ภาพ: ไดอะแกรม (diagram) > การฝึกสรุปเรื่องใหม่ๆ ให้อยู่เป็นก้อน (icon) รูปวงกลม, 3-4 เหลี่ยม หรือวงรี, และใช้ลูกศรแสดงว่า อะไรเกิดก่อน-หลัง, อะไรเป็นเหตุ-ผล ทำให้เรียนรู้เรื่องใหม่ได้เร็วขึ้น จำได้ดีขึ้น
.
บิสเนซ อินไซเดอร์ ตีพิมพ์เรื่อง "5 วิธีทำให้เรียนเร็วขึ้น+ความจำดีขึ้น (มาก...)", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า การฟังเพลงช่วยให้คนเราจำอะไรๆ ได้มากขึ้น (เพลงที่ไม่มีคนร้อง ไม่มีบทเพลง ฟังเบาๆ ก็ได้)
ดร.จูดี วิลลิซ ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาชาวสหรัฐฯ กล่าวว่า วิธีเพิ่มความจำ + เรียนเรื่องใหม่ให้เร็วขึ้น ทำได้โดยการ "เชื่อมโยง" เรื่องต่างๆ เข้าด้วยกัน
โดยเฉพาะการเชื่อมโยงเรื่องใหม่ (ที่เรากำลังเรียนใหม่) กับเรื่องเก่า (ที่เรารู้แล้ว) จะทำให้เราเข้าใจอะไรๆ ได้ดีขึ้น กว้างขึ้น
.
แถมยังทำให้ความจำระยะยาวดีขึ้นด้วย
และอย่าลืม... วิธีทดสอบที่ดีว่า คุณเรียนรู้เรื่องใหม่แล้วจริงๆ คือ
(1). ลองอธิบายเรื่องใหม่ให้คนอื่นฟัง
(2). ให้คนที่ฟัง เล่ากลับมาว่า รู้เรื่องไหม หรือจำเรื่องได้ไหม
.
ถ้าคุณเรียนรู้ และเข้าใจเรื่องใหม่ได้จริงๆ...
คุณมักจะอธิบายให้คนอื่นฟังได้
และคนที่ฟังส่วนใหญ่ (80%) น่าจะเข้าใจต่อได้เช่นกัน
.
ดร.วิลลิซ แนะนำให้ฝึกเรียนรู้ และจำเรื่องใหม่ 3 ขั้นตอนได้แก่
.
(1). Symbolize = ทำให้เป็นสัญลักษณ์
เช่น เขียนไดอะแกรม (diagram) เป็นแผนผังรูปเหลี่ยน วงกลม หรือวงรี, พร้อมคำอธิบายง่ายๆ เข้าไป คล้ายกับการทำแผนที่
เช่น ทำกราฟ, ทำโฟลวชาร์ท (flow chart) หรือแผนผังแสดงว่า อะไรเกิดก่อน-เกิดหลัง, อะไรเป็นเหตุ-เป็นผล + ใส่ลูกศรแสดง (ว่าอะไรเกิดก่อน-หลัง)
เช่น เมื่อพบเพื่อนใหม่ ให้ลองวาดภาพลายเส้น เน้นเฉพาะลักษณะเด่นที่เราประทับใจ ไม่เกิน 3-5 จุดในคนๆ นั้นดู
.
ภาพ: โฟลวชาร์ท (flowchart) หรือแผนผังสรุปย่อกระบวนการ
โฟลวชาร์ท บอกเราว่า อะไรเกิดก่อน-หลัง, อะไรเป็นเหตุ-เป็นผล
พร้อมบอกเราว่า เมื่อถึงขึ้นตอนไหน, จะตัดสินใจอย่างไร ทำอย่างไร หรือจะปรึกษาหารือใคร
.
(2). Categorize = จัดกลุ่ม จัดหมวดหมู่
เช่น เรื่องนี้เป็นเรื่องอะไร, เกี่ยวข้อง หรือมีผลต่อคุณตรงไหน-อย่างไร ฯลฯ
.
(3). Synthesize = สังเคราะห์ ต่อยอด
ลองคิดดูว่า เรื่องนี้ทำให้คุณนึกถึงอะไร (ความรู้เก่า ความจำเก่า ฯลฯ) แล้วเชื่อมโยงของใหม่กับของเก่า
เช่น ถ้าพบคนชื่อแปลกๆ จำยาก, ให้ลองนึกถึงอะไรที่คล้ายกัน และรู้จักมาก่อน เพื่อให้จำได้
ผู้หญิงคนหนึ่งจากเนปาลชื่อแปลก + จำยาก คือ "ริสมา"
.
