คำแนะนำสำหรับนักเขียนมือใหม่


คำแนะนำที่ง่ายที่สุดของมือใหม่เอี่ยมถอดด้าม(ขอเน้นทางนวนิยายนะคะ ไม่ถนัดเรื่องสั้นเอาเสียเลย)ดิฉันขอใช้วิธีการเขียนข่าว หลักการเขียนข่าวที่เรียนมาคือต้องเขียนตอบคำถามง่ายๆ ให้ได้ว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ทำไมและอย่างไร หรือที่เรียนกันสั้น ๆ ว่า5W 1H(Who , What , Where , When , Why และ How)

ยกตัวอย่างง่ายๆ นะคะ เอาจากเรื่อง ด้วยแรงอธิษฐาน แล้วกันพล็อตเรื่องนี้เริ่มจากการคิดว่าส่วนใหญ่ในนวนิยายที่มีการกลับชาติมาเกิดพระเอกหรือนางเอกมักจะกลับมาเพื่อตามหาคนรักหรือตามมาด้วยความรัก ดิฉันเลยมีความคิดว่าทำไมไม่ให้กลับชาติมาตามล่าตามล้างกันบ้างล่ะ

ดังนั้นนัทธมน(ผู้มีใจผูกพัน) จึงเกิดขึ้นคิดได้แล้วก็เอากระดาษมาหนึ่งแผ่น วาดวงกลมลงตรงกลางใส่พล็อตของเราลงไปจากนั้นเริ่มลากเส้นรัศมี (เหมือนกับเด็ก ๆวาดดวงอาทิตย์นะค่ะ)เส้นแรกคือใครจดรายชื่อตัวละครทั้งหมดลงมาแล้วใช้กระดาษอีกแผ่นเขียนบรรยายหน้าตา สีผม สีตาผมสั้นผมยาวและลักษณะนิสัยตัวละครแต่ละตัวนั้นไว้จะได้ไม่พลาดเวลาเขียน

รัศมีเส้นที่สองคือ ทำอะไร อันนี้คือเรื่องย่อของสิ่งที่จะเขียนค่ะเช่นนัทธมนเข้าใจผิดว่าถูกกฤตย์คนรักเก่าในชาติที่แล้วฆ่าตาย จึงอธิษฐานก่อนตายให้กลับมาเกิดใหม่เพื่อแก้แค้นจิตของมนุษย์ก่อนตายถือว่าแรงมากทำให้หญิงสาวกลับมาพร้อมกับพลังอำนาจวิเศษในตัวฯลฯ เส้นนี้จะเขียนเรื่องย่อ ๆ หรือจะเขียนโดยละเอียดก็ได้ค่ะ

รัศมีเส้นที่สามคือ ที่ไหน เส้นนี้คือฉากค่ะเรื่องราวเกิดขึ้นที่ไหน มีสถานที่ไหนบ้างที่คิดว่าจะต้องใช้ในเรื่อง และเช่นกันรัศมีเส้นที่สี่เมื่อไหร่ คือเวลาที่เกิดขึ้นค่ะเริ่มจากเรื่องเกิดขึ้นในปัจจุบัน ในอดีตหรือว่าในอนาคต

รัศมีเส้นที่ห้าคือ ทำไม ทำไมเรื่องราวเหล่านี้จึงเกิดขึ้นเราต้องการนำเสนออะไรให้ผู้อ่าน อยากให้คนอ่านเห็นอะไรอย่างด้วยแรงอธิษฐานสิ่งที่อยากจะเสนอคือเรื่องการให้อภัยอยากให้รู้ว่าความแค้นนั้นไม่เคยส่งผลดีให้ใครเลย โดยเฉพาะตัวผู้แค้นเคืองเลย ฯลฯใส่ลงไปเลยค่ะ จะได้ช่วยไม่ให้เราหลงประเด็นที่จะนำเสนอ

เส้นสุดท้ายคือ อย่างไร เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างไรโดยวิธีไหน นำเสนอตามเวลาหรือสลับตัดตอนไประหว่างปัจจุบันกับอดีต

เมื่อคุณได้คำตอบทั้งหมดแล้วตรวจดูว่ามีอะไรที่ต้องค้นคว้าหาข้อมูลบ้างหรือเปล่าอย่างจะเขียนเรื่องนางเอกมีพลังจิตก็ควรจะหาหนังสือเกี่ยวกับพลังจิตมาเตรียมไว้อยากจะเขียนฉากแบบไหนถ้าไม่เคยเห็นของจริงก็หาข้อมูลเตรียมไว้หน่อย เตรียมให้พร้อมทุกอย่างแล้วลงมือเขียนค่ะ

