สวัสดีลูกศิษย์และชาว Blog ทุกท่าน
วันนี้ 27 มิถุนายน 2559 ได้รับเกียรตินักศึกษาระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ หลักสูตรปรัชญาดุษฏีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ ได้กำหนดให้มีการจัดโครงการสัมมนาวิชาการด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ โดยผมปาฐกถาเรื่อง ทุนมนุษย์และการบริหารการเปลี่ยนแปลง ของมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ กว่า 300 คน ทั้งนักศึกษาระดับต่างๆและ บุคคลทั่วไป (ขอขอบคุณคุณสยาม เศรษฐบุตร ที่ให้เกียรติเชิญผมมาในวันนี้)
ผมจึงขอใช้ Blog นี้ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันครับ
จีระ หงส์ลดารมภ์
ทีมงาน Chiaacademy
สรุป การบรรยาย เรื่อง ทุนมนุษย์และการบริหารการเปลี่ยนแปลง ของมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ
วันนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงระดับ Macro , Micro อยากให้มีการปะทะกันทางปัญญา
อ.พิชญ์ภูรี : ดูจากหัวข้อน่าสนใจ และมีวิสัยทัศน์และมองการไกลมาก ประเทศไทยเรามีบทเรียนเรื่องอังกฤษ เรื่องการบริหารการเปลี่ยนแปลง อังกฤษ เรื่องการเคลื่อนย้ายแรงงาน เรื่องการทำงานใน EU มีคนยุโรปในอังกฤษ และสนธิสัญญาเรื่องทุนมนุษย์ ติดตามว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ความคาดหวัง คือสิ่งที่อ.จีระอยากให้เห็นถึงทฤษฎี การแคปเจอร์หัวข้อสำคัญๆ สิ่งที่ท่านจะได้คือ การขมวดเพื่อให้ท่านได้แนวคิดและทฤษฏีเพื่อไปใช้ในทุนมนุษย์ สิ่งที่ท่าน อ.จีระจะบรรยายคือ เลือกทรัพยากรมนุษย์ มีการคาดคะเนอนาคตที่จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเองและสังคม เลือกสิ่งที่เราเก่งและแตกต่าง และมีวิธีการที่สามารถทำได้
วัตถุประสงค์
•อยากให้ทุกท่านดูจากทฤษฎีของผม และที่สำคัญคือทฤษฎี 4L's
ในระดับประเทศมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะ..สังคมสูงอายุ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งขยายตัวอย่างมากมายในปัจจุบัน เป็นคลื่นลูกที่ 3 ของอินเตอร์เน็ต มีปัญหาภาวะโลกร้อน การปรับตัวให้ประเทศไทยหลุดพ้นจาก middle income trap ต้องเน้นการผลิต
การบริหารทางการค้า เศรษฐกิจให้มีมูลค่าเพิ่มไม่ใช่แบบ..
ต้องเน้นไปที่การให้ความรู้และการให้ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity& Innovation) ดูแล Sector ที่ใช้ภูมิปัญญาของเรา เช่น ท่องเที่ยว การแพทย์แผนไทย การเกษตรมูลค่าเพิ่ม
ประเทศชอบก็อปปี้ ใช้แรงงานราคาถูก เราหันมาดูภูมิปัญญา เช่น การท่องเที่ยว ซึ่งมาแรงในประเทศไทย และมาจากประเทศจีน ประมาณ 12% อาจจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงให้ได้
ซึ่งผมจะสรุปภาพการเปลี่ยนแปลงและทุนมนุษย์ในระดับ Macro หรือภาพใหญ่ไว้ ดังรูป HR Architecture ดังนั้นในระดับประเทศเราจึงต้องมีคุณภาพของทุนมนุษย์ที่สูงขึ้น ซึ่งผมเรียกว่าเป็นการปลูก หรือ พัฒนาคน ให้มีคุณสมบัติแบบ 8K’s+5K’s (ใหม่)
มีคุณสมบัติของคน เราจะเจอการเปลี่ยนแปลงเช่น การแข่งขัน ประชาธิปไตย ความยากจน ปัญหาในประเภทต่างๆ ทำให้เราต้องแก้ไข โดยการมีคุณธรรมจริยธรรม คิดเป็น วิเคราะห์เป็น คิดแบบวิทยาศาสตร์ คิดแบบ Creativity Innovation สังคมการเรียนรู้ จิตสาธารณะ
