บันทึกชุด “ยุทธศาสตร์นักจัดการความรู้” นี้ ถอดความจากหนังสือชื่อ Designing a Successful KM Strategy : A Guide for the Knowledge Management Professionals เขียนโดย Stephanie Barnes and Nick Milton ที่ปรึกษา KM มากประสบการณ์
บันทึกตอนที่ ๙ นี้ ได้จากการตีความบทที่ 9 Assessing the Current State of KM in the Organization
สรุปได้ว่า ประเมินสถานภาพ KM ในปัจจุบันได้ โดยร่วมกันตั้งคำถาม (๑๖ ข้อ) และร่วมกันตอบ ได้เป็นข้อมูลสำหรับสังเคราะห์ นำไปใช้ประกอบการวางกรอบดำเนินการยุทธศาสตร์ KM
การประเมินสถานภาพปัจจุบันของการจัดการความรู้ในองค์กร ทำโดยตอบคำถามต่อไปนี้
- ทำไมความรู้นี้จึงไม่ได้รับการจัดการไปแล้ว
- อะไรปิดกั้นการไหลของความรู้จากคนมีความรู้ไปยังคนที่ต้องการใช้
- อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดที่เราทำได้เพื่อระงับการปิดกั้น หรือเพื่อส่งเสริมการไหลของความรู้
การประเมินมีเป้าหมายเพื่อหาว่าต้องการการเปลี่ยนแปลงตรงไหน และหาจุดแข็งหรือความสำเร็จ สำหรับขยาย ไปสู่กรอบการดำเนินการ KM ที่ครบถ้วน
ในการประเมิน ต้องยึดโมเดลใดโมเดลหนึ่ง ซึ่งมีให้เลือกมากมาย ควรใช้โมเดลที่จะใช้สร้างกรอบการ ดำเนินการ KM ในอนาคต
ผู้เขียนแนะนำให้การประเมินและการพัฒนากรอบการดำเนินการ KM ใช้โมเดลที่เชื่อมต่อ (align) กัน และมีองค์ประกอบ KM ที่เลื่อนไหล รวมทั้งมีตัวช่วย (enabler) ที่ครบถ้วน
องค์ประกอบของการไหลของความรู้มี ๔ ตาม SECI Model ของ Nonaka & Takeuchi
- Socialization เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความรู้ปฏิบัติ สิ่งที่ต้องทำคือเชื่อมโยงคน ให้ได้คุยและปฏิสัมพันธ์กัน
- Externalization เขียนความรู้ปฏิบัติออกมาเป็นถ้อยคำ หรือสิ่งที่บันทึกได้ ถือเป็นการจัดเก็บ (capture) ความรู้
- Combination สังเคราะห์ และจัดระบบความรู้ที่บันทึกได้
- Internalization ใช้ความรู้ เพื่อความเข้าใจและซึมซับเข้าไปในตัว นักจัดการความรู้ต้อง ตรวจตราว่าพนักงาน เสาะหา อ่าน เรียนรู้ และซึมซับความรู้เข้าตัวอย่างไร
ตัวช่วยการจัดการความรู้ที่ยึดถือกันทั่วไปมี ๓ ได้แก่ (๑) คน, (๒) กระบวนการ, (๓) เทคโนโลยี โดยผู้เขียนหนังสือเติมตัวที่สี่เข้าไป (๔) ระบบกำกับดูแล (governance) ที่มีผลต่อพฤติกรรมของคนในองค์กร
คำถามเพื่อประเมิน
มี ๑๖ คำถาม ได้แก่
- มีกลไกรับผิดชอบภายในองค์กรที่ส่งเสริมการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้สำคัญ หรือไม่ เป็นกลไกที่ให้ผลดีหรือไม่ มีทางปรับปรุงหรือไม่ มีส่วนใดขาดไป
