็นเจ้าทั้งสาม มีตัวอักษร ๓ ตัว อันศักดิ์สิทธิ์เรียกกันว่า “โอม”
ประกอบด้วยอักษร ๓ ตัวคือ
“อะ” หมายถึง พระวิษณุหรือพระนารายณ์
“อุ” หมายถึง พระอิศวรหรือพระศิวะ
“มะ” หมายถึง พระพรหม
ประวัติความเป็นมา
โดยศาสนาและระบบวรรณะเป็นเครื่องมือ
พัฒนาการของศาสนา
ยุค |
ลักษณะสำคัญ |
ยุคพระเวท |
*ชาวอารยันแบ่งเทพเจ้าเป็น 3 กลุ่ม คือ บนโลก บนอากาศ บนสวรรค์ เช่น พระวรุณ(เทพแห่งฝน) พระวายะ(เทพแห่งลม) พระสุริยะ(เทพแห่งพระอาทิตย์) *เทพเจ้าองค์ใดได้รับการนับถือมากที่สุด จะได้รับการยกย่องเป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ เรียกว่า ประชาบดี (ผู้ใหญ่ ผู้สร้างโลก) ( พระพรหม ) *มีการสวดสรรเสริญพระเจ้ามากขึ้น โดยพราหมณ์เป็นผู้รวบรวมไว้ในคัมภีร์ |
ยุคพราหมณ์ |
*อิทธิพลของพราหมณ์มีมากที่สุด ผูกขาดการประกอบพิธีกรรมต่างๆของศาสนา *มีความเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายตายเกิด และการเกิดใหม่ |
ยุคฮินดู |
เกิดความเชื่อในเทพเจ้า 3 องค์ เรียกว่า “ ตรีมูรติ “ 1. พระพรหม ผู้สร้างโลก 2. พระนารายณ์หรือพระวิษณุ ผู้รักษาโลก 3. พระศิวะหรือพระอิศวร ผู้ทำลายโลก ( เพราะมีคนชั่วมากเกินไป ) |
หลักธรรมพื้นฐาน : วรรณะ เน้นเรื่องสีผิว ของสังคมในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มี 4 วรรณะ
วรรณะ |
เกิดจากอวัยวะของพระพรหม |
อาชีพ ( หน้าที่การงานในสังคม ) |
พราหมณ์ |
ปาก |
ครู นักบวช ผู้ปกครอง |
กษัตริย์ |
แขน |
นักรบ นักปกครอง |
แพศย์(ไวศยะ) |
ท้อง |
พ่อค้า แม่ค้า อาชีพเกี่ยวกับเศรษฐกิจ |
ศูทร |
เท้า |
กรรมกร ผู้ใช้แรงงาน |
ขั้นตอนการดำเนินชีวิตตามหลักอาศรม
อาศรม 4 |
หน้าที่ |
พรหมจารี |
*เป็นวัยเรียน ต้องตั้งใจศึกษาคัมภีร์พระเวท *วรรณะศูทรไม่รับการอนุญาตให้เรียนได้ *เมื่ออายุครบ 5,8,16 ปี ต้องทำพิธีอุปนยัน (อุปนยสังสการ = การมอบตัวขอเป็นศิษย์ ) |
คฤหัสถ์ |
*วัยครองเรือน *ทำหน้าที่เป็นสามี ภรรยาที่ดี เมื่อมีลูกก็ต้องทำหน้าที่เป็นพ่อ แม่ที่ดี |
วานปรัสถ์ |
*ออกบวช เมื่อลูกผ่านวัยพรหมจารี จนถึงคฤหัสถ์ *ต้องเข้าป่าหาความสงบ ฝึกจิตให้บริสุทธิ์ |
สันยาสี |
*วัยบรรลุเป้าหมายของชีวิต *เข้าบำเพ็ญเพียรตามหลักศาสนา เพื่อจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต คือ โมกษะ |
หลักปรมาตมัน โมกษะ
ปรมาตมัน ( บรม + อาตมัน ) = วิญญาณอันยิ่งใหญ่ (พระเจ้า)
อาตมัน = วิญญาณย่อยที่ออกมาจากปรมาตมัน แล้วเข้าไปสิงในร่างกาย1 ชีวิต
โมกษะ = การหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดด้วยการบำเพ็ญมรรค 4 ของสันยาสี
เป็นมุ่งหมายสูงสุดของชีวิตของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู
มรรค 4 = หนทางสู่โมกษะ ประกอบด้วย
กรรมมรรค =การกระทำ โดยไม่หวังผลตอบแทน
ชญาณมรรค =การใช้ปัญญาญาณในการดำเนินชีวิต
ภักติมรรค =ความภักดีต่อพระเจ้า
ราชมรรค =การฝึกจิตใจให้แข็งกล้า
กฎแห่งกรรมและสังสารวัฏ
นิกาย |
เทพเจ้าที่นับถือ |
เป้าหมาย-ลักษณะสำคัญ |
พรหม |
พระพรหม |
ปัจจุบันมีความสำคัญลดน้อยลง |
ไวษณพ |
พระวิษณุ (นารายณ์,หริ,ภควัท,วาสุเทพ) |
*เชื่อมั่นในการอวตารของพระวิษณุ เพื่อปราบยุคเข็ญ เรียกว่า = นารายณ์ 10 ปาง เป้าหมายสูงสุด ถึงโมกษะ |
ไศวะ |
พระศิวะ(พระอิศวร) |
*เป้าหมาย คือ โมกษะไปรวมกับพระศิวะด้วยการบำเพ็ญตน (ทรมานตนเอง) *โดยใช้ขี้เถ้าทาตามร่างกาย และทำเครื่องหมาย 3 ขีด บนหน้าผาก เรียกว่า สีหาสันทน์ *สัญลักษณ์ คือ ศิวลึงค์ *นับถือมากทางภาคเหนือของอินเดีย |
ศักติ(ศากตะ) |
พระชายาของเทพเจ้า |
*พระอุมา = พระชายา พระศิวะ *พระลักษณี = พระชายาพระวิษณุ *พระสุรัสวดี = พระชายาพระพรหม |
พิธีกรรม
พิธีกรรม |
ลักษณะสำคัญ |
หลักปฏิบัติเกี่ยวกับวรรณะ |
*ต้องเป็นวรรณะเดียวกันถึงจะแต่งงานได้ (ถ้าชายเป็นพราหมณ์อนุโลมให้แต่งกับวรรณะอื่นๆได้ แต่หญิงเป็นวรรณะพราหมณ์จะทำอย่างชายไม่ได้) *ต้องวรรณะเดียวกันถึงจะปรุงอาหารให้กันและกัน และนั่งกินอาหารร่วมกันได้ *การประกอบอาชีพต้องเป็นไปตามวรรณะ |
สังสการ(พิธีกรรมประจำบ้าน) |
*เป็นพิธีกรรมที่ทำให้บริสุทธิ์ จะเป็นผู้บริสุทธิ์ต้องทำพิธีนี้ *วรรณะศูทร ห้ามทำ เช่น พิธีตั้งครรภ์ พิธีคลอดบุตร พิธีนำเด็กไปดูพระอาทิตย์ขึ้น พิธีกลับบ้านเมื่อศึกษาจบ *พิธีแต่งงาน |
ศราทธ์ |
*เป็นพิธีทำบุญให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว *ทำช่วงเดือน 10 ( ตั้งแต่แรม 1 ค่ำ – แรม 15 ค่ำ ) *บูชาด้วยข้าวบิณฑ์ *ต้องให้ลูกชายทำพิธี เพราะเชื่อว่าจะทำให้ผู้ตายพ้นจากนรก ขุม ปุตตะ *สปิณฑะ = ผู้ร่วมพิธีข้าวบิณฑ์ คือ ญาติฝ่ายบิดา มารดานับขึ้นไป 3 ลงมา 3 ชั่วคน |
คัมภีร์พระเวท มี 4 คัมภีร์ย่อย
คัมภีร์ |
สาระสำคัญ |
ฤคเวท |
คำอ้อนวอน บทสวดสรรเสริญเทพเจ้า |
ยชุรเวท |
คู่มือทำพิธีบูชายัญต้องศึกษาเป็นพิเศษ |
สามเวท |
เป็นบทร้อยกรอง ไว้สวดในพิธีถวายน้ำโสมแก่พระศิวะ |
อาถรรพเวท |
รวบรวมคาถาอาคม เพื่อให้พ้นภัยจากศัตรู |
*อาถรรพเวท มีบางคนไม่ยอมรับ เพราะเป็นไสยศาสตร์
*สามคัมภีร์แรก ฤคเวท ยชุรเวท สามเวท = ไตรเวท ( ไตรเทพ )
พราหมณ์รู้และสอน คือ ความรู้เกี่ยวกับคัมภีร์พระเวทอันศักดิ์สิทธิ์ พราหมณ์แบ่งออกเป็น ๔ ประเภทตามความรู้ความชำนาญ คือ
1. พราหมณ์ผู้ชำนาญมนตร์ในพระเวท
2. พราหมณ์ผู้ชำนาญการทำพิธีกรรม
3. พราหมณ์ผู้ชำนาญการขับกล่อมเทพเจ้า
4. พราหมณ์ผู้เป็นประธานในพิธีบูชาไฟและชำนาญเกี่ยวกับคัมภีร์เวทมนตร์อาถรรพณ
ชาวฮินดูเชื่อกันว่าพราหมณ์มีกำเนิดจากพระเศียรของพระพรหม จึงมีสถานภาพสูงกว่าคนวรรณะอื่นๆ
พระพรหม หรือ พระพรหมมา เป็นมหาเทพ ผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง
พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์ เป็นมหาเทพ ผู้ดูแลรักษาทุกสรรพสิ่ง
พระศิวะ หรือ พระอิศวร เป็นมหาเทพ ผู้ทำลายทุกสรรพสิ่งมหาเทพทั้ง 3 พระองค์นี้
เมื่อรวมกันจะเรียกว่า พระตรีมูรติ องค์พระเป็นเจ้าแห่งพลังอำนาจทั้งสามประการ ผู้เป็นพระเป็นเจ้าแห่งสรรพชีวิตทั้งปวง
พระวิษณุเทพ มีพระชายาคือ พระแม่ลักษมี พระแม่เจ้าผู้ประทานความอุดมสมบูรณ์ และความผาสุกแก่ผู้ศรัทธา
ผู้ซึ่งคอยอยู่เคียงข้างพระวิษณุ และคอยอวตารไปเป็นชายาพระวิษณุในทุกๆภารกิจ
พระศิวะ หรือ พระอิศวร
พระชายา คือ พระแม่อุมาเทวีบุตร คือ พระพิฆเนศเป็นเทพที่จะอำนวยพรประทานความ
อุดมสมบูรณ์ให้แก่ผู้ที่มีอาชีพเลี้ยงวัว เลี้ยงม้า หรือเลี้ยงแกะ และอาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรทั้งปวง
เป็นเทพเจ้าแห่งการดนตรี และการร่ายรำ ระบำฟ้อนเป็นเจ้าแห่งการทำลายล้าง
ไม่มีความเห็น