กล้วยน้ำว้า สมุนไพรรักษาโรคกระเพาะ


กล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ที่ใกล้ชิดคนไทยที่สุด เด็กไทยสมัยก่อนโตมากับกล้วยน้ำว้ากันทั้งนั้น นอกจาก ข้าวสุกบดแล้ว ก็มีกล้วยน้ำว้าเป็นเหมือนอาหารเสริมประจำที่ไม่ต้องซื้อหาเพราะทุกครัวเรือนมีกล้วยปลูกไว้สำหรับเป็นผลไม้ เป็นอาหารและสารพัดขนมกินกันได้ตลอดทั้งปี กล้วยน้ำว้าใช้ทำยาได้ทั้งดิบและสุก กล้วยดิบมีสารฝาดสมานชื่อแทนนิน ซึ่งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ช่วยป้องกันผนังกระเพาะลำไส้ไม่ให้เชื้อโรคและของรสเผ็ดจัด เช่น พริก เข้าไปทำลายผนังกระเพาะลำไส้ ช่วยแก้ท้องเสีย กล้วยที่เพิ่งเริ่มสุก เปลือกยังสีเขียวอยู่ประปราย เป็นทั้งยาและอาหารที่ดีมากสำหรับคนท้องเสีย เพราะนอกจากจะช่วยแก้ท้องเสียแล้วยังช่วยหล่อลื่นลำไส้ ช่วยเพิ่มกากเวลาถ่าย กล้วยกึ่งดิบกึ่งสุกยังมีธาตุโพแทสเซียมสูงมาก ดังนั้นเวลาใช้กล้วย แก้ท้องเสีย ก็เท่ากับให้ธาตุโพแทสเซียมไปในตัวด้วย ตามธรรมดาคนไข้มักสูญเสียธาตุโพแทสเซียมในเวลาท้องร่วง การกล้วยห่ามจึงเป็นการชดเชยธาตุโพแทสเซียมที่เสียไป เพราะถ้าร่างกายสูญเสียธาตุโพแทสเซียมไปมากๆ ขณะท้องร่วง จะทำให้การเต้นของหัวใจผิดปกติในคนชราอาจทำให้หัวใจวายตายได้ ยิ่งไปกว่านั้นกล้วยที่เริ่มสุกจะมีสารเซโรโทนินอยู่มาก ช่วยออกฤทธิ์ กระตุ้นให้ผนังกระเพาะอาหารสร้างเยื่อเมือกมากขึ้น ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหาร แต่ไม่ช่วยลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ส่วนกล้วยน้ำว้าสุกนั้นกลับมีสรรพคุณ ตรงกันข้ามกับกล้วยดิบ คือกล้วยสุกกลับเป็นยาระบายแก้ท้องผูก เพราะมีสาร เพ็กติน อยู่มาก ช่วยเพิ่มกากในลำไส้ กล้วยที่สุกงอมมากๆจะมีฤทธิ์ระบายสูง เพราะมีสารเพ็กติน มากขึ้นนั่นเอง ฤทธิ์ระบายของกล้วยน้ำว้าสุกไม่รุนแรงมากต้องกินเป็นประจำวันละ 5-6 ลูก จึงจะเห็นผล อุจจาระที่ออกมาเป็นสีเหลือง ไม่มีกลิ่นเหม็น การกินกล้วยสุกก็ต้องเคี้ยวให้ละเอียด นานๆ เพราะกล้วยเป็นผลไม้ที่มีแป้งอยู่ถึง 20 -25 % ของเนื้อกล้วย จึงสามารถนำมาเป็นอาหารเสริมให้เด็กเล็กได้ ตามปกติ กระเพาะมีเอนไซม์ย่อยแป้งน้อย การเคี้ยวกล้วยให้แหลกละเอียดจะช่วยแป้งได้มากก่อนกลืนลงกระเพาะ หากกินกล้วยโดยเคี้ยวหยาบๆ จะทำให้ท้องอืด จุกแน่น โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ควรเริ่มให้กินกล้วยสุกเมื่อเด็กเริ่มกินข้าวบดได้ อายุราว 3 เดือน โดยขูดเนื้อกล้วยสุก ( ไม่เอาไส้กล้วยเพราะจะทำให้เด็กท้องผูก ) ให้กินคราวละน้อยๆ ไม่ควรเกินครึ่งช้อนชา วันละครั้ง เพราะเด็กยังมีน้ำย่อยแป้งไม่พออาจเกิดอาการท้องอืดได้ เด็กอายุครบขวบกินกล้วยครั้งละ 1 ลูก วันละครั้งก็พอ


คำสำคัญ (Tags): #kmpprep
หมายเลขบันทึก: 601932เขียนเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2016 17:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2016 17:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

กล้วยน้ำว้าดีมากสำหรับสัตว์เลี้ยงด้วย ทดลองด้วยตนเองอยู่ตอนนี้ คือแมวที่บ้านตัวหนึ่งในคอคงเจ็บเป็นแผลอยู่ลึกมาก มีกลิ่นเหม็น พาไปหาหมอก็ฉีดยาแก้อักเสบให้ ล้างปาก ก็ดีขึ้น แต่ไม่นานก็เหมือนเดิม น่าสงสารมาก เป็นมาหลายปีแล้ว กินอาหารไม่ค่อยได้ทำให้ผอมมากจาก 5 กิโลเหลือ 3 กก. กล้ามเนื้อลีบ เดิน ๆป ก็ล้มตัวลงนอน นึกถึงกล้วยน้ำว้าที่บดให้เด็กกิน และทราบว่ามีโปตัสเซียมมากช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อ จึงบดกล้วยป้อนวันละ 1 ลูก บังเอิญเขาก็กินได้ คงลื่นเข้าคอทันที สองวันเท่านั้น กลิ่นปากหายเหม็น สี่ห้ววันต่อมาเวลาอุ้มรู้สึกว่าน้ำหนักมากขึ้น มีเรี่ยวแรงขึ้น ตอนนี้สามารถกินอาหารเม็ดได้ และกินบ่อยขึ้น สุขภาพดีขึ้น นี่ก็หมดไปหนึ่งหวีแล้ว ที่ทึ่งมากคือกลิ่นปากเหม็นหายไปเลย แผลในคอคงหายแล้วกล้วยที่ลื่นผ่านลำคอคงจะทำหน้าที่เป็นยาสมานแผลด้วย ตอนนี้อยู่ในช่วงฟื้นฟูร่างกาย กินได้เล่นได้ น้ำหนักขึ้นน่าจะ 1 กิโลแล้ว ก็คงให้กินกล้วยอีกต่อไป ตอนนี้เขายังไม่ปฏิเสธ ถ้าเบื่อก็หยุดพักแล้วกินใหม่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท