วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ผมไปช่วยคุณครูเพ็ญศรี ใจกล้า ทำหน้าที่กระบวนกร "พาคิดเรื่องที่จะทำโดยนำคุยผู้ที่เกี่ยวข้อง" ซึ่งผู้ที่มีบทบาทสำคัญมากๆ ที่ทำให้เกิดโครงการนี้คือ CSR ของบริษัทซัมซุง (เรียกว่าโรงเรียนซัมซุง) และกลุ่มนักเรียน "ฮักนะเชียงยืน" และปีนี้ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้มีโอกาสเข้ามร่วมด้วย และเข้ามาช่วยเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดงานครั้งนี้ ที่ห้อง PH 201 คณะสาธารณสุขศาสตร์ ดังภาพ
ถ้า "การศึกษาไทย" แบ่งไว้ ๔ ยุค ได้แก่
- ยุค ๑.๐ ครูถ่ายทอดสู่นักเรียน
- ยุค ๒.๐ ครูพาเรียน ครูนำทำกิจกรรม
- ยุค ๓.๐ นักเรียนเรียนเอง ศึกษาเอง ครูเป็นผู้อำนวยการเรียนรู้
- ยุค ๔.๐ นักเรียนและครูเรียนรู้ร่วมกัน เน้นการคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ มุ่งสู่นวัตกรรมทางความคิด ครูเป็นนักสร้างแรงบันดาลใจ
กระบวนการเรียนรู้ในวันนี้ จัดไว้ในยุคที่ ๓.๐ นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง ผ่านการลงมือทำและมานำน้อง ๆ รุ่นใหม่ให้เรียนรู้ตามประสบการณ์ของตนเอง และสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่คือการมุ่งสู่ ยุค ๔.๐ ต่อไป
ผมไม่ได้สังเกตการกิจกรรมในส่วนของนักเรียนมากนัก เนื่องจาก หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายวันนี้ คือเป็นผู้อำนวยการสนทนาของวงผู้ใหญ่ใจดี ซึ่งวันนี้มาร่วมกันอย่างคับคั่ง ดังนี้รับ
- ผู้บริหารของบริษัทซัมซุง ประเทศไทย (จำกัด) ผู้ให้การสนับสนุนทุนการศึกษาในโรงเรียนซัมซุง ซึ่งปีนี้ขยายผลไปสู่ ๕ โรงเรียน
- นายอำเภอเชียงยืน ท่านมาเอง... และอยู่จนจบงานเลยครับ สุดยอดจริงๆ
- ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีทั้งผู้ใหญ่บ้าน อดีตนายก อบต.
- ปราชญชาวบ้าน ... ผมจำชื่อได้ คุณป้าลมโชย ... แนะนำให้เด็ก ๆ ไปเรียนรู้จากท่านมาก ๆ
- ผู้ปกครองของนักเรียน
- นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ดร.ญาณวุฒิ อุทรักษ์
- ผู้อำนวยการโรงเรียนนาข่าวิทยาคม ผอ.คม แคนสุข และ ผอ.โรงเรียนเชียงยืนพิทยาคม นายทรงรัตน์ ธนมาลาพงศ์
- ศึกษานิเทศก์ประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัด ดร.นงเยาค์ แคนสุข และ อ.เครือมาศย์ ชินกร
- ครูผู้เข้าร่วมโครงการ ครูวรารักษ์ ภูเฉลิม จากโรงเรียนมะค่าพิทยาคม ครูศิริลักษณ์ ชมภูคำ โรงเรียนบ้านหินลาด ครูเพ็ญศรี กานุมาร โรงเรียนนาสีนวนพิทยาสรรค์ เป็นต้น
- ครูเพ็ญศรี ใจกล้า ครูผู้เป็นจุดเริ่ม เป็นความสำเร็จที่กำลังจะขยายต่อไป
ข้อสรุปการสนทนา
ผลสรุปการสนทนาสรุปเป็นขั้นตอนในการดำเนินการต่อไป ดังแผนภาพ
- เวทีวันนี้ (๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๙) ถือเป็นเวทีเปิดและประชาสัมพันธ์โครงการโรงเรียนซัมซุงช่วงขยายผล สิ่งที่ได้จากเวทีนี้ นอกจากจะเด็กจะเข้าใจปัญหาและกำหนดเป้าหมายร่วมกันแล้ว คณะครู ผู้ปกครอง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ยังได้ร่วมกันกำหนดแนวทางร่วมกัน
- ขั้นต่อไปคือ การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการทั้งครูและตัวแทนนักเรียน โดยมีทีมอาจารย์จากมหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นวิทยากร โดยมุ่งเป้าหมาย ให้นักเรียนได้เรียนรู้สิ่งต่อไปนี้ ดังนี้
- ความรู้พื้นฐานที่จำเป็นเรื่องป่าและเรื่องการเดินป่า
- กระบวนการเรียนรู้จากป่า
- ทักษะการใช้เครื่องมือเรียนรู้จากป่า
- มีประสบการณ์ในการทำข้อมูลป่า เช่น ทำ QR code เก็บข้อมูลต้นไม้ เป็นต้น
- ขั้นต่อมาอาจจะจัดพร้อมๆ กับขั้นตอนการฝึกอบรมฯ วัตถุประสงค์ของขั้นนี้คือ ให้นักเรียนแกนนำตัวแทนจากแต่ละโรงเรียนได้ทดลองใช้ความรู้ที่ได้ฝึกอบรมมานั้นไปใช้จริงๆ ในการเดินสำรวจป่า ... คิดว่าน่าจะเป็นป่าที่ อ.เชียงยืน
- หลังจากมีประสบการณ์บ้างแล้ว นักเรียนแกนนำของแต่ละโรงเรียนจะต้อง ไปติดต่อโรงเรียนระดับประถมศึกษา เพื่อติดต่อขอจัดกิจกรรมพาน้องเรียนรู้เรื่องป่า โดยใช้กิจกรรมที่ได้เรียนรู้จากพี่ๆ จากกลุ่มฮักนะเชียงยืน ... น่าจะมีกลุ่มฮักเชียงยืนไปช่วยทุกโรงเรียน
- ต่อด้วยการจัดค่ายเดินสำรวจป่าชุมชนของตนเอง อาจเป็นป่าในโรงเรียนหรือในชุมชน แล้วแต่ความเหมาะสม ซึ่งถ้าผู้อำนวยการโรงเรียนและกรรมการสถานศึกษาจริงจัง เด็กประถมจะได้พลังแห่งการเรียนรู้ไม่น้อยเลย
- กิจกรรมสุดท้ายคือ การจัดเวที Show & Share เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนจากทุกโรงเรียนได้นำเสนอผลงานของตนเอง และได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
ความจริง เราคุยกันลึกถึงบทบาทของแต่ละคนแต่ละท่าน และบางส่วนถึงกับกำหนดเวลาไว้อย่างชัดเจนว่า อีก ๑ ปี ต่อไปนี้ เราจะมารวมกัน ...
ขอจบไว้เท่านี้ครับ .... ขออภัยที่ใช้เวลานานเหลือเกินกว่าจะนำมาบันทึกไว้....