คิดเท่าไรคิดไม่ออกสักที

คิดพล็อตสิบเรื่องเขียนไม่จบสักเรื่อง

มาถึงตรงนี้ปัญหาที่คน‘อยาก’ เขียนนวนิยายเรื่องยาวมักประสบคือทำไมเรื่องมันเขียนยังไงก็ไม่รู้จักจบเสียที เขียนไปห้าบทสิบบทชักเบื่อแล้วพล็อตนี้เก่าแล้ว อ่านทวนก็ไม่ถูกใจไอ้โน่นก็ไม่ดีไอ้นี่ก็ไม่ดีไปเขียนเรื่องใหม่พล็อตใหม่เอี่ยมดีกว่า ท่าจะรุ่งกว่า

แต่ความจริงแล้วมันไม่รุ่งหรอกค่ะเพราะพอเริ่มเขียนเรื่องใหม่ได้ไม่นาน ทุกอย่างก็จะเหมือนเดิมคุณจะเริ่มเบื่อเริ่มไม่ชอบเรื่องที่เขียน อยากจะเปลี่ยนไปเขียนเรื่องใหม่อีก

ถ้าเป็นอย่างนี้บอกได้เลยค่ะว่างานที่เขียนคงไม่มีทางจบแม้แต่เรื่องเดียวแน่ ทางแก้คืออดทนเขียนไปก่อน อย่าเปิดเรื่องใหม่จนกว่าจะเขียนเรื่องเก่าจบ จบแล้วถ้ายังไม่ชอบไม่เป็นไรค่ะเก็บไว้สักพักก่อนทิ้งไว้สักเดือนแล้วค่อยมาขัดเกลาแก้ไข แก้ไปเรื่อยจนกว่าจะถูกใจเราแล้วค่อยส่งไปที่สำนักพิมพ์หรือนิตยสารส่งแล้วไม่ต้องรอคำตอบนะคะ เริ่มลงมือเขียนเรื่องใหม่ได้เลยเพราะถ้าทางนิตยสารตอบรับคุณจะได้มีเรื่องใหม่เสนอต่อเนื่อง หรือถ้าเขาปฏิเสธคุณก็เอาเรื่องเก่ามาแก้ไขแล้วส่งเรื่องใหม่ไปให้พิจารณา งานจะได้ต่อเนื่องค่ะข้อสำคัญของนักเขียนใหม่คืออย่าท้อ ถ้ารักจะเขียนจริง ๆต้องไม่กลัวกับตระกร้าบรรณาธิการค่ะ

คิดๆ เท่าไหร่คิดไม่ออกเสียที

ปัญหาอย่างหนึ่งที่นักเขียนใหม่มักเผชิญ(หรือแม้แต่ตัวดิฉันเองยังเจออยู่บ่อยครั้ง) คือติดขัดในบางจุด อย่างเช่นคิดคำพูดไม่ออกไม่รู้จะสร้างเหตุการณ์ต่อเนื่องอย่างไร หรืออธิบายความรู้สึกนึกคิดของตัวละครนั้นๆ ไม่ได้

วิธีแก้ปัญหาโดยส่วนตัวคือถ้าคิดไม่ออกก็ไม่ฝืนเขียน จะหยุดงานนั้นแต่ไม่หยุดคิดหาอะไรอย่างอื่นทำแต่ยังคิดไปเรื่อย ๆ ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไรดี และเกิดเวลาผ่านไปสิบวันแล้วยังแก้ไม่ตกทีนี้ต้องนั่งโต๊ะแล้วค่ะ ลองเขียนฉากที่ติดขัดนั้นออกมาหลายๆ แบบ ขึ้นต้นหรือใช้คำพูดต่าง ๆ กันแล้วลองอ่านออกเสียงดัง ๆ ดูดูว่าภาษาลื่นไหลไหม เหมาะสมไหม ดูว่าฉากแบบไหนเหมาะสมที่สุด แล้วเขียนไปก่อนจากนั้นก็ดำเนินเรื่องต่อ ถ้าผลออกมายังไม่น่าพอใจจริง ๆปล่อยทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยกลับมา ทบทวนแก้ไขในจุดที่เคยติดขัดอีกทีบางเรื่องของดิฉันเคยแก้กันเป็นบท ๆ แก้อยู่สามรอบสี่รอบก็มีค่ะ