ท่านบอกว่า ชื่อนี้แปลว่า เสียงผ้าไหม
ชื่อนี้อาจทำให้เรานึกถึงศัพท์แปลกๆ คือ 'charisma / คาริสมา'
= คุณสมบัติเฉพาะบุคคล พบในคนดัง ผู้นำบางคน ที่ทำให้น่าเชื่อถือ น่าไว้วางใจ น่าประทับใจ, บารมีเฉพาะบุคคล
แทนที่เราจะจำศัพท์ "ริสมา" ที่ไม่มีความหมาย
เราอาจจะจำภาพหน้าของคนชื่อนี้ กับคำ 'คาริสมา' แทน
.
ผู้เชี่ยวชาญพบว่า ความจำของคนเราจะดีขึ้น ถ้า.... เชื่อมโยงเรื่องใหม่กับประสบการณ์เก่า + มีการทบทวนเรื่องนั้นบ่อยๆ
กลไกที่เป็นไปได้ คือ จะทำให้เซลล์ประสาทส่งสัญญาณผ่านจุดเชื่อมต่อ (synapses) ของเรื่องนั้นมากขึ้น บ่อยขึ้น
เกิดเป็นเส้นทางใหม่ที่ใช้ได้นาน
คล้ายๆ กับเป็นการสร้างถนนใหม่ อุโมงค์ใหม่ ทางน้ำสายใหม่ หรือเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเส้นทางใหม่
.
วิธีหนึ่งที่เครื่องมือสมัยใหม่ จะช่วยเสริมความจำได้ดี คือ ใช้(โทรศัพท์)มือถือ ถ่ายภาพ หรือบันทึกเสียงเรื่องใหม่ๆ ไว้
แล้วเปิดดูซ้ำ ฟังซ้ำ หรือทบทวนบ่อยๆ
ฝรั่งมีสำนวนหนึ่ง คือ 'Practice makes perfect.'
= "การฝึกซ้ำ (ดูซ้ำ คิดซ้ำ พูดซ้ำ ฟังซ้ำ ทำซ้ำ ฯลฯ... หลายๆ ครั้ง) ทำให้สมบูรณ์" หรือ "การฝึกซ้ำ ทำให้ชำนาญขึ้น"
.
เรื่องการเรียนเรื่องใหม่ + การทำให้ความจำดีขึ้น ก็คล้ายๆ กัน
คือ คงต้อง "ดูซ้ำ-คิดซ้ำ-ทำซ้ำ" หลายๆ ครั้ง
จดบันทึกใหม่ ให้เป็นแบบสไตล์เรา
ทบทวนบ่อยๆ
.
ฝึกอธิบายให้คนอื่นฟัง หรือเขียนให้คนอื่นอ่านบ่อยๆ
คิดใหม่-พูดใหม่-ทำใหม่ แบบนี้ซ้ำๆ กันหลายๆ ครั้ง
จะทำให้คุณเรียนรู้ได้เร็วขึ้น จำอะไรๆ ได้ดีขึ้น
.
และวิธีที่จะทำให้การเรียนรู้เรื่องใหม่ + ความจำดีไปนานขึ้นได้แก่
(1). นอนไม่ดึก + นอนให้พอ
คนส่วนใหญ่ต้องการนอน 7-8 ชั่วโมง/คืน
คนส่วนน้อยมีระดับ "ความพอดี" ต่างไป คือ นอนมากกว่านี้ หรือน้อยกว่านี้
.
(2). ฝึกสมาธิ
สมาธิมีแนวโน้มจะทำให้สมอง และความจำดีขึ้น
ถ้าไม่อยากฝึกสมาธิ, การออกแรง-ออกกำลังให้หนักหน่อยเป็นประจำ ก็ช่วยได้
.
(3). เคลื่อนไหวตอนท่องจำ
คนเรามักจะจำอะไรๆ ได้ดีขึ้น "ตอนอยู่ไม่นิ่ง"
พระธิเบตหลายๆ ท่าน โยกตัวไปมาเวลาสวดมนต์ หรือท่องบทสวดมนต์
คนทั่วไปก็ใช้วิธีเดินไปท่องไป หรือโยกตัวไปมา เวลาท่องจำอะไรๆ ได้เช่นกัน
ผู้เชี่ยวชาญแนะว่า ถ้าจะทำแบบท่องไปเดินไป... ต้องขอ 5 นาทีขึ้นไป จึงจะช่วยให้จำอะไรๆ ได้ดีขึ้น
.
(4). อาหารดี+พอดี
สมองใช้น้ำตาลในเลือดเป็นแหล่งพลังงานหลัก
อาหารเช้า + อาหารว่างแบบดีกับสุขภาพ (เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีทหรือเติมรำ ผลไม้ทั้งผล ถั่วที่ไม่ผ่านการทอด เมล็ดพืชที่ไม่ผ่านการทอด ฯลฯ) + ดื่มน้ำให้พอตลอดช่วงกลางวัน ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น
อาหารมื้อเที่ยง... ขอแบบเบาๆ หน่อย
.
เพราะถ้ากินมื้อเที่ยงหนัก... จะเพิ่มเสี่ยงง่วงช่วงบ่าย
และอย่าลืม... อาหารที่ดีจริงๆ คือ "อาหารพอดี"
ฝึกกินช้าๆ เคี้ยวช้า และไม่กินมากเกิน เพื่อป้องกันน้ำหนักเกิน หรืออ้วน
การเปลี่ยนข้าวขาวเป็นข้าวกล้อง จะทำให้การเคี้ยวช้าลง ลดเสี่ยงเบาหวานที่อาจทำให้ความจำเสื่อมเร็วขึ้น
.
(5). ฟังเพลง
เพลงแบบที่คุณชอบเบาๆ เน้นเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง มักจะช่วยให้ความจำดีขึ้น
เพลงที่มีเนื้อร้อง ทำให้สมองต้องคิด หรือประมวลผลคำแปลศัพท์ตลอดเวลา อาจรบกวนความจำได้ในบางคน
.
(6). บันทึกย่อ หรือชอร์ทโนท (Write a short note)
การเขียนช่วยให้ความจำดีขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็มกล่าวว่า คนเรามีจุดกระตุ้นพลังสำคัญอยู่ที่ใบหู มือ และเท้า
การเขียนช่วยกระตุ้นพลังไหลเวียน หรือพลัง "ชี่" ได้ดีทีเดียว
.
(7). ฝึกคิดว่า จะทำเรื่องนั้นให้ดีขึ้นได้อย่างไร (Think better)
เวลาเรียนรู้เรื่องใหม่... ถ้าเราไม่คิดต่อยอด, เรามักจะเรียนเรื่องนั้นได้แบบ "แคบๆ-ตื้นๆ-เดิมๆ"
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ฝึกคิดต่อยอดเสมอ
คือ ให้คิดว่า เราจะทำเรื่องนั้น "ให้ดีขึ้น (better)" ได้อย่างไร
.
เช่น มีคนไปดูระบบการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน
แล้วคิดว่า จะทำแบบนี้ซ้อนกันหลายๆ ชั้นได้ไหม
แล้วทดลอง ลงมือทำไปทั่วโลก (เช่น ในสิงคโปร์ ฯลฯ)
พบว่า การปลูกพืชแบบคอนโดมิเนียม ซ้อนกันหลายชั้นทำได้ดีกว่าด้วย ประหยัดกว่าด้วย
.
การฝึกคิดว่า จะทำให้ดีกว่าเดิมได้อย่างไรบ่อยๆ
จะทำให้คนเรามองอะไรๆ ได้แบบ "กว้างขึ้น-ลึกขึ้น-ใหม่ขึ้น"
เรียนรู้ได้มากขึ้น
จำได้มากขึ้น เช่นกัน
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.
From BusinessInsider > http://www.businessinsider.com/memory-tricks-will-help-you-learn-fast-2014-8
From RealBusiness > http://www.realbusiness.com/2014/08/big-ideas/4028/#ixzz3BqXfwg5y
From RealBusiness > http://www.realbusiness.com/2014/08/big-ideas/4028/#ixzz3BqXazg2H
.
Thanks for this excellent advice.
I have experienced learning in multi-tasking mode and can vow for learning in motion
[ (3). เคลื่อนไหวตอนท่องจำ คนเรามักจะจำอะไรๆ ได้ดีขึ้น "ตอนอยู่ไม่นิ่ง" ].
I don't sit down and think anymore. I walk and think or work out a solution ;-)