ทำเนื้อหาที่นักเรียนเกลียดให้เป็นเกม...


"ถ้าครูสามารถเปลี่ยนเรื่องยากๆให้กลายเป็นเกม การรักในสิ่งที่เกลียดจะเป็นเรื่องง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ"


“ถ้าครูสามารถเปลี่ยนเรื่องยากๆให้กลายเป็นเกม การรักในสิ่งที่เกลียดจะเป็นเรื่องง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ"</span>

- เด็ก 11 ขวบที่ต้องรักษาโรคเบาหวานเจาะเลือดวันละ 6 ครั้ง เพราะหมอสร้างเกม “หยดเลือด"
ลงบนเครื่องวัดเลือด ถ้าคะแนนออกมา 60-120 เด็กๆจะชนะ

- ชายที่ถูกพลุแมกนีเซียมขนาดมใหญ่ระเบิดใส่ข้างๆ 70% ของร่างกายถูกเผาไหม้
และเป็นโรคตับอักเสบซี ต้องฉีดยาอินเตอร์เฟียรอน สัปดาห์ละ 3 ครั้ง
สามารถทำตามอย่างเคร่งครัดจนรักษาหายได้ใน 18 เดือน
(ในขณะที่คนไข้คนอื่นๆไม่สามารถทำได้) เพราะทุกครั้งที่ฉีดยา
เค้าจะนึกถึงรางวัลที่จะได้รับ จากการเป็นผู้ชนะในเกมของโรคนี้

ปรับจาก : Patterson et.al. Change Anything.


เกมใส่รหัส...

ให้เด็กๆคิดว่าถ้าต้องสร้างโมเดลโครงสร้าง Chloroplast จะใช้อะไร...บ้าง

บางกลุ่มบอกว่า...ลูกชิ้น แทน Thylakoid ลูกชิ้น 1 ไม้คือ Granum
เอาไม้ลูกชิ้นมาเสียบเชื่อมต่อระหว่างไม้ แทน Stomal lamella ราดน้ำจิ้มลงไป
คือ Stoma กัดลูกชิ้น 1 คำ จะเห็น Lumen คิดได้เนาะ



เมื่อแต่ละกลุ่มสร้างรหัสของตัวเองก็....

เป่ายิงชุบ คนชนะ...จะเลือกพูด 1 คำ เช่น น้ำจิ้ม คนแพ้ต้องตอบว่า Stoma ถ้าตอบไม่ได้แพ้ ถ้าตอบได้ เป่าใหม่



คนแพ้คนสุดท้าย...มีภาระงานกลับไปทำ



งานนี้แพ้ไม่ได้...55



ปล.เด็กไม่ชอบอ่านหนังสือ จึงใช้วิธีนี้เพื่อจะให้คุ้นกับคำศัพท์และทบทวนเรื่องที่เรียน
ใช้เวลาเพียง 5-10 นาที
เราไม่ต้องสอนซ้ำหรือหงุดหงิด เด็กๆก็ได้เล่น ได้ทบทวน




ไม้ตี....ข้อถูก

มีข้อสอบ 2 ข้อ เลือกข้อที่ถูกต้อง

เกมง่ายๆ แต่เด็กๆสนุก


หมายเลขบันทึก: 580923เขียนเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2014 10:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2014 10:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ผมชอบแนวความคิดนี้ของคุณครูมากเลยครับ ผมเห็นด้วยว่าการเรียนไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียด สิ่งที่สนุกก็ช่วยในการเรียนรู้ได้เหมือนกันใช่ไหมครับ

การทำให้เป็นเกมส์ในด้านอื่นเขาเรียกว่า Gamification ถ้ามีใครศึกษาหารูปแบบประยุกต์เข้ากับการศึกษาของไทยคงน่าสนใจมากเลยครับ

ขอบคุณมากคะ ด้วยบริบทของนักเรียนที่นี้ ไม่ได้อยากเรียน เพราะเด็กๆอยากออกไปทำงานที่ กทม หรือพัทยามากกว่าการเรียนต่อ เมื่อถูกบังคับโดยครอบครัวและสังคม เด็กมาเรียนโดยตั้งเป้าหมายเพียงแค่ "เรียนจบ" เท่านั้นคะ ห้องเรียนคงทุก์ทรมานมาก ถ้าเราพยายามใส่แต่เนื้อหาลงไป สักวันครูจะหมดแรง นักเรียนจะหมดใจคะ พอนำเกมเข้ามาในห้องเรียน แม้แต่คนที่ไม่เคยเรียนรู้เรื่องอะไรเลย ก็มีส่วนร่วม เล่นกิจกรรมกับเพื่อนได้ พอเด็กสนุกก็อยากเข้าห้องเรียน พอเข้ามาในห้องเรียน อย่างน้อยได้เรียนรู้ ได้ทำกิจกรรม ปุ้มถือว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่เด็กสำหรับตัวปุ้มเองและเด็กๆคะ

เหนื่อยมากกับการเตรียมเกมและอุปกรณ์ ไม่เหมือนสอนบรรยาย เตรียมแต่เนื้อหา แต่สอนแบบนี้ครูต้องเตรียมตัวมากเลยคะ เมื่อเห็นรอยยิ้ม เห็นเด็กสนุกกับการเรียนก็หายเหนื่อยคะ


ขอบคุณมากคะ

สิ่งที่คุณครูเตรียมนั้นไม่เสียหลายครับ ผมคิดว่าคุณครูกำลังทำรูปแบบหนึ่งของห้องเรียนกลับทาง (Flipped Classroom) ครับ ในเบื้องต้นนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ใน GotoKnow เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนครูท่านอื่น และเมื่อรวบรวมสิ่งที่เตรียมไว้จำนวนหนึ่งก็น่าจะเป็นผลงานทางวิชาการที่ดีได้ทีเดียวครับ อาจจะไม่เหมือนที่คนอื่นๆ ทำในปัจจุบันแต่อีกไม่นานก็จะมีคนสนใจในสิ่งที่คุณครูทำมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ

เด็ก ๆสนใจมากนะคะดูจากรูป ทำไว้เยอะ ๆ ปีต่อไปก็สบายค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท