จรรยาบรรณของนักประวัติศาสตร์ ต่อมุมที่ใช้มอง ชุดความเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น “จริง”
-โมไนย พจน์-
(30 ม.ค.57 บรรยาย "จรรยาบรรรณนักประวัติศาสตร
-------------------
มีโอกาสต้องไปบรรยายพิเศษในฐานะคนเคยเรียนประวัติศาสตร์
โจทย์ของการบรรยายคือ “จรรยาบรรณของนักประวัติศาสตร์”
ก็คิดอยู่ตั้งนานว่าจะหาอะไรไปพูดที่มันดูไม่หนัก และเบาสบาย สอดคล้องกับช่วงเวลาของสถานการณ์บ้านเมือง ที่มุมหนึ่ง ฟากฝั่งหนึ่งประสงค์จะให้มีการเลือกตั้ง จึงลากกันไปสูการเลือกตั้ง อีกฟากหนึ่งก็ปิดถนน ที่เรียกว่า ชัทดาวกรุงเทพ พยายามคัดค้าน ไปจนกระทั่งขัดขวางการเลือกตั้งจนนำไปสู่ความรุนแรงมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และมีการเสนอข่าวในมุมของกันและกัน แต่เท่าที่ดูเป็นการกล่าวหาในฝั่งของกันและกัน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าบทสรุปอันไหนเท็จ อันไหนจริงระหว่าง “ข้อเท็จจริง” กับความเป็นจริง ดังนั้นเมื่อมีโอกาสจะต้องไปพูดเรื่องแนวนี้แต่ในมุมของประวัติศาสตร์ จึงทำให้ต้องคิดและสนใจว่าเราจะพูดอย่างไร จึงพยายามหาข้อมูลบ้าง หามุมสำหรับไว้มองได้ บังเอิญให้ได้พบข้อความทางสื่อออนไลน์ ที่น่าจะสอดคล้องกับสถานการณ์
เป็นนิทานที่อ่านเล่น ๆ แนวสร้างสรรค์
จึงนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการให้คำอธิบายต่อชุดความจริง
ประกอบการบรรยายโดยมีเรื่องว่า
“ชายคนหนึ่งกระหืดกระหอบไปหาหลวงพ่อท่านหนึ่ง แล้วพูดว่า
"ผมมีข่าวจะมาบอกท่าน"
หลวงพ่อชิงพูดขึ้นก่อนว่า"เรื่องที่เธอจะเล่าผ่านตะแกรงมาสามครั้งแล้วหรือยัง?
ชายคนนั้นไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร?
จึงถามขึ้นว่า"ตะแกรงสามอัน ตะแกรงสามอันไหนครับ"
หลวงพ่ออธิบายว่า "ตะแกรงอันแรกคือ ความจริง ข่าวที่ท่านจะเล่าเป็นความจริงหรือเปล่า?"
ชายคนนั้นตอบว่า "ไม่รู้เหมือนกัน ผมฟังมาจากที่เขาเล่า"
หลวงพ่อพูดต่อว่า "ตอนนี้เธอลองใช้ตะแกรงอันที่สองไปตรวจสอบดู ข่าวที่เธอจะบอกฉัน แม้จะไม่ใช่ความจริง แต่ก็ควรจะเป็นข่าวที่มีเจตนาดี"
ชายคนนั้นลังเลสักครู่แล้วพูดว่า "ไม่มีเจตนาดีครับ แต่เป็นเจตนาตรงข้ามกันเลย"
หลวงพ่อพูดต่อว่า "ถ้าอย่างนั้นเราใช้ตะแกรงอันที่สาม ข่าวที่ทำให้เธอเร่งรีบอย่างนี้เป็นข่าวสำคัญหรือเปล่า?"
ชายคนนั้นรู้สึกเขินนิดๆ แล้วตอบว่า "ไม่ได้สำคัญอะไร?"
หลวงพ่อจึงพูดต่อว่า "เรื่องที่เธอจะเล่าให้ฉันฟัง ไม่ใช่เรื่องจริง แล้วก็ไม่ได้มีเจตนาดี แล้วก็ไม่สำคัญ งั้นก็อย่าเล่าเลย ข่าวนั้นจะได้ไม่รบกวนจิตใจทั้งของเธอและของฉัน"
เมื่อนำไปใช้กับสถานการณ์บ้านเมือง การแบ่งเป็นฝักฝ่าย ข้อมูล ข้อเท็จจริง เป็นเรื่องดี แต่ถ้าจะให้ดี ต้องมีกระบวนการคัดกรองอย่างถูกต้องและเหมาะสม
เมื่อพูดในแนวคิดทางศาสนา ข้อเท็จจริงก็เป็นสิ่งสำคัญ แต่บทจบที่สำคัญก็คือ "ดี มีประโยชน์ ถูกต้องดีงาม คนส่วนใหญ่ชอบใจ" จึงน่าจะเป็นเรื่องของการนำเสนอ
-----------
โครงการพัฒนาคุณธรรมนิสิต/คุณธรรมของนักประวัติศาสตร์
30 ม.ค. พฤหัส 13.00 นักศึกษา 48 คน
คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ไม่มีความเห็น