เรื่องทุนมนุษย์ หรือ คน .. ต้องมีปรัชญาและความเชื่อเสียก่อนว่า คน คือ ทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร ต้องวัดทุนมนุษย์ไม่ได้วัดจากปริมาณ แต่วัดด้วยคุณภาพ เราจึงต้องมี 8 K’s : ทฤษฎีทุน 8 ประเภทพื้นฐานของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
Human Capital ทุนมนุษย์
Intellectual Capital ทุนทางปัญญา
Ethical Capital ทุนทางจริยธรรม
Happiness Capital ทุนแห่งความสุข
Social Capital ทุนทางสังคม
Sustainability Capital ทุนแห่งความยั่งยืน
Digital Capital ทุนทาง IT
Talented Capital ทุนทางความรู้ ทักษะ และทัศนคติ
หนังสือ Dave Ulrich ได้พูดไว้หลายปีแล้วในหนังสือ HR Champions ว่า New HR ที่ดีต้องเป็น Strategic Partners กับกลุ่มในองค์กร อย่าทำอะไรแบบแยกเป็นส่วนๆ หรือ “Isolation” และ คุณ Ulrich เน้น HR เป็นส่วนหนึ่งของ Change Agent
ผมได้เขียนบทบาทของ HR ยุคใหม่ไว้ ในตาราง Old HR and New HR นักทรัพยากรใหม่ต้องมีดังนี้ New HR
ถ้าเราเน้น Macro และ Micro มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ อาจจะเรียนเรื่อง HRD และ HRM ปลูกทุนมนุษย์แล้วก็ต้องเก็บเกี่ยวด้วย การทำงานต้องมีปลูก คือพัฒนาและจัดการบริหารทุนมนุษย์เหล่านั้น และปรับบริหารให้ดีและสูงสุด
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนแปลง ผมได้ลองเขียนแนวของผม 9 ข้อ ซึ่งในนั้นจะเน้นวัฒนธรรมการเรียนรู้ (Learning Culture) หรือ Life long learning ของผมเป็นหลัก
กฎ 9 ข้อ Chira - Change Theory
1.Confidence มั่นใจ
2. Understanding Future
3. Learning Culture
4. Creativity
5. Networking
6. ชนะเล็กๆ
7. ทำต่อเนื่อง 3 ต.
8. ผลประโยชน์ต้องกระจายทุกกลุ่ม
9. Teamwork in diversity
Networking สำคัญมาก ค่อยๆเปลี่ยน ชนะเล็กๆ ทำงานเป็นทีม และมีความหลากหลาย
ส่วนแนวคิดของ John Kotter ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Leading Change จะเน้นจุดที่มากดดันเรียกว่า “Sense of Urgency” ซึ่งสำหรับประเทศของเราในระดับ Macro ก็ต้องยอมรับว่าระบบราชการเป็นตัวอันตรายที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว
John Kotter ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Leading Change พูดถึง กลยุทธ์ในการกระตุ้นการเปลี่ยนแปลง 8 ขั้นตอน โดยถือเป็นภาระของผู้นำที่จะต้องกระตุ้นองค์การให้เปลี่ยนแปลง ดังนี้
เราต้องมีแรงกดดัน และมีเป้าหมาย และเกิดความเป็นเลิศ มาจากแรงบันดาลใจของมนุษย์ ค้นหาตัวเอง
โดยสรุป คนเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด แต่คนก็เป็นสิ่งที่พัฒนาได้ยากที่สุด จึงต้องทำอย่างมีคุณภาพ ต่อเนื่องและต่อเนื่อง และสร้าง Networks ของตัวละครต่าง ๆ ในประเทศไทย ไม่ว่าภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาควิชาการ ภาคชุมชนและประชาชนให้ร่วมกัน โดยเน้น Mutual Trust and Respect
การศึกษาในอนาคตจึงต้องสร้างให้เด็กไทยเป็นสังคมการเรียนรู้ ใฝ่รู้ มีความอยากรู้อยากเห็น(Curiosity) และกระหายความรู้ซึ่งทำได้ยากเพราะไม่ใช่ Habitเรียนพิเศษแบบที่เป็นอยู่ กลายมาเป็น Habit ประจำของชาติ
การศึกษาไทย..
ผมโชคดีได้ทำงานต่อเนื่องเรื่องนี้มากว่า 40 ปี ได้เห็นว่ามีวิธีการเรียนที่สนุก เน้นความจริง เน้นการปะทะกันทางปัญญา การอ่าน ไม่ใช่แค่ Lectureในห้อง และมาวิเคราะห์กัน อาจจะเป็นทางออก ที่ดีก็ได้
อ.พิชญ์ภูรี : วิธีการปลูกต้องเปลี่ยน แต่จะปลูกอย่างไรให้ได้ประโยชน์ ผู้นำต้องจัดการ ดูความจริงในเรื่องนั้น เป็นหัวข้อๆ แบบ 2R's คือ ตรงประเด็นและเน้นความจริง ดูจากทุนมนุษย์ มีการสอนสั่งให้ทุนทางปัญญา มีความรู้มีการคิดเป็นวิเคราะห์เป็น และที่สำคัญต้องมีความสุข มีเครือข่าย มีทุนทางความยั่งยืน และมีทุนความรู้และทักษะ เช่น การทำอาหาร ต้องมีการฝึกและทักษะประสบการณ์ และเมื่อมี ทุน 8 ประการ แล้ว อาจจะไม่ครบก็ได้ แต่ อ.จีระ ก็มีทุนใหม่ อีก 5ทุน ที่ท่านสามารถนำไปสู้ ในการสร้างสรรค์ อาจจะไม่เกิดกับทุกคน รู้จักควบคุม การใฝ่รู้ หรือทุนทางความรู้ อีกอย่างคือทุนทางนวัตกรรม เช่น การเอาของเก่ามาทำใหม่ คิดใหม่ทำใหม่ แต่ต้องเป็นประโยชน์ทั้งเศรษฐกิจและสังคม
สำรวจว่าเรามีทุนครบหรือไม่ และจะทำให้เกิดความสุข จนทำให้เกิด Learning How to Learn.. ทฤษฎีการเรียนรู้ที่สำคัญของ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
และต้องมี 3 V's คือ Value added Value creation value diversity
ดร.จีระ : หัวใจคือ ทุนมนุษย์ ระดับ Macro และ Micro เราต้องมีการเปลี่ยนแปลง เหมือนสัจธรรม แต่จะจัดการให้เกิดประสบความสำเร็จอย่างไร
นักศึกษา : อยากจะเติมเต็ม เหมือนน้ำครึ่งแก้ว ต้องการเรียนรู้เพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญที่อ.ให้คือการพัฒนาคน มองเห็นว่า การเปลี่ยนแปลง สังคมต้องเปลี่ยนวิธีคิด เรื่องเวลา ตรรกะการทำงานใหม่ ทำงานทุกวัน ที่ไหนก็ได้ ทำได้หมด สิ่งสำคัญคือแบ่งเวลาทำงาน ใช้ช่วงทำงานที่ถูกสร้างเป็น 2 skill ทำงานแค่ 6 ชั่วโมง 2 กะ ข้าราชการ ทำ 2 แบบ ทำราชการ และอีกช่วงหนึ่งอาจจะไปทำอย่างอื่น เพื่อได้รับรายได้ตรรกะปานกลาง ได้เพิ่มขึ้นได้ ก้าวข้ามตรรกะนี้ ได้ทั้งภาครัฐและเอกชน แต่ต้องเปลี่ยนวิธีคิดอันนี้ได้ เพื่อได้ใช้ skill ที่สองได้
อ.จีระ : ได้รับเรื่อง Creativity ขอยกย่องที่พูดแบบนี้ ได้ทำแล้วในบางประเทศ
