จากการอ่านหนังสือหลาย ๆ เล่ม พบว่า การศึกษาเรื่องพหุวัฒนธรรมมีจุดยืนในเรื่อง ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
ศีลธรรม สิทธิมนุษยชน ความเป็นธรรม และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างคนวัฒนธรรมหลัก และ วัฒนธรรมย่อย
หรือความเป็นชาติพันธ์ หลัก ๆ ของจุดยืนก็ประมาณนี้ ผมได้ตั้งคำถามต่อว่า พาหุวัฒนธรรมได้พยายามตอบคำถามอะไร
ประการที่หนึ่ง ตอบคำถามเรื่องของมโนทัศน์พื้นฐานเกี่ยวกับสังคมว่า สังคมทุกสังคมมีความแตกต่างหลากหลาย
ได้แก่ ความแตกต่างด้านชาติพันธุ์ ความแตกต่างด้านวัฒนธรรม และความแตกต่างด้านความสัมพันธ์ทางอำนาจ
ระหว่างวัฒนธรรม เช่นวัฒนธรรมใหญ่ย่อมใช้อำนาจในการครอบงำวัฒนธรรมเล็ก ๆ ที่จะพบเห็นได้ทั่วไปในฐานะ
ข้อเท็จจริง หลักการ หรือแม้แต่จินตนาการ ระบบความคิด
ประการที่สอง พยายามตอบคำถามว่า จะลด อคติ ทางเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ ในสังคมได้อย่างไร ความแวดไวในวัฒนธรรม
แห่งการอยู่ร่วมกันในสังคม เนื่องจากความเป็นชาติพันธุ์เป็นความหลากหลายทางวัฒนธรรม หลายอัตลักษณ์ ด้วยความ
เคารพในวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน
ประการที่สาม พยายามตอบคำถามว่า จะเพิ่มเสริมพลังให้ชนที่อยู่วัฒนธรรมรอง ชนกลุ่มน้อย คนด้อยโอกาสได้แสดงอัตลักษณ์
ความเป็นอยู่ โอกาส และสร้างความเป็นธรรมได้อย่างไร ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และวัฒนธรรม ให้มีสิทธิและโอกาสที่เท่าเทียมกันได้ อย่างไร
ประการที่สี่ พยายามตอบคำถามต่อนโยบายของรัฐ ต่อการจัดการความหลากหลายทางวัฒนธรรมนี้เป็นอย่างไร และเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ทั้งประเด็นความมั่นคงของชาติ ความมั่นคงของรัฐ นโยบายการกระจายอำนาจ สิทธิทางกฎหมาย นโยบายการศึกษา การกลืนกลายทางวัฒนธรรม
ประการที่ห้า พยายามตอบคำถามต่อเบื้องหลังปรากฎการณ์ผิวหน้าในสังคม หรือมายาคติที่จะต้องถอดรื้อ เปิดเผยออกมา เช่น สิทธิทางกฎหมาย กับวิธีปฏิบัติในชีวิตจริง หรือวัฒนธรรมและวิถีชีวิต ซึ่งเป็นความสัมพันธ์เชิงอำนาจ
และประการสุดท้าย แม้ว่า พหุวัฒนธรรม จะพยายามตอบคำถามส่วนใหญ่ไปในเชิงสังคม วัฒนธรรม ชาติพันธ์ ยังไม่ครอบคลุมไปถึงพาหุวัฒธรรมในตัวความรู้เอง ชนกลุ่มน้อยทางความรู้ วัฒนธรรมการเรียนรู้ของชนวัฒนธรรมรอง ดังนั้นวาทกรรมในการนิยามความหมายของพหุวัฒนธรรม จึงจะต้องรวมทุกมิติของ "ความเป็นอื่น" ต่อวัฒนธรรมกระแสหลักของทุกปริมณฑล
ไม่มีความเห็น