“ที่กะหรอมีเป้าหมายพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกกองทุนหมู่บ้านระดับตำบลโดยการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ในการป้องกันแทนการรักษา โดยได้เชื่อมโยงกับอนามัย ทำให้รู้ว่ามีเป้าหมายร่วมกัน แต่ยังคิดรายละเอียดไม่ออก คุณชายขอบพอจะมีข้อเสนอแนะบ้างมั้ยครับทั้งยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในการทำงาน”
ผมมองอย่างนี้ครับ
มองว่าเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพชีวิตเป็นเป้าหมายสูงสุดสู่
“ความสุขของชีวิต” ของ “ชีวิตคนจริง ๆ” ครับ
ที่พัทลุงตามแนวทางการดำเนินงานแบบ “ไตรภาคีร่วมพัฒนาสุขภาพชุมชน”
ซึ่งไตรภาคี คือ
ภาคีแรก
เป็นราชการส่วนภูมิภาค เช่น สอ./สสอ./รพ./สสจ. รวมถึงส่วนราชการอื่น ๆ
ในภูมิภาคที่กระจายอยู่แล้วในชุมชน รอบ ๆ ชุมชน เช่น โรงเรียน ปกครอง
พัฒนาชุมชน แล้วแต่โอกาสครับ ที่เดินเรื่องหลักคือ สาธารณสุข
ภาคีที่สอง
เป็นราชการส่วนท้องถิ่น เช่น อบต./เทศบาล/อบจ. อันนี้ก็เชื่อมต่อกับ
อบจ.โดยผู้บริหาร (นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง)
ซึ่งก็เป็นหัวหน้าทีมวิจัยอยู่แล้ว ส่วน อบต./เทศบาล นั้น
ก็พื้นที่เป็นคนเชื่อมประสานเองได้อยู่แล้วครับ
ภาคีที่สาม
เป็นภาคประชาชน/ภาคเอกชน
ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็จะมีการรวมตัวกันเป็นเครือข่ายอยู่แล้ว
แต่ทิศทางอาจจะไม่ชัดเจน และมีจุดมุ่งหมายเป็นเพียงเพื่อการปัญหา
ป้องกันปัญหา หรือการพัฒนาเป็นเรื่อง ๆ ไป
หรืออาจจะเป็นกลุ่มที่ราชการเคยมาสร้างไว้ มาพัฒนาไว้
และทอดทิ้งเขาไปครับ (ผู้รับผิดชอบย้าย หรือเหตุผลอื่น ๆ) เช่นกลุ่ม
อสม. กลุ่มเยาวชน กลุ่มแม่บ้านฯ กลุ่มครูศูนย์เด็กเล็ก
กลุ่มแกนนำชุมชน สารพัดกลุ่มครับ
อีกวิธีหนึ่งที่ใช้เหมือนกันคือการเข้าไปทำให้ผู้นำชุมชนเช่น กำนัน
ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน หรือ
ปราชญ์ชาวบ้านที่ชาวบ้านเขาเคารพอยู่ก่อนเชื่อถือเรา ตอนหลัง ๆ
เราก็จะได้ใจของคนในชุมชนให้ออกมาร่วมมือกับเรามากขึ้น อย่างนี้จะเร็ว
เช่นการเดินเรื่องด้วยโครงการ "เอื้ออาทรคนพิการเข้าถึงสิทธฺฯ"
อย่างที่ทำอยู่
หลักการของเราคือ หาทางจับมือกับภาคีที่สองให้ได้ไม่ว่าจะเป็นใครเพื่อเริ่มการเคลื่นไหว (ดุกดิก) โดยเราเชื่อว่าเมื่อจับกันได้ 2 ภาคแล้ว (ทวิภาคี) ภาคีที่สามก็จะเข้ามาร่วมด้วยโดยการกระโดดเข้ามา (เน้นว่าใช้ “กระโดด”) ครับ ถึงตอนนั้นก็จะเป็นไตรภาคี และเกิดความสมดุลในการเริ่มต้นการพัฒนา
สำหรับการแสวงหาพันธมิตรที่เป็นภาคีที่สอง อันนี้เรา (ทีมนักวิจัยหลัก) จะเป็นคนสอดส่ายสายตาหา การปล่อยข่าวออกไป เมื่อมีกลุ่มใดสนใจ ก็เริ่มจากการพูดคุยขายแนวคิดกัน มีการบอกต่อกันไป จากกลุ่มเล็ก ๆ หลาย ๆ ครั้งก็กลุ่มใหญ่ขึ้น การเริ่มต้นในแต่ละที่ที่ไม่พร้อมกันจะเกิดการเรียนรู้ การปรับเปลี่ยนกระบวนการ จนนำไปสู่ความสำเร็จครับ
ความสำเร็จที่ว่า คือการได้มาซึ่งแผนชุมชนด้านสุขภาพ เป็น “แผนพัฒนาสุขภาพชุมชน” ที่ทุกคนในชุมชนร่วมรับรู้ ร่วมคิด และจะร่วมทำ ทุกเรื่องใช้คำว่า"ร่วม"หมดครับ และต้องร่วมจริง ๆ
ผมว่าน่าจะมีอีก แต่ขอแค่นี้ก่อนนะครับ แล้วปุจฉามาอีกก็ได้ วันหลังผมจะปุจฉากลับไปบ้างนะครับ