ผมได้รับคำปรึกษาจากผู้ป่วยหญิงคนหนึ่งว่า จะมาทำผ่าตัดมดลูก โจทย์ที่ผมได้รับคือ เคยผ่าตัดไปคราวที่แล้ว (ไม่ระบุว่าที่ไหน) หลังผ่าตัดปวดแผลมาก ครั้งนี้กลัวว่าจะปวดอีก และไม่ต้องการวิธีฉีดยาทางไขสันหลัง (เป็นวิธีระงับปวดที่ดีมากแต่ผู้ป่วยมักจะกลัวคำว่าบล็อกหลัง)
ผู้ป่วยรายนี้ ให้โจทย์ที่ค่อนข้างยาก ถ้าหากผมจะใช้การฉีดยา (มอร์ฟีน) เพียงอย่างเดียว คงไม่มีทางหายปวดแน่นอน สิ่งที่ผมทำก็คือ ให้ยาระงับปวด สามชนิด (หรือสามวิธี) ร่วมกัน คือ 1) ให้ยา NSAIDs ก่อนการผ่าตัด, 2) ฉีดยาชาก่อนปิดแผลผ่าตัด (ผู้ป่วยยังสลบอยู่) และ 3) หลังผ่าตัดใช้มอร์ฟีนฉีดทางน้ำเกลือตามเวลาที่กำหนด ทั้งหมดนี้เป็นหลักการของ Multimodal analgesia ซึ่งยาทั้งสามชนิดจะช่วยกันสกัดกั้นสัญญาณความปวด ไม่ให้เล็ดลอดเข้าไปยังสมองนั่นเอง
ผู้ป่วยรายนี้พอใจกับการระงับปวดครั้งนี้มาก และถามผมว่า ทำไมการผ่าตัดทั้งสองครั้ง (ที่เหมือนกัน) จึงปวดไม่เท่ากัน
ผมเพียงแต่จะเล่าบทเรียนจากผู้ป่วยรายนี้ให้ฟังว่า เธอมีความสนใจหรือกังวลเรื่องการระงับปวดหลังผ่าตัด เนื่องจากมีประสบการณ์เรื่องอาการปวดหลังผ่าตัดมาแล้วในครั้งแรก ทำให้ได้รับการดูแลที่ดีขึ้น อยากให้ท่านที่เคยมีประสบการณ์ดีๆ เรื่องการระงับปวดหลังผ่าตัดได้
มาแลกเปลี่ยนกันบ้าง
ได้รับการผ่าตัดมดลูก เดือนตุลาคม ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมตอนแรกหมอจะบล็อกหลังแล้วให้ยานอนหลับ แต่สุดท้ายจำเป็นต้องให้ดมยาสลบ และหมอย้ำว่าถ้าผ่าตัดคราวต่อไปถ้ามีการผ่าตัดอีก ต้องบอกหมอวิสัญญีว่าคนไข้มีประวัติว่า มีปัญหาในการวางท่อช่วยหายใจ
ดิฉันเคยผ่าตัดแบบดมยาสลบ จากการผ่าตัดไซนัส 2 ครั้ง คลอดลูก 1 ครั้ง
จะไม่ปวดหลังๆการผ่าตัด
แต่เมื่อใช้วิธีบล็อกหลังแล้วปวดหลังไม่หาย และเจ็บคอ เป็นแผลในปาก แต่คิดว่าคงเป็นหนทางสุดท้ายที่จะช่วยเหลือคนไข้ได้ แต่อยากทราบสาเหตุเท่านั้นว่าเพราะอะไร
ขอบคุณคะ
ผ่าตัดซิสที่รังไข่ มา ได้10 วันแล้ว เริ่มรู้สึกปวดแผลมากขึ้น ไม่เข้าใจว่าทำไมตอนสัปดาห์แรก ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บแผล บริเวณแผลที่ผ่าจะแข็งและชา
อีกหนึ่งคำถาม ถ้าหากแผลมีหนอง จะมีอาการอย่างไรค่ะ เพราะตอนนี้ แผลปิดสนิทแล้ว(ไหมละลาย) แต่รู้สึกว่าแผลด้านขวาจะบวมแดง ควำดูเหมือนมีของแหลวอยู่