เมื่อวานนี้ผมได้ดูหนังเรื่อง ผู้บ่าวไทบ้าน อีสานอินดี้ ทำให้ผมนึกถึงเพื่อนๆและรุ่นพี่หลายคนที่อยู่ที่ภาคอีสาน เพราะในหนังพูดภาษาอีสานกันทั้งเรื่อง ดีที่มีซับไตเติลแปลเป็นภาษากลางแบบเหน่อกรุงเทพฯ ก็เลยรู้เรื่องบ้าง ในหนังเป็นเรื่องของพระเอกชาวอีสานที่ชื่อว่าทองคำ กับนางเอกที่ชื่อว่าปราณี ตอนต้นด้วยความยากจน ปราณีจึงต้องจากบ้านไปทำงานที่ต่างประเทศ และกลับมาพร้อมกับชาวต่างชาติที่เป็นแฟนกัน ทองคำต้องทำให้ปราณีกลับมาเป็นของตนให้ได้
จากการดูทำให้ผมนึกถึงวิธีการหาความรู้ในเชิงมานุษยวิทยาขึ้นมาได้ ก็คือ ความแตกต่างระหว่าง emic กับ etic การมองแบบ emic ก็คือการมองจากคนภายนอก แต่การมองแบบ etic ก็คือการมองจากภายใน เท่าที่ผมสังเกตดูได้จะมีกระท่อมปลายนา ไก่ชน การขี่มอเตอร์ไซค์ไปอวดสาว เหล้าขาว การแต่งตัวที่นำสีที่ตัดกันมาแต่ง วัวควาย การร้องเพลงหมอลำ ฯลฯ ภาพของสิ่งเหล่านี้คือภาพของความสุข ความสมถะ แบบๆบ้านของชาวอีสาน ลองเทียบภาพเหล่านี้กันหนังเรื่องดูครับ ภาพเหล่านี้ก็คือภาพแห่งความทุกข์ทรมานแบบที่พวกนักพัฒนามักมองอีสานตามการตีความของตัว
หนังเรื่องนี้มีฉากหลายฉาก ที่ทำให้นึกถึงหนังในอดีต เช่น การชอบดูหนังกลางแปลง การที่บักทองคำหยิบเอาฟิลม์เก่าๆ ที่ไม่ฉายมาเก็บไว้ ทั้งสองสิ่งนี้ทำให้ผมนึกถึงหนังเรื่องซีนาพาราดิโซขึ้นมาอย่างจับใจ นอกจากนี้ไมเคิล แฟนของปราณีก็สามารถพูดอีสานได้อย่างคล่องแคล่ว ชอบกินของอีสาน รวมทั้งเหล้าขาวด้วย และยังสามารถทำนาแทนแม่ยายของเขาได้อีกต่างหาก ภาพของฝา-หรั่งตาน้ำขาว ที่ทำทุกอย่างได้เหมือนกับชาวอีสาน ก็คือทำลายมายาคติของคนไทยภาพอื่นๆด้วย
ฉากสุดท้ายของหนังเป็นการบรรยายคำพูดของบักทองคำที่บอกว่า การเลือกทางชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่ขึ้นกับตัวเอง ปราณีเห็นว่าการเดินทางไปนอกเป็นเรื่องที่ดี ก็เป็นเรื่องของปราณีที่จะตัดสนใจ แต่กับพวกไทบ้าน (หมายถึงคนบ้านๆ) การอยู่ร่วมกันในวิถีทางแบบชาวอีสานเป็นเรื่องที่ดี ถึงแม้จะติดหนี้ติดสินไปบ้าง แต่การอยู่ร่วมกันมีความรักความสามัคคีก็เป็นหนทางแห่งชีวิตอีกชนิดหนึ่งเหมือนกัน
เพียงชื่อเรื่องก็น่าดูแล้ว
เนื้อเรื่องก็น่าสนใจจ้ะ