- มีกระบวนการอะไรที่มีอยู่แล้วสำหรับเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความรู้ที่สำคัญ ใช้ได้ผลดีแค่ไหน มีทางปรับปรุงอย่างไร ส่วนไหนที่ขาด
- มีเทคโนโลยีอะไร ที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่อการพูดคุยและเปลี่ยนความรู้สำคัญ ใช้ได้ผลดีแค่ไหน จะปรับปรุงได้อย่างไร ส่วนไหนที่ขาด
- มีระบบกำกับดูแลการติดต่อพูดคุยเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้สำคัญอย่างไรบ้าง มีการระบุความคาดหวัง, นโยบาย, การจัดการสมรรถนะ, รางวัล, การยกย่อง, และการส่งเสริม ไว้ครบถ้วนแล้วหรือไม่ ระบบใช้การได้ดีไหม มีช่องทางปรับปรุงอย่างไร ส่วนไหนที่ขาด
- มีกลไกรับผิดชอบภายในองค์กรในการตรวจจับและบันทึกความรู้สำคัญ หรือไม่ ทำงานได้ผลเพียงใด มีทางปรับปรุงอย่างไร ส่วนไหนที่ขาด
- มีกระบวนการอะไรบ้างที่มีอยู่แล้ว สำหรับ ตรวจจับและบันทึก ความรู้สำคัญ ทำงานได้ผลเพียงใด มีทางปรับปรุงอย่างไร ส่วนไหนที่ขาด
- มีเทคโนโลยีอะไรบ้างสำหรับ ตรวจจับและบันทึกความรู้สำคัญ ทำงานได้ผลเพียงใด มีทางปรับปรุงอย่างไร ส่วนไหนที่ขาด
- มีระบบกำกับดูแลการตรวจจับและบันทึกความรู้สำคัญอย่างไรบ้าง มีการระบุความ คาดหวัง, นโยบาย, การจัดการสมรรถนะ, รางวัล, การยกย่อง, และการส่งเสริม ไว้ครบถ้วน แล้วหรือไม่ ระบบใช้การได้ดีไหม มีช่องทางปรับปรุงอย่างไร ส่วนไหนที่ขาด
- มีกลไกความรับผิดชอบภายในองค์กร ในการรวบรวม สังเคราะห์ และจัดระบบความรู้ ที่สำคัญหรือไม่ ทำงานได้ผลเพียงใด มีทางปรับปรุงอย่างไร ส่วนไหนที่ขาด
- มีกระบวนการอะไรบ้างที่มีอยู่แล้ว ในการรวบรวม สังเคราะห์ และจัดระบบความรู้ที่สำคัญ ทำงานได้ผลเพียงใด มีทางปรับปรุงอย่างไร ส่วนไหนที่ขาด
- มีเทคโนโลยีอะไรบ้างสำหรับใช้ในการรวบรวม สังเคราะห์ และจัดระบบความรู้ที่สำคัญ ทำงานได้ผลเพียงใด มีทางปรับปรุงอย่างไร ส่วนไหนที่ขาด
- มีระบบกำกับดูแลการรวบรวม สังเคราะห์ และจัดระบบความรู้ที่สำคัญอย่างไรบ้าง มีการระบุความ คาดหวัง, นโยบาย, การจัดการสมรรถนะ, รางวัล, การยกย่อง, และการส่งเสริม ไว้ครบถ้วน แล้วหรือไม่ ระบบใช้การได้ดีไหม มีช่องทางปรับปรุงอย่างไร ส่วนไหนที่ขาด
- มีกลไกความรับผิดชอบภายในองค์กร ในการเสาะหา ค้นพบ อ่าน/ดู และซึมซับความรู้ สำคัญเข้าไปในตัวพนักงาน กลไกนี้ทำงานได้ผลเพียงใด มีทางปรับปรุงอย่างไร ส่วนไหนที่ขาด
- มีกระบวนการอะไรบ้างที่มีอยู่แล้ว ในการเสาะหา ค้นพบ อ่าน/ดู และซึมซับความรู้ สำคัญเข้าไปในตัวพนักงาน กลไกนี้ทำงานได้ผลเพียงใด มีทางปรับปรุงอย่างไร ส่วนไหนที่ขาด
- มีเทคโนโลยีอะไรบ้างสำหรับใช้ ในการเสาะหา ค้นพบ อ่าน/ดู และซึมซับความรู้ สำคัญเข้าไปในตัวพนักงาน เทคโนโลยีนี้นี้ใช้การได้ดีเพียงใด มีทางปรับปรุงอย่างไร ส่วนไหนที่ขาด
- มีระบบกำกับดูแลการเสาะหา ค้นพบ อ่าน/ดู และซึมซับความรู้ สำคัญเข้าไปในตัวพนักงาน อย่างไรบ้าง มีการระบุความ คาดหวัง, นโยบาย, การจัดการสมรรถนะ, รางวัล, การยกย่อง, และการส่งเสริม ไว้ครบถ้วน แล้วหรือไม่ ระบบใช้การได้ดีไหม มีช่องทางปรับปรุงอย่างไร ส่วนไหนที่ขาด
กระบวนการประเมิน
ทางที่ดีที่สุดคือเชิญที่ปรึกษา หรือผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาดำเนินการ แต่ถ้าหาไม่ได้ ก็มีวิธีการประเมิน ๒ แบบ คือแบบจัดการประชุมปฏิบัติการ โดยใช้เวลาประมาณ ๑ วัน กับแบบสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูง ทีละคน ใช้เวลาคนละ ๑ - ๒ ชั่วโมง โดยใช้คำถามทั้ง ๑๖ ข้อข้างบน
เอาผลประเมินไปทำอะไร
เอาไปใช้เป็นข้อมูล สำหรับออกแบบยุทธศาสตร์ KM ให้มีการลงแรงน้อยที่สุด แต่ได้ยุทธศาสตร์ที่พุ่งเป้า (ถูกเป้า) ความรู้ที่มีความสำคัญยิ่งยวด และครบถ้วน มีการเน้นที่ ส่วนที่ยังเป็นจุดอ่อนหรือช่องโหว่
อีกวิธีหนึ่งคือ นำข้อมูลไปทำตาราง SWOT (Strength, Weakness, Opportunities, Threats) โดยถือว่า S-W เป็นปัจจับภายในองค์กร ส่วน O-T เป็นปัจจัยภายนอกองค์กร นำผลการวิเคราะห์นี้ประกอบการ ออกแบบยุทธศาสตร์ KM
ตัวอย่าง
Health Canada (1998)
สถานภาพปัจจุบันของ Health Canada : เรา
- ไม่รู้ว่าพนักงานของเรารู้
- ไม่รู้ว่าเรามีสารสนเทศอะไรบ้าง
- ไม่รู้ว่าเราต้องการสารสนเทศอะไรบ้าง
- ไม่มีวิธีการตรวจจับความรู้ของพนักงานอย่างเป็นระบบ
- ไม่มีแนวทางสำหรับลงทุนด้านความรู้, สารสนเทศ, Applications, และเทคโนโลยี
eThekwini Municipality (South Africa)
สถานภาพของ KM ในสภาพที่เป็นอยู่
- กิจกรรม KM ในองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หากไม่บรรจุอยู่ในโครงสร้างองค์กร จะไม่ได้รับการสนับสนุนทรัพยากร หรือได้รับน้อย
- มีปัญหาการได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหาร
- หาก KM ไม่บูรณาการกับภารกิจหลัก คุณค่าจะมีน้อย และจะค่อยๆ เสื่อมไป
- ในหลายกรณี KM เน้นที่ ไอที ในความเป็นจริง ไอทีเป็นตัวช่วย ไม่ใช่กิจกรรมหลักของ KM
สรุปและขั้นตอนต่อไป
เมื่อมีวิสัยทัศน์ และมีผลการประเมินสถานภาพปัจจุบัน ก็จะเห็นช่องว่างที่จะต้องดำเนินการ อุดช่องโหว่ โดยขั้นตอนต่อไปคือกำหนดกรอบการดำเนินการ KM
วิจารณ์ พานิช
๗ ก.ย. ๕๘