Valentine's Day กับกิจกรรม "การป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น"
วันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาส ร่วมกิจกรรม "การป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น" กับน้องๆ นักเรียนที่โรงเรียนวัดกะพังสุรินทร์ อ.เมือง จ.ตรัง น้องๆ น่ารักมากทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันเสาร์และเป็นวันวาเสนไทม์ ที่วัยรุ่นส่วนใหญ่จะพากันไปดูหนัง เดินห้าง หรือ สวีทกันตามประสา แต่เด็กๆกลุ่มนี้กลับมาร่วมกิจกรรม เพื่อติดอาวุธทางปัญญาที่จะนำไปดูแลตนเองเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและปกป้องตัวเองเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์คับขันหรือไม่พร้อม.....มาติดตามภาพกิจกรรมกันนะค่ะ
ไหนๆ ก็มาแล้ว ดิฉันขอถือโอกาสนำข้อมูลการท้องไม่พร้อมในวัยรุ่นมาเล่าสู่กันฟังพอสังเขปนะค่ะ ประเทศไทย มีวัยรุ่นอายุ ๑๐ - ๑๙ ปี ประมาณ ๑๐ ล้านคน เป็นชายหญิงในสัดส่วนที่เท่ากัน และเป็นวัยรุ่น ที่อยู่นอกระบบการศึกษาประมาณสองล้านคนสถิติสาธารณสุขพบว่า การคลอดของวัยรุ่นในปี ๒๕๕๒ มีจำนวนมากถึง ๑๒๒,๗๓๖ คน (ร้อยละ ๑๖.๐ ของการคลอดทั้งหมด) นั่นคือ ประมาณ ๓๓๖ คนต่อวัน และพบว่าอัตราการเจริญพันธุ์ของวัยรุ่นหญิงเพิ่มขึ้น จาก ๓๑.๑ ในปี ๒๕๔๓ เป็น ๕๐.๑ รายต่อประชากรหญิง ๑,๐๐๐ คน ในปี ๒๕๕๒ ข้อมูลจากงานวิจัยหลายแห่งได้บ่งชี้ถึงปัจจัยหลายประการที่ไม่เอื้อต่อสุขภาพของเด็กที่คลอดจากแม่วัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัวที่น้อยกว่าปกติอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนในการคลอด ตลอดจน ถึงการเลี้ยงดูทารกให้สมบูรณ์ทั้งทางร่างกายและสติปัญญา ซึ่งจะด้อยกว่าการคลอดในแม่ที่มีอายุสูงกว่าการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นจำนวนมาก เป็นการตั้งครรภ์ที่ไม่ตั้งใจ ซึ่งเป็นผลจากการไม่ได้ป้องกัน โดยพบว่า เยาวชน จำนวน ๑ ใน ๓ ไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์เมื่อมีเพศสัมพันธ์ และมีประมาณครึ่งหนึ่งที่ใช้ถุงยางอนามัย และเพียงร้อยละ ๑๐ เท่านั้นที่ใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน (อนามัยโพล, ๒๕๕๔) เมื่อตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยจึงตัดสินใจทำแท้งแต่เนื่องจากการทำแท้งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอาญาผู้หญิงที่ทำแท้งจะอับอาย และปกปิด ดังนั้นจึงไม่ทราบจำนวนการทำแท้งที่แท้จริง
นอกจากนี้ วัยรุ่นที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย และมีคู่หลายคน จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พร้อม จากรายงานของกรมควบคุมโรค เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในเยาวชน พบว่า เยาวชนมีแนวโน้มการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นจาก ๒๓.๔ ต่อแสนประชากรเป็น ๓๔.๘ ต่อแสนประชากร (สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค,๒๕๕๓)ส่วนโรคเอดส์นั้น พบว่าใน ช่วงที่ผ่านมา (ปี พ.ศ.๒๕๒๗ - ๒๕๕๒) อัตราป่วยโรคเอดส์ในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง ในกลุ่มอายุ ๑๐ - ๑๙ ปี ผู้ชายและผู้หญิงเป็นโรคเอดส์ในสัดส่วนที่พอๆ กันหญิงตั้งครรภ์อายุน้อยกว่า ๒๐ ปี ติดเชื้อเอชไอวี ร้อยละ ๐.๕ มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น (สำนักระบาดวิทยา, ๒๕๕๓) และพบว่าผู้ป่วยโรคเอดส์ร้อยละ ๘๔ ได้รับเชื้อเอชไอวีมาจากการมีเพศสัมพันธ์
ไม่มีความเห็น