ดื่มด่ำกับภาษากวีอันงดงามที่สะท้อนภาพการต่อสู้ด้วยอุดมการณ์กร้าวแกร่งของคนหนุ่มสาว การใช้ชีวิตในป่าร่วม ๖ ปี มิตรภาพอันงดงามในยามยาก และตัวตนที่ผ่านการทดสอบของตัวละครต่างๆ
จิระนันท์เขียนเล่าเรื่องราวชีวิตในช่วงเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ กระทั่งเข้าร่วมกับ พคท. และออกจากป่าเข้ามอบตัวเมื่อตุลาคม ๒๕๒๓
จิระนันท์บอกเล่าวิถีชีวิตของคนหนุ่มสาวที่ทิ้งเมืองด้วยอุดมการณ์อันบริสุทธิ์เข้าอยู่ป่าผ่านชีวิตของเธอและคู่ชีวิตคือ อาจารย์เสกสรร ประเสริฐกุล บอกเล่าเหตุแห่งความขัดแย้งระหว่างอุดมการณ์ กระทั่งหนุ่มสาวปัญญาชนจากเมืองตั้งคำถามแก่ตัวเองในระยะปีท้ายๆ ว่า พวกเขาไปทำอะไรกันที่นั่น และวาระสุดท้ายที่พวกเขาคืนสู่เมืองในลักษณะที่คุณจิระนันท์เรียกขานตัวเองว่าเป็น “สิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์”
หลายวรรค หลายวลีที่ทำให้เราในฐานะของคนร่วมกาลเวลาร่วมเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครานั้นต้องน้ำตาซึมกับภาษาที่ฉายภาพและอารมณ์ต่างๆ ออกมาอย่างชัดเจนราวกับได้ร่วมในเหตุการณ์
เราจะได้รู้จักนายผี หรือ สหายไฟ ไม่ฟ้า จากตัวหนังสือของจิระนันท์ ได้รู้จักลุงคำตัน หรือ พันโทโพยม จุลานนท์ และบุคคลต่างๆ ที่มิใช่เพียงได้ยินชื่อจากสื่อต่างๆ โดยเฉพาะความสัมพันธ์อันงดงามของเธอกับสหายไฟ ไม่ฟ้า ที่เธอเรียกขานว่าเป็น “ครูกวีคนสุดท้ายของผู้เขียน” <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal">อ่านจบแล้วได้เห็นภาพของประวัติศาสตร์ช่วงเหตุการณ์ ๑๔ ตุลา ๑๖ จนถึงเวลาแห่งการคืนเมืองของหนุ่มสาวที่อ่อนล้าได้ชัดเจน แม้จะเป็นการบอกเล่าผ่านผู้หญิงคนหนึ่ง แต่สามารถต่อเป็นภาพใหญ่ที่สมบูรณ์ได้ไม่ยาก</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal">ยิ่งเมื่อย้อนกลับไปอ่านกวีนิพนธ์แห่งชีวิต “ใบไม้ที่หายไป” ของจิระนันท์ ซึ่งได้รับรางวัลซีไรท์ ปี ๒๕๓๒ ยิ่งเห็นภาพชัดทุกตัวอักษร รับรู้ลึกซึ้งสะเทือนใจกับความเศร้า และสิ้นหวังของเจ้าของบทกวี ตั้งแต่ ตะวันตกดินที่ซับฟ้าผ่า พินัยกรรม หิ่งห้อย และ ท่อนสุดท้ายของบทกวีที่ชื่อ เศษธุลี</p> “ฉัน คือกรวดเม็ดร้าว แหลกแล้วด้วยความเศร้าหมองหม่น ปรารถนาเป็นธุลีทุรน ดีกว่าทนกลั้นใจอยู่ใต้น้ำ” <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal">ถ้าคุณเป็นนักอ่าน ไม่ว่าจะเป็นคนร่วมสมัยสิบสี่ตุลาหรือไม่ ขอเชิญชวนให้ซื้อหามาอ่าน หนังสือเพิ่งออกขายเมื่อต้นปี ๔๙ พิมพ์ครั้งที่ ๒ แล้ว มีคุณค่ามากเหลือเกินสำหรับหนังสือดีที่น่าอ่านเล่มนี้ อ่านจบแล้วคุณจะเห็นด้วยกับที่คุณคมสัน พงษ์สุธรรม เขียนถึงเธอไว้เมื่อปี ๒๕๒๔ ว่า</p> “เธอมิใช่กรวดเม็ดร้าว เธอยังสุกสกาวสดใส กาลเวลาไม่อาจพรากเธอจากไกล เธอยังอยู่ในใจ ยังจดจำ” เขียนเมื่อ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๙
แหม ดูท่าคุณจะเป็น "ขาประจำ" นะ ยังไงก็ขอบคุณนะคะ
กำลังจะเมล์ไปถามคุณครูอยู่เดี๋ยวนี้แล้ว