เคล็ดที่ไม่ลับ

เคล็ดอย่างหนึ่งที่ดิฉันถือมาตลอดในการเขียนหนังสือคือเขียนเรื่องที่ตัวเองชอบอ่าน ไม่ฝืนเขียนอะไรที่ตัวเองไม่ชอบหรือไม่รู้เพราะดิฉันถือเสมอว่าตัวเองเป็นผู้อ่านคนแรก ถ้าเขียนออกมาแล้วผู้อ่านคนแรกไม่ชอบจะมีคนอ่านที่ไหนชอบงานของเราอีก

การส่งงานไปตามนิตยสารก็เป็นเรื่องสำคัญดูแนวการเขียนของตัวเองให้เข้ากับแนวนิตยสารหรือสำนักพิมพ์ที่จะส่งเรื่องไปนะคะลองอ่านนวนิยายหรือเรื่องสั้นที่ตีพิมพ์อยู่เป็นแนวถ้าเห็นว่าใช่โทนเดียวกับเรื่องของเราก็ส่งไป ถ้าไม่ใช่ก็หาเล่มอื่นจำไว้เลยนะคะถ้าคุณเขียนเรื่องรักโรแมนติก ต่อให้เรื่องคุณดีแค่ไหนแต่ถ้าคุณเลือกส่งไปนิตยสารวิเคราะห์ข่าว คุณอาจจะไม่ได้รับการพิจารณาลงตีพิมพ์ก็ได้เพราะแม้นิตยสารจะเปิดกว้างสู่ผู้อ่านทุกแนวหากแต่ละเล่มก็ยังมีแนวทางหลักของตัวเองอยู่ค่ะ

คำเตือน

สิ่งที่ดิฉันเขียนเล่ามาทั้งหมดส่วนมากนำมาจากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะอย่าถือจริงจังว่าเป็นหลักอะไรใหญ่โต เป็นข้อเสนอแนะและหวังว่าจะช่วยอะไรผู้ที่อยากเขียนได้บ้างเท่านั้น

สิ่งสำคัญอีกข้อของการจะเป็นนักเขียนคือต้องอดทนอดทนเขียนไม่หยุดไม่ท้อ อดทนที่จะได้รับการปฏิเสธ และอดทนรอคำตอบรับจากบรรณาธิการอย่าคิดว่าส่งเรื่องไปแล้วสามวันเจ็ดวันจะได้รับการตอบรับนะคะให้นึกถึงกองบรรณาธิการที่มีคนทำงานหยิบมือกับกองต้นฉบับเป็นร้อยเป็นพันที่ส่งมาจากทั่วประเทศทางกองต้องใช้เวลาอ่านเวลาพิจารณาตามคิวค่ะ ฉะนั้นอาจจะช้าหน่อยถึงช้ามากเรื่องสั้นขนาดห้าตอนจบเรื่องบ้านอัญชันของดิฉันใช้เวลาหนึ่งปีก่อนที่ขวัญเรือนจะตอบรับเรียกว่าลืมไปแล้วว่าส่งไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉะนั้นการรอการตอบรับแล้วค่อยเริ่มงานจึงเป็นเรื่องเสียเวลามากค่ะส่งงานไปแล้วให้เริ่มงานใหม่เลย

ขออวยพรและเป็นกำลังใจให้นักเขียนหน้าใหม่ทุกท่านค่ะอย่าลืมว่านักเขียนทุกคนที่ยืนอยู่บนถนนสายหนังสือวันนี้ผ่านการเป็นนักเขียนหน้าใหม่นักเขียนโนเนมมาแล้วทั้งสิ้น ทุกคนต้องเริ่มจากการนับหนึ่งเหมือนกันหมดฉะนั้นอย่าท้อแท้และอย่ามุ่งหวังสูงเกินไปตั้งแต่เริ่มต้น ค่อย ๆทำงานตั้งใจทำให้ดีที่สุด ทำอย่างต่อเนื่องแล้ววันหนึ่งคุณจะได้ยืนในจุดที่คุณมุ่งหวังเอง

อ้างอิง: http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yourdearangie&month=03-10-2012&group=3&gblog=3

คำสำคัญ (Tags): #katai
หมายเลขบันทึก: 577472เขียนเมื่อ 29 กันยายน 2014 11:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 กันยายน 2014 11:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท