วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๙
เมื่อคืนตั้งจิตภาวนาข้ามคืน ...ซึ่งเป็นสิ่งที่ถือปฏิบัติต่อเนื่องมาหลายปี (https://www.gotoknow.org/posts/599019)
อากาศที่วัดเย็นยิ่งตกดึกลมหนาวยิ่งแรงขึ้น แต่ในกระต๊อบภาวนากลับอบอุ่น
หลังจากเที่ยงคืน ท้องฟ้ารับเช้าวันใหม่เต็มไปด้วยดวงดาว
เสียงพุ เสียงขับร้องเฉลืมฉลองดังแว่วไกลออกไป ...แต่บริเวณรอบตัวก็ยังคงเงียบสงบ
เด็กๆ...สังกะลีตัวน้อยมานอนวัดสามสี่คน ...นำมาซึ่งความสดใส
เด็กๆ...ใสบริสุทธิ์ ซนก็ซนแบบไร้เดียงสา ข้าพเจ้าคิดเสมอว่า ...การที่เด็กๆ มาหาทำให้เราได้รับโอกาสของการบ่มเพาะเขา
นำพาเขาให้รู้ผิดรู้ชอบ ...รู้ดีรู้ชั่ว...
เด็กผู้ชายจะสอนง่ายกว่าเด็กผู้หญิง...เด็กผู้หญิงมักมีรายละเอียดมาต่อรองเราเสมอ และมักจะมีเรื่องของอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ที่วัด...ในช่วงเช้ามีใส่บาตรในวัดตามปกติ อาจเป็นเพราะว่า หลวงปู้ไม่อยู่ ...ปีนี้คนมาน้อยมาก ส่วนใหญ่ก็เป็นคนในหมู่บ้านระแวกวัด
แต่ทุกคนก็ถือปฏิบัติเสมอเหมือนหลวงปู่อยู่...
ข้าพเจ้าทำอาาหารคลีน เป็น "กล้วยโยเกิร์ตและกราโนล่าถวายพระ" ...และเพิ่มเติมที่ทำ คือ... "โยเกิร์ตนมถั่วเหลือง"
โยเกิร์ตทำเอง...นี่ไม่ได้ทำนานมากแล้วประมาณเจ็ดแปดปี ...กลับมาค้นข้อมูลใน Gotoknow.org (https://www.gotoknow.org/posts/192284)
วิธีการทำไม่ยุ่งยาก ...ทำไว้ช่วงบ่ายๆ พอเช้ามาก็ได้ทาน
เวลาที่ดื่มนมวัวส่วนมากข้าพเจ้ามักจะมีอาการท้องอืด ...ได้กลับมารื้อฟื้นทำโยเกิร์ตได้ประมาณสัปดาห์กว่าแล้ว และที่สำคัญปริมาณน้ำตาลไม่ได้มากเท่าที่เราซื้อทานเลย
ที่สำคัญได้โยเกิร์ตทำใหม่สด...ไม่เติมน้ำตาล
ช่วงเวลาของการอยู่วัด...คือ เวลาของการภาวนา
วันนี้ถือว่าเป็นวันแรกของปี ...ได้ทำการทบทวนกับตนเองในหลายเรื่อง...ในชีวิตที่เกิดขึ้นและผ่านมาตลอดทั้งปี และที่สุดก็ลงใจกับตนเอง ชีวิตก็เดินต่อ จะถูกจะผิดพลาด ชีวิตคือ เรื่องที่เราต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจ...
มีเรื่องน้องนิเด็กน้อยในความอุปถัมภ์แทรกเข้ามาเป็นหนึ่งในกิจกรรมของวัน ...น้องนิอายุสี่ขวบไม่สบายได้รับความกรุณาจากเภสัชติ๋วช่วยเป็นธุระพาไปหาหมอทั้งเช้าและอีกรอบในตอนเย็นที่มีอาการไม่ดีขึ้น ในใจก็นึกถึงเรื่องเกื้อกูล เพราะแม่และย่าของน้องนิดูแลข้าพเจ้าอย่างดีในช่วงเวลาที่อยู่วัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกินหรือความเป็นอยู่ ตลอดจนการช่วยเหลืองานเล็กๆ น้อยๆ... การได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลน้องนิ คล้ายได้ตอบแทนในคุณงามความดีที่ครอบครัวนี้มีให้แก่ข้าพเจ้า
เด็กชายสังกะลีก็ยังคงสดใส และวันนี้ขอกลับไปนอนบ้าน เหลือแต่ทุ่ง อยู่คนเดียว
กิจกรรมส่วนใหญ่ มักอยู่กับการภาวนา หรือการใคร่ครวญในสภาวะจิตที่เกิดขึ้น
เห็นความเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป ...หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ...จิตก็เกิดตระหนักว่าทุกเรื่องราวจบลงไปแล้ว ...
ช่วงเวลาทำวัตรเย็นวันนี้ขึ้นมาทำที่กุฏิแฝดห้องกระจก มีลูกสมุนเป็นสุนัขสี่ตัวคอยอารักขา...และเฝ้าอยู่หน้าห้อง
คล้ายเขารู้เรื่อง...เวลาที่ข้าพเจ้าเดินในวัดหรือเข้ามาพักที่กุฏิก็จะพากันตามมาอยู่เป็นเพื่อน...
เป็นอีกหนึ่งวันที่ดำรงอยู่กับความตื่นรู้และนอบน้อม
ไม่ว่าจะมีเรื่องหรือบุคคลมาแหย่มาเร้าให้เกิดโทสะหรือไม่พอใจ ...วันนี้ทุกเรื่องจบลงอย่างรวดเร็ว แบบใจไม่กระเพื่อม
เข้าใจ ...และรู้สึกให้อภัยในตนเองที่ผ่านมาตลอดรวมถึงให้อภัยคนอื่นๆ ที่ยังยากจะควบคุมกิเลสของตนเองได้
พอคิดได้เช่นนี้ใจก็เย็นๆ ร่มๆ ขึ้นมาทันที
...
ด้วยความนอบน้อม
สวัสดีปีใหม่ค่ะอาจารย์ ^^