วันนี้เช้าหลังจากแม่-ธรรศ-ธรณ์ไปส่งคุณพ่อเพื่อฟอกไตที่โรงพยาบาลแล้ว เรา 3 คน ก็นั่งแท็กซี่ไปกราบสมเด็จพระสังฆราช ที่วัดบวรนิเวศน์ นั่งแท็กซี่ต่อไปที่วัดพระแก้ว ไปดูพระบรมมหาราชวัง และข้ามเรือจากท่าพระจันทร์ไปโรงพยาบาลศิริราช เพราะเราจะไปรับอัฐิของคุณตาซึ่งเสร็จภารกิจการเป็นอาจารย์ใหญ่เรียบร้อยแล้ว โดยคุณพ่อจะขับรถตามไปหลังจากฟอกไตแล้ว ก่อนไปรับอัฐิคุณตาแม่พาธรรศกับธรณ์ไปไหว้สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ด้วย
ตอนไปรอรับอัฐิคุณตาที่อาคารศรีสวรินทิรา ชั้น 4 นั้น ตอนแรกที่เข้าในห้องไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ ห้องที่ไปรอนั้นอยู่ติดกับห้องสำหรับเรียนกับอาจารย์ใหญ่ ซึ่งเป็นห้องใหญ่มาก มีเตียงของอาจารย์ใหญ่ราว 50-60 เตียง ส่วนใหญ่เป็นเตียงว่าง สภาพห้องเก้บเรียบร้อย แต่จะมีอยู่ราว 2 เตียง ที่มีร่างของอาจารย์ใหญ่ ธรณ์มาพูดกับแม่ว่า
ธรณ์ - คุณแม่ครับ เวลาเรียนจริงๆ จะมีโต๊ะมีเก้าอี้ด้วยนะครับ แต่ละเตียงจะมีเก้าอี้ 4 ตัว มีโต๊ะ 4 ตัว สำหรับนักเรียน 4 คน ต่ออาจารย์ใหญ่ 1 ร่าง
แม่ - ธรณ์ทราบมาจากไหนคะ
ธรณ์ - ธรณ์ดูสารคดีเรื่องอาจารย์ใหญ่ไงครับ
บางครั้งการที่ลูกได้รู้อะไร ได้รับอะไรไว้ ก็จะแสดงออกมาเองตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ธรรศกับธรณ์สนใจ “อัฐิ” มาก ถามตั้งแต่ก่อนมาว่า จะขอจับได้หรือไม่ พอได้จับจริงๆ ก็ดูอย่างสนใจ รู้ด้วยว่าถ้าชิ้นแบนๆ เป็นแผ่นจะเป็นกะโหลกศีรษะ ถ้าชิ้นใหญ่ยาว จะเป็นท่อนขา อันที่เป็นเหมือนหัวค้อนจะเป็นข้อต่อที่สะโพก ฯ จนเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลออกปากว่า ไม่น่าเชื่อว่าเด็กจะสนใจ แล้วก็มีความรู้รอบตัวหลายเรื่อง
และเมื่อรับอัฐิคุณตากลับมาเรียบร้อยแล้ว พอกลับมาถึงบ้านเราก็ชวนกันเลือกอัฐิขนาดที่พอเหมาะมาใส่โกฏิ หลังจากนี้ก็รอวันทำบุญใหญ่ ก่อนจะนำอัฐิบางส่วนไปเก็บรวมกับบรรพบุรุษ และที่เหลือก็นำไปลอยอังคาร
วันที่ 15 เม.ย. 55 คุณตาเสียชีวิต ... เรา พ่อ-แม่-ลูก ไปส่งคุณตาที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อมาเป็นอาจารย์ใหญ่ โดยธรรศกับธรณ์เดินตามร่างของคุณตาตลอดเวลา กราบลาร่างที่เคยเห็นเป็นครั้งสุดท้าย
วันที่ 19 เม.ย.57 มารับอัฐิคุณตา ... เรา พ่อ-แม่-ลูก มารับอัฐิคุณตาด้วยกันที่โรงพยาบาล เราได้ทั้งมาส่งและมารับ
แม่ดีใจที่ธรรศกับธรณ์ได้เห็น ได้สัมผัส ได้เรียนรู้ ได้ทำบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งนับว่าเร็วเมื่อเทียบกับตัวแม่เอง
19 เม.ย.57
เอามาเก็บไว้ที่นี่ดีมากเลยนะคะ จะกลับมาอ่านได้เสมอๆ