เห็นใครต่อใครแนะนำกันเรื่องการเรียนแบบมีกึ๋น เป็นความคิดที่เยี่ยมมาก
แต่ว่ามันยังมีการเรียนรู้อีกรูปแบบหนึ่ง เป็นการใช้ชีวิตนอกตำรา
“การเดินทาง” เป็นการเรียนรู้โลกอีกรูปแบบหนึ่ง การได้สัมผัสวิถีชีวิตที่หลากหลาย ธรรมชาติ ความท้าทายต่างๆ
ล้วนเป็นสิ่งที่ช่วยเปิดมุมมอง รวมถึงนำมาซึ่งทัศนคติที่ดี ต่อตัวคุณเอง
.
การท่องเที่ยวมีหลายรูปแบบ การเที่ยวแบบ Backpack คือการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่ง
จะต่างจาก Tourist ตรงที่ Backpacker จะค่อนข้างอยู่ง่าย กินง่าย อิสระ ไม่ต้องการความสะดวกสบาย
เพราะความสำเร็จรูปแบบ Tourist มันอาจจะไร้รสชาติไปสักนิด
ด้วยผมประสบการณ์ (น้อยนิด) ในการท่องเที่ยวรูปแบบนี้
จึงอยากถ่ายทอด สำหรับผู้มีใจรักในการเดินทาง ทั้งคนที่อยากไป แต่ยังไม่กล้า หรือกล้าแต่ยังไม่พร้อม
เรื่องอย่างนี้จึงพอบอกเล่ากันได้ ว่าการเป็น Backpacker ควรเตรียมตัวอย่างไร
.
หลังจากตัดสินใจเลือกที่หมายได้แล้ว เบื้องต้นก็เป็นการจัดเตรียมกระเป๋าสัมภาระ
การจัดกระเป๋าสำคัญไม่น้อย แม้จะไม่สำคัญเท่าชีวิต แต่มันก็เป็นครึ่งชีวิตในการเดินทาง
เป้ – ขนาดพอเหมาะเลือกแบบแข็งแรงและเข้ากับตัวเองที่สุดเพราะนั่นคือครึ่งชีวิตของคุณ
เลือกเป้แบบไหนดี ตามไปที่เว็บนี้ครับ
.
ได้กระเป๋ามาแล้ว ทีนี้ลองดูสิว่ามีอะไรที่จำเป็นอยู่ในนั้นบ้าง (กรณีเดินทาง 3-7 วัน)
.
1. เสื้อผ้า – ควรคำนึงถึงโปรแกรมการเดินทางว่าคุณจะทำอะไร ที่ไหนบ้าง
ถ้าไม่เสี่ยงต่อการสูญเสียทรัพยากรในเป้ ก็จัดกางเกงไปสัก 3 ตัว เสื้อไม่เกิน 5 ตัว
กางเกงใส่ซ้ำได้ ผมว่าบางคน ตัวเดียวตลอดงานยังเคยมี ส่วนเสื้อแห้งเร็ว วันที่เหลือเราซักเอา
ชุดชั้นในเตรียมไป 3 ตัวเป็นอย่างน้อย เพื่อหมุนเวียนใส่ ตอนซัก ควรซักวันต่อวันจะดีมาก ถ้าไม่สะดวกก็ให้ใช้แผน B (คันหน่อยนะ ฮ่าๆๆ)
ข้อนี้ขึ้นอยู่กับสุขอนามัยของแต่ละคน ถ้ารักสะอาดมากๆ อย่ามาแบ็คแพ็คเลย
* สามารถไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ได้ หากไปตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีขาย
.
2. ยารักษาโรค – ยาประจำตัวห้ามลืม สำหรับคนมีโรคประจำตัวสำคัญมาก
คุณจะตายกลางทางไม่ได้ ถ้าคุณตาย แล้วใครจะเอาเป้กลับบ้าน (อย่าลืมว่ามันคือครึ่งชีวิตของเรา)
ถ้าไม่เป็นโรคอะไร ก็พก “พาราเซตามอล” ไปซักแผง หากคุณไม่ได้ใช้ก็อาจมีประโยชน์กับคนอื่น
พลาสเตอร์ยา ยาหอม ยาลม ยาดม ยาหม่อง (อย่าขนไปเยอะเกิน จนเป็นภาระ)
.
3. ผ้าเช็ดตัว และอุปกรณ์ทำความสะอาดร่างกาย – สบู่ แปรง ยาสีฟัน
ผ้าเช็ดตัวผืนขนาดกลาง หรือเล็ก เพื่อประหยัดเนื้อที่กระเป๋า
หนุ่มลูกทุ่งอย่างผมใช้ผ้าขาวม้าครับ เบา บาง ไม่กินเนื้อที่ ใช้ดีจึงบอกต่อ
.
4. รองเท้าแตะ – เท้าเราคงไม่อยากมุดอยู่ในรองเท้าผ้าใบตลอดเวลา
เอาแบบไม่ต้องแพง และพร้อมทิ้งได้ตลอดเวลา
.
5. กล้องถ่ายภาพ, ฟิล์ม, เมมโมรี่การ์ด, ขาตั้งกล้อง – เตรียมไปให้เพียงพอต่อการใช้งาน
อย่าขนไปเยอะเกินความจำเป็น เพราะคุณไม่ได้ไปสตูดิโอ
ถ้าเป็นไปได้ใช้เลนส์ตัวเดียวก็เกินพอ เลือกช่วงระยะความชัดที่ครอบคลุม
เช่นว่า ผมใช้กล้อง DSLR ของ Nikon เลนส์คิท 18-70 mm ตัวเดียวเที่ยวได้ทั่วไทย
* จงเลือกให้ถูกว่าคุณไปเที่ยว หรือไปถ่ายรูป อันไหนประเด็นหลัก ประเด็นรอง
Backpacker จะไม่เพิ่มน้ำหนักให้ตัวเองเกินความจำเป็น
.
6. คู่มือนำเที่ยว สมุดบันทึก ปากกา – คู่มือจะแนะนำที่พัก ร้านอาหาร ตารางรถ และสถานที่สำคัญต่างๆ แก่คุณ
บางครั้งก็ปิดคู่มือเสีย แล้วใช้ปากนำเที่ยวบ้าง เพื่อสร้างความคุ้นเคยกันคนในพื้นที่
สมุดบันทึกจะเป็นคู่มือนำเที่ยวในแบบของคุณเอง ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ หรือการมาเยือนครั้งที่ 2
7. คัทเตอร์, กรรไกร, กรรไกรตัดเล็บ, มีดพกเอนกประสงค์ – ไม่รู้ใครพกกันบ้างนะ แต่ผมเอาติดไปด้วยตลอด
มันไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์บ่อยนัก แต่พอถึงคราวจำเป็นเราหยิบมาใช้ได้ทันท่วงที
อุปกรณ์เล็กๆ พวกนี้ อย่างน้อยก็ใช้ป้องกันตัวได้ พกไปไม่ผิดกฎหมาย
แต่หากเจอสถานการณ์ที่เหลือบ่ากว่าแรง ก็ใช้คัทเตอร์นั้นแทงตัวเองเสีย 555 (โปรดใช้วิจารณญาณ)
.
8. ถุงพลาสติก หนังยาง เชือก – ถุงขนาดใหญ่บ้าง เล็กบ้าง พับๆ ซ้อนกันไปเหน็บไว้สักซอกหนึ่ง
อาจได้ใช้ประโยชน์ ใส่ของจุกจิก กันน้ำ ใส่อ้วกตอนเมารถ ฯลฯ
.
9. ไฟฉาย – ในถิ่นธุรกันดาร ไฟ้ฟ้ายังไม่มี หรือไฟดับ ไฟฉายเล็กๆ ช่วยได้เสมอ
อย่าลืมสุภาษิตที่ว่า “แสงสว่างเสมอด้วยไฟฉายไม่มี”
.
10. หนังสืออ่านเล่น – พ็อคเก็ตบุ๊ค สักเล่มช่วยย่นระยะทางได้พอสมควร
ค่อยๆ เล็มมันทีละน้อยๆ จบทริป เราก็อ่านได้จบเล่มพอดี
ไม่มีความเห็น