นศ. ป.เอก รุ่น 3 : ยินดีที่ได้มาฟังอาจารย์ และได้ย้อนคิดว่า ประเทศไทยเรามี Human capital การบริหารระดับประเทศ ส่วนใหญ่การเปลี่ยนแปลงไปผูกกับ ตัว Leader และมีจุดประสงค์อะไรที่จะเข้ามาเป็น Leader การเปลี่ยนมีความเสี่ยง ประเทศไทยอยู่ในจุดดีแต่ต้องใช้เวลา และต้องมีการแข่งขัน
อ.จีระ :ต้องมี Leader ที่เปลี่ยนแปลง ให้ไม่ทำต้อง Leader ก็ตก ชื่นชมครับ
คุณศักดิ์ชัย สภาอุตสาหกรรมปทุมธานี : มีการทำงานอยู่ด้วย เด็กไทยเรียนเยอะในไทย แต่ตัว อ.จีระเรียนรู้ตลอดชีวิต ขอขยายความตรงนี้ครับ
อ.จีระ : ขอให้เรียนเพื่อความสนุก เรียนรู้ตลอดเวลา คือ Happiness เรียนรู้ของ สพฐ. เบื่อเรียน และครูก็เป็นคนรุ่นเก่า สอนแบบโบราณ พยายามเปลี่ยน และหาความรู้ หิวความรู้และกินไปเรื่อยๆ ต้องปะทะกันทางปัญญา ทุนมนุษย์คืออะไร สามารถแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่
รองศ.วัฒนชัย : สิ่งที่หลายคนในที่พูด คือถูกปลูกฝังในระบบ มีแพทเทิ้นไว้แล้ว ทำอะไรไม่เป็น ไม่เคยออกไปใช้ชีวิต ไม่รู้ว่าออกไปใช้ชีวิตอย่างไร เมืองนอกมีวิชาการเรียนรู้ภายนอก ซึ่งเราไม่เคยสอนเด็กเรา เราถูกตีกรอบในแนวคิดนี้ เราถูกบังคับและห้าม ยอมปล่อยไป
อ.จีระ : ระบบการศึกษาไม่ธรรมชาติ อยากให้บรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ พึ่งตัวเอง อย่างพึ่งคนอื่น รับใช้ประเทศทางที่มีประโยชน์ และมีเครือข่ายร่วมมือกัน มีจุดเริ่มต้นที่ดี ต้องทำแบบชนะเล็กๆ
ป.เอก รุ่น 4 : การทำถนนเกี่ยวกับการค้า one way one road ในประเทศจีน
อ.จีระ : เอาประวัติกลับมาในยุคใหม่ จะทำอย่างไร และสร้าง Network ในหลายๆด้าน ประเทศจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ขอขอบคุณที่ท่านศึกษาเรื่องนี้
อ.พิชญ์ภูรี : อยากให้เป็นวัฒนธรรม
เอานักศึกษา ป.เอก ไปคุยกับ นักศึกษา ป.ตรี ในฐานะที่เชิญมาวันนี้ อยากให้รู้ว่าอนาคตอายุ 40 จะทำอะไร ต่อ อย่าเรียนเพื่อสอบอย่างเดียว
คุณสยาม : พูดถึงทุนมนุษย์ กับการศึกษาไทยในปัจจุบัน เป็นอย่างไรบ้าง
อ.จีระ : จะตอบตาม ทฤษฎี HR Architecture ต้อง Education HealthNutrition Family Media และฝึกฝนเพื่อให้เกิด มีคุณธรรมจริยธรรม คิดเป็น วิเคราะห์เป็น คิดแบบวิทยาศาสตร์ คิดแบบ Creativity Innovation สังคมการเรียนรู้ จิตสาธารณะ และ ความยั่งยืน Sustainability และความสุข ความสมดุล แต่ตอนนี้ยังทำไม่ถึง มีการลอก และโกงกิน เป็นต้นแบบความล้มเหลว ทำให้ยังไม่สามารถแก้ไขได้
ขอขอบคุณคุณสยาม ที่ให้โอกาสในวันนี้ครับ