ลำไยผลแตก

.

เกล็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการทำลำไย จากนู๋ยุ้ย :

.
ช่วงใกล้เก็บผลผลิต...ใส่แคลเซียมมากไป และปุ๋ยตัวท้าย โพแทสเซียม..หนักมือ...ต้องระวัง
.
ช่วงนี้..เกษตรกรที่ใกล้เก็บผลผลิต โดยเฉพาะภาคเหนือเกิดปัญหา "ลำไยยิ้ม" หรืออาการ "เปลือกผลแตก" กันมาก ทำให้เกษตรกร..ยิ้มไม่ออก
.
เรามาศึกษาสาเหตุของอาการดังกล่าว..ค่ะ
.
การแตกของผล:
.
ผลแตก (fruit cracking) เกิดจากความไม่สมดุลของการขยายตัวของส่วนเนื้อ และส่วนเปลือก
- เนื้อผลซึ่งมีลักษณะเป็นเซลล์อ่อนนุ่ม (spongy parenchyma) มีความสามารถในการยืดหดตัวได้สูง ในขณะที่เปลือกมีความยืดหยุ่นต่ำกว่า
- เนื้อผลมีการขยายปริมาตรอย่างรวดเร็ว และขยายได้เร็วกว่าการขยายตัวของเปลือก
- แรงดันที่เกิดจากการขยายของขนาดของเนื้อผลถ้ามีมากพอ จะดันให้เปลือกผลแตก
.
การแตกของผลลำไยมักเกิดในระยะที่ผลลำไยใกล้จะแก่ และการแตกของผลส่วนใหญ่เกิดกับต้นลำไยที่ติดผลดก ผิวเปลือกบาง
.
การป้องกันการแตกของผล :
- อย่าให้ลำไยติดผลดกโดยตัดช่อผลออกบ้าง
- ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่ระยะออกดอกถึงผลแก่
- ให้ธาตุอาหารแต่ละชนิด ในปริมาณที่เหมาะสม ตามสภาพปริมาณธาตุอาหารที่มีเหลืออยู่บนผิวดิน..ในช่วงเวลานั้นๆ (ต้องฝึกสังเกตอาการขาดหรือได้รับธาตุอาหารแต่ละชนิดเกิน หรือสุ่มนำดินไปตรวจปริมาณธาตุอาหาร
.
ธาตุอาหารที่เกี่ยวข้องกับการแตกของผลคือ...ธาตุแคลเซียม (Ca) และโพแทสเซียม (K)
.
- หากดินรอบๆบริเวณต้นลำไย มีธาตุแคลเซียมมากเกินไป จะเกิดภาวะทำให้ให้รากลำไยดูดซึมธาตุไนโตรเจน (N) เข้าไปมาก
- โพแทสเซียมมาก ทำให้การดูดธาตุไนโตรเจนทำได้ดีขึ้น ทั้งจากทางราก และทางปากใบ
- เมื่อระดับไนโตรเจนมาก ทำให้ลำไยต้องดูดน้ำเข้าผลมากขึ้น เพื่อเจือจางไนโตรเจน..
- น้ำที่ดูดเข้าไปจะทำให้เนื้อขยายตัวมากขึ้น
- เปลือกขยายตัวไม่ทันเนื้อ ส่งผลให้เปลือกผิวของผลแตก...ค่ะ
.
เกษตรกรหลายๆ ท่านที่ช่วงใกล้เก็บผลผลิต..ชอบอัดปุ๋ยตัวท้ายมากๆ..พึงตระหนัก