รายวิชาศึกษาทั่วไป : วิชา ๑ หลักสูตร ๑ ชุมชน _๐๓ : รายงานความก้าวหน้า ก.พ.ร. ๕๙


มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เอาจริงเอาจังเรื่องการพัฒนานิสิตให้มีคุณลักษณะตามอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย (นิสิตกับการช่วยเหลือสังคม) นับแต่อธิการบดี รศ.ดร.ศุภชัย สมัปปิโต (ท่านที่ผ่านมา) ได้กำหนดวิสัยทัศน์ที่จะเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อชุมชนและสังคม อันดับ ๑ ในภูมิภาค มีการขับเคลื่อนครอบคลุมทั้ง ๓ มิติ ทั้งการผลิตบัณฑิต การให้บริการแก่สังคม และบริหารจัดการ โดยบูรณาการเข้ากับพันธกิจทั้ง ๔ ประการที่กำหนดในหน้าที่ของอาจารย์ทุกคน ด้านการเรียนการสอนมีการสร้างรายวิชา ๐๐๓๕๐๐๑ หนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน การวิจัยและบริการวิชาการ ได้ส่งเสริมและสนับสนุนโครงการ "หนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน" อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำผลงานวิจัยและศักยภาพของแต่ละหลักสูตรไปให้บริการแก่ชุมชนและสังคม ยิ่งในด้านทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยยิ่งให้ความสำคัญผ่านทั้งโครงการ "หนึ่งคณะหนึ่งทำนุบำรุงฯ" และโครงการกิจกรรมต่าง ๆ ทุกเทศกาล ประเพณี ตลอดปี

มีการกำหนดเป็นตัวชี้วัด (KPI) เป็นกลไกก้าวไปสู่ความสำเร็จตามวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ ๒ ประการ ได้แก่

๑.๓.๑) ระดับความสำเร็จของการจัดการศึกษาที่สะท้อนเอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัยและอัตลักษณ์นิสิตในหมวดวิชาศึกษาทั่วไปหรือในหลักสูตรของคณะ

๓.๑.๑) ร้อยละหลักสูตร (ป.ตรี) ที่มีการดำเนินการตามนโยบายหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน เพื่อเป็นที่พึ่งทางวิชาการแก่งสังคม ด้วยการผลิตบัณฑิตที่มีอัตลักษณ์ในการช่วยเหลือสังคมและชุมชน ผ่านกระบวนการบูรณาการ การเรียนการสอน การวิจัย และ/หรือ การให้บริการวิชาการร่วมกับชุมชน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนให้ยั่งยืน

ข้อแรกบอกว่า สำนักศึกษาทั่วไปต้องมีการจัดการเรียนการสอนรายวิชา ๐๐๓๕๐๐๑ หนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน หรือรายวิชา ๐๐๓๖๐๐x ภาวะผู้นำ ส่วนข้อหลังบอกว่า ทุกคณะ (ความจริงเป้าหมายปีนี้คือร้อยละ ๘๐) จะต้องทำโครงการหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน และจะต้องนำไปบูรณาการกับการเรียนการสอนดัวย จุดนี้คือเจตนาของการสร้างและกำหนดให้รายวิชาหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชนเป็นวิชาบังคับที่นิสิตทุกคนต้องเลือกลงทะเบียน เพื่อเอื้อให้นิสิตไปร่วมโครงการฯ ... แม้จะบอกไม่ได้ว่า นิสิตทุกคนที่ไปร่วมโครงการจะไม่ได้ไปด้วย "จิตอาสา" แต่ระบบและกลไกนี้ น่าจะพัฒนาขยายผลให้จำนวนคนจิตอาสาเพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

สำนักศึกษาทั่วไป เป็นผู้รับผิดชอบ ก.พ.ร. ตัว ๑.๓.๑) ซึ่งถือเป็นตัวชีวิตระดับสถาบัน ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจว่า สำนักฯ จะดำเนินงานตามเป้าหมาย จึงได้กำหนดตัวชี้วัดของตนเองขึ้นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่ ๙.๑.๑) ความสำเร็จของการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนรายวิชาหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน หากได้สำเร็จในรายวิชานี้ เราก็คิดว่านิสิตจะมีคุณลักษณะตามอัตลักษณ์ที่มหาวิทยาลัยต้องการมากขึ้น

แผนภาพแสดง ทามไลน์ (timeline) ด้านล่างนี้ เป็นทั้งแผนการทำงานที่บอกวิธีการขับเคลื่อนฯ และรายงานความก้าวหน้า ตามที่ฝ่ายกำกับติดตาม ก.พ.ร. จะขอมา...




กระบวนการพัฒนารายวิชาและจัดการเรียนการสอนในภาคเรียนที่ ๒/๒๕๕๘ แบ่งเป็น ๕ ระยะ ตามอักษรแสดงใต้ลูกศรสีแดง ได้แก่ ช่วยยกร่างแผนการสอน -> พัฒนาอาจารย์ -> สอน-> ถอดบทเรียนและประเมินผล -> และ รายงานผล เพื่อนำไปเริ่มปรับแผนการสอนใหม่ และส่งผลให้ผู้กำกับ ก.พ.ร.


คำสั่งแต่งตั้งที่ใช้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนฯ เรื่องนี้มี ๔ คำสั่ง ได้แก่

๑) คำสั่งแต่งตั้งกรรมการเครือข่ายความร่วมมือด้านวิชาการระหว่างคณะ-วิทยาลัย กับสำนักศึกษาทั่วไป (ดาวน์โหลดได้ที่นี่)

คำสั่งนี้เป็นกลไกที่จะส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักศึกษาทั่วไปและคณะ-วิทยาลัยต่างๆ ในฐานะต้นสังกัดของอาจารย์ผู้สอน

สิ่งที่นำมาสู่การสร้างเครือข่ายระหว่างสำนักฯ กับคณะ-วิทยาลัยอย่างจริงจัง คือ การมองแยกส่วนกันอย่างชัดเจนของคณะฯ ว่า สำนักฯ เป็นของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่หน้าที่ของคณะฯ จึงไม่ได้ส่งเสริมให้อาจารย์ผู้สนใจและเข้าใจ "การศึกษาทั่วไป" มาเป็นอาจารย์ผู้สอน บางคณะฯ ไม่คิดให้เป็นภาระงาน เพราะเห็นว่ามีค่าตอบแทนแล้ว หลายคณะไม่มีอาจารย์ผู้สอนรายวิชาศึกษาทั่วไป

การสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม น่าจะนำมาสู่ การมองอย่างเป็นองค์รวมและการทำงานที่บูรณาการกันมากขึ้น

๒) คำสั่งแต่งตั้งอนุกรรมการเครือข่ายความร่วมมือด้านวิชาการ และการจัดการเรียนการสอนรายวิชาศึกษาทั่วไป (ดาวน์โหลดที่นี่)

คำสั่งนี้เป็นกลไกให้เกิดความชัดเจนและหวังจะให้มีประสิทธิภาพในการพัฒนารายวิชามากขึ้น โดยแต่งตั้งอนุกรรมการฯ เป็นฝ่ายๆ ตามกลุ่มวิชา และกำหนดให้ผู้บริหารของสำนักฯ เป็นประธานกรรมการดำเนินงานในการพัฒนารายวิชาในกลุ่มนั้นๆ

สำหรับรายวิชา ๐๐๓๕๐๐๑ หนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน อยู่ในกลุ่มวิชาสหศาสตร์ ซึ่งมีอยู่เพียงรายวิชาเดียว จึงเป็นรายวิชาบังคับให้นิสิตทุกคนต้องลงทะเบียน

๓) คำสั่งแต่งตั้งอนุกรรมการพัฒนารายวิชาหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน (ดาวน์โหลดได้ที่นี่)

หลังจากการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนารายวิชาฯ และประชุมระดมสมองอาจารย์ผู้สอนครั้งที่ ๑ พบว่า มีผู้ที่เกี่ยวข้องที่ควรจะเชิญมาร่วมเป็นผู้ร่างแผนการสอนและกำหนดแนวทางประเมินผลและพัฒนารายวิชาฯ จึงได้กำหนดให้ตั้งอนุกรรมการพัฒนารายวิชาหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชนขึ้น โดยมีหน้าที่ ๔ ประการได้แก่ ๑) กำหนดแนวทางการพัฒนารายวิชา ๒) จัดทำรายละเอียดรายวิชา (มคอ.๓) ๓) จัดทำเอกสารประกอบการสอน และ ๔) จัดส่ง มคอ.๓ และเอกสารประกอบการสอน ไปยังอนุกรรมการเครือข่ายฯ ... สรุปคือ คำสั่งนี้เป็นกลไกให้ดำเนินการจัดทำแผนการสอนและเอกสารประกอบการสอนนั่นเอง

อนุกรรมการชุดนี้ได้ประชุมและดำเนินการแล้ว ๒ ครั้ง ได้รายละเอียดของรายวิชา (มคอ. ๓) และเอกสารประกอบการสอนของรายวิชาแล้ว แม้จะยังไม่สำเร็จสมบูรณ์ตามที่อนุกรรมการคาดหวัง แต่ก็ได้นำไปทดลองใช้แล้วในภาคการศึกษาที่ ๒/๒๕๕๘ นี้

๔) คำสั่งแต่งตั้งอาจารย์ผู้ประสานงานรายวิชา ๐๐๓๕๐๐๑ หนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน

ฝ่ายวิชาการของสำนักฯ เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ ทราบว่า ได้แต่งตั้งไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะการแต่งตั้งอาจารย์ผู้ประสานงานของคณะฯ ในกรณีที่ในคณะนั้นๆ มีหลายหลักสูตร แต่ทำงานบูรณาการกัน

ภาคการศึกษาที่ ๒/๒๕๕๘ นี้ มีคณะ-วิทยาลัยที่เปิดสอนนำร่องแล้ว ๔ คณะ ได้แก่ คณะวิทยาการสารสนเทศ วิทยาลัยการเมืองการปกครอง คณะเภสัชศาสตร์ และคณะสาธารณสุขศาสตร์ มีนิสิตลงทะเบียนเรียนทั้งสิ้นกว่า ๑,๕๐๐ คน ผลจะเป็นอย่างไร จะมีการแสดงและแลกเปลี่ยนกันในงาน "มหกรรมนำเสนอของรายวิชาหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน ประจำปี ๒๕๕๙) นี้.... จะนำเอาสิ่งดีๆ มาเล่าให้ท่านฟังต่อไปครับ

หมายเลขบันทึก: 603506เขียนเมื่อ 15 มีนาคม 2016 17:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม 2016 17:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ดิฉันมีความฝันคล้ายกันนี้ค่ะ แต่เป็นเพียง 'ความฝัน' เพราะยังผลักดันไม่สำร็จ และสถานการณ์ก็เลวร้ายลงเรื่อยๆ .. จะเขียนเป็นบันทึกเมื่อมีโอกาสนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท