ประสบการณ์การเรียน มสธ.:การเรียนด้วยตัวเอง
การสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชเป็นสิ่งที่ไม่เคยอยู่ในความคิดของผู้เขียนมาก่อนเลยจนกระทั่งงานบางส่วนที่ผู้เขียนเองต้องเข้าไปรับผิดชอบเกี่ยวข้องกับงานด้านการขาย การตลาด ทำให้ความคิดนี้เข้ามาอยู่ในความสนใจ จนทำให้ผู้เขียนตัดสินใจสมัครเข้าเรียนปริญญาตรีบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการตลาด คณะวิทยาการจัดการ และพึ่งได้รับแจ้งจากทางมหาวิทยาลัยว่าสำเร็จการศึกษาแล้วไม่ถึง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา
การเรียนกับมสธ.มีความจำเป็นอย่างมากที่ผู้เรียนต้องมีความรับผิดชอบ รู้จักแบ่งเวลามาอ่านหนังสือด้วยตัวเอง ช่วงเวลาการอ่านหนังสือของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป เช่น บางคนอ่านตอนเช้าก่อนทำงาน 1 ชม. และก่อนนอน 1 ชม. หรือบางคนนิยมอ่านก่อนนอนเลย 2-3 ชม.
ส่วนตัวของผู้เขียนเองมองว่าระบบการเรียนการสอนของมสธ.ถือว่าโอเคเลย มีส่วนช่วยอย่างมากให้คนที่ต้องทำงาน ไม่มีเวลาเรียนเต็มเวลา ได้มีโอกาสทางการศึกษาเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นยังมีส่วนช่วยให้กลุ่มคนที่ต้องการแสวงหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อใช้ในการประกอบอาชีพของตนได้มีช่องทางเข้าถึงความรู้ในทางวิชาการอีกด้วย
การสอบในหลายวิชาของมสธ.เป็นการสอบแบบปรนัย มีตัวเลือก 5 ตัวเลือก ก่อนที่ผู้เขียนจะสมัครเรียนเห็นเป็นข้อสอบปรนัยก็คิดว่าง่ายครับ เนื่องจากผู้เขียนเรียนจบวิชานิติศาสตร์มา (จบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) เคยทำแต่ข้อสอบอัตนัย ต้องเขียนบรรยายเท่านั้น แต่เมื่อได้เข้ามาเรียนแล้ว ทำให้รู้ว่าหากไม่มีความรู้ในวิชาที่สอบดีพอ ก็เป็นการยากที่จะเลือกคำตอบที่ถูกต้อง จากประสบการณ์ส่วนตัวคือถ้าไม่อ่านหนังสือแล้วเข้าห้องสอบ มีโอกาสไม่ผ่านสูงมาก เว้นแต่วิชานั้นเราจะมีความรู้เดิมอยู่บ้างก็อาจจะใช้บุญเก่าพอเอาตัวรอดไปได้
การเรียนที่มสธ.ของผู้เขียนมีหลายอย่างเลยที่ไม่ค่อยประทับใจ หากมสธ.ปรับปรุงตรงส่วนนี้ได้คงทำให้มสธ.น่าเรียนขึ้นอีกมาก มุมมองของผู้เขียนเกิดจากการได้เคยเรียนในมหาวิทยาลัยระบบปิดมาก่อน แล้วจึงเกิดการเปรียบเทียบเมื่อได้มาเรียนในมหาวิทยาลัยเปิดอย่างมสธ. สิ่งที่อยากให้มสธ.ปรับปรุงมีดังนี้
1)เนื้อหาในแต่ละชุดวิชาควรมีการปรับปรุงให้ทันสมัย มีการอ้างถึงแนวคิดและทฤษฎีสมัยใหม่ รวมถึงการยกตัวอย่างกรณีศึกษาที่เป็นปัจจุบันและมีความหลากหลาย
2)คำถามในแบบฝึกหัดท้ายตอนควรใส่แนวทางคำตอบให้ครบถ้วน ไม่ควรเว้นว่างไว้ มันแสดงถึงความไม่รับผิดชอบของอาจารย์ผู้เขียนชุดตอน
3)อาจารย์ผู้เขียนชุดตอนควรเลือกคนที่มีความรู้จริงในเรื่องนั้นๆมาเขียน
4)ในการมาอบรมชุดวิชาประสบการณ์ฯอาจารย์ประจำกลุ่มควรให้ความใส่ใจนักศึกษาในกลุ่มตนอย่างใกล้ชิด ควรอยู่กับเด็กเต็มเวลาตลอดวัน เนื่องจากมสธ.เป็นการเรียนด้วยตัวเอง เมื่อเด็กมีโอกาสได้มามหาวิทยาลัยและพบอาจารย์แล้ว ก็ควรให้เวลากับเค้าให้มากที่สุด
5)มสธ.ควรเพิ่มคู่สายโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อกับมหาวิทยาลัยให้มากขึ้น ในปัจจุบันโทรศัพท์ติดต่อยากมาก การศึกษาทางไกลควรให้เด็กติดต่อง่าย เมื่อนักศึกษาเจอปัญหาทางการเรียนจะได้ติดต่อมหาวิทยาลัยได้ทันที
สถาบันทางการศึกษามีส่วนสำคัญในการพัฒนาบุคลากรของชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมสธ.เป็นมหาวิทยาลัยเปิดของรัฐบาลซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการให้โอกาสทางการศึกษาแก่บุคคลที่ขาดโอกาสทางการศึกษา บุคคลที่ต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย มสธ.จึงควรอำนวยความสะดวกให้ผู้เรียนเข้าถึงได้ง่าย มีช่องทางติดต่อสอบถามได้สะดวก มีเนื้อหาความรู้ในชุดวิชาที่เข้าใจง่าย และทันสมัย เพื่อให้นักศึกษาที่จบออกมามีความสามารถในการแข่งขันกับนักศึกษาที่จบจากสถาบันการศึกษาอื่นได้ในยุคที่การแข่งขันสูงดังเช่นปัจจุบัน
เชน ม่วงสกุล ผู้เรียบเรียง
ผมก็จบ มสธ. ครับ เกรด 2.30 แต่มีน้องเขยครับ ได้เหรียญทองครับ สุดยอดมาก มสธ. ดีมากครับ สำหรับคนที่ทำงานแล้ว มาเรียน เพราะไม่ต้องนั่งเรียน แต่ต้องรับผิดชอบตัวเอง ส่วนข้อเสนอแนะ เห็นด้วยทุกข้อกับคุณเชน และอยากให้เพิ่มทางช่องทางติดต่อกันระหว่างครูและเพื่อนนักศึกษาทางระบบไลน์และเฟชบุ็ค อื่นๆ ในแต่ละสาขา (ผมจบมานานแล้ว ไม่รู้มียัง) อยากเรียนต่อจังครับ
มีไลน์กลุ่มเฉพาะเพื่อนที่ไปอบรมชุดประสบการณ์วิชาชีพคับ แค่ 20 คนเอง แต่ช่วงเวลาที่ไปอบรมชุดประสบการณ์ฯน่าจดจำมากคับ
ตอนอบรมเข้มก่อนจบ ประทับใจมากครับ (สิบกว่าปีแล้ว) ที่ได้ไป มสธ. ครั้งแรก ทำงานกลุ่ม จนดึกดื่น กินข้าวรอบดึก นอนที่นั้น เป็นสัปดาห์ ยังติดต่อกันจนถึงปัจจุบันนี้เลยครับ ขอบคุณที่ทำให้ย้อนคืนความทรงจำที่มีความสุขครับ