หลังจากทำงาน ๓ วัน (๗ - ๙ ตุลาคม ๒๕๕๗) คณะกรรมการนานาชาติ รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล และคู่สมรส ได้รับพระราชทานพาเที่ยว ๓ วัน (๑๐ - ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๗) ปีนี้ไปภาคตะวันออก ๓ จังหวัด คือ ปราจีนบุรี สระแก้ว และ ฉะเชิงเทรา
จุดที่ ๔ ของวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ คือ วิสาหกิจชุมชนราชภูมิฟาร์มไหมอีรี่ ตำบลแซร์ออ อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว เมื่อไปถึง ก็ตรงไปยังที่จัดนิทรรศการ มีครอบครัวนางสาวรัชนีกร ชำนาญ เฝ้ารับเสด็จ เราได้เรียนรู้ว่า นางสาวรัชนีกรสนใจและเรียนรู้วิธีเลี้ยง ไหมอีรี่ ด้วยตนเอง เมื่อทีวีมาทำข่าว สมเด็จพระเทพรัตน์ฯทรงทราบ จึงรับโครงการไว้ในพระอุปถัมภ์ ทางศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ ๙ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และ มทร. ภาคตะวันออก วิยาเขตจันทบุรี ได้เข้าไปจัดอบรมปฏิบัติการ หลักสูตร "เทคนิคการบริหารจัดการการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไหมอีรี่"
เราได้เห็นการเลี้ยงตัวไหม เห็นหนอนไหมระยะต่างๆ การสาธิตสาวใยไหม และผลิตภัณฑ์จากใยไหม ที่ไม่ใช่แค่เอามาทำเป็นผ้าหรือเครื่องนุ่งห่มเท่านั้น ยังเอาโปรตีนใยไหมมาทำเครื่องสำอางได้ด้วย ส่วนนี้ศูนย์นาโนเทคได้มาช่วยเหลือพัฒนาผลิตภัณฑ์ และถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กลุ่มชาวบ้านผลิตเอง
ไหมอีรี่เลี้ยงง่าย และกินใบไม้หลายชนิด ที่นี่เลี้ยงด้วยใบมันสำปะหลัง ซึ่งปลูกกันแพร่หลายในพื้นที่ หนอนไหมอีรี่นอนวันละ ๓ - ๔ ชั่วโมงเท่านั้น ตื่นเมื่อไรเป็นกินตลอดเวลา จึงโตเร็วมาก
ผมดูจากป้ายนิทรรศการ พบว่ารังไหม ๑๐ กิโลกรัม ขายใยได้ ๑ กิโลกรัม ๓๐๐ บาท ขายตัวไหมได้ ๘ กิโลกรัม ๘๐๐ บาท เอาไปทำอาหาร ที่อินเดีย เขาเลี้ยงไหมอีรี่เอาไว้กิน โดยกินทั้งรัง ในนิทรรศการวันนี้ มีข้าวเกรียบดักแด้ไหมอีรี่ และน้ำพริกผสมดักแด้ไหมอีรี่ รวมทั้งดักแด้ทอด ให้ชิม ผมได้ชิมทั้งสามอย่าง
วิจารณ์ พานิช
๑๒ ต.ค. ๕๗
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่รู้ และผมได้รู้จากบันทึกนี้ครับ
วันที่ 27 ธันวาคม 2557 ผมไปประชุมคณะกรรมการอำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีวาระนำเสนอผลงานของโครงการฝ้ายแกมไหม ที่ส่งเสริมการเลี้ยงไหมอีรี่ ผมถามเรื่องรายได้จากการขายรังไหมและตัวไหม พบว่าที่เชียงใหม่ขายตัวหนอนไหมได้กิโลกรัมละ 200 บาท ราคาสองเท่าของที่วัฒนานคร ส่วนรังไหมขายได้กิโลกรัมละ 300 บาท เท่ากับที่วัฒนานคร
วิจารณ