ความกดดันและแรงผลัก : ทางออกเพื่อสันติ


ความกดดันและแรงผลักเสมือนขั้วบวกและลบในเส้นเชือกเกลียวเดียวกัน มันพร้อมที่จะระเบิดออกมาให้เหลือเพียงความว่างเปล่าได้ทุกเมื่อ หากเราไม่เข้าไปจัดการให้ดี

ผมเคยสัมภาษณ์นักศึกษาที่มีประสบการณ์การทำงานมาแล้วระยะหนึ่ง สิ่งที่ผมได้เรียนรู้คือ การทำงานในหน่วยงานแต่ละหน่วยงานจะมีแรงกดดันทำให้ผู้ปฏิบัติรู้สึกเครียด ยิ่งต้องรองรับจากหัวหน้างาน ๒ คนขึ้นไปแล้วยิ่งทำใจลำบาก และจะลำบากยิ่งขึ้นหากเราคือตัวกลางระหว่างหัวหน้างานที่ไม่ถูกโรคกัน ในบางกรณีแม้เราจะมีหัวหน้างานเพียงหนึ่งเดียว แต่ความคิดที่เป็นตัวตนของเราไม่สอดคล้องกับความคิดที่เป็นตัวตนของหัวหน้างาน นั่นย่อมหมายความว่า ถ้าวันหนึ่งความอดทนถึงที่สุดมันก็มีอันต้องแตกร้าว

เราอาจเคยได้ยินว่า แพ้เป็นพระชนะเป็นมาร ผมก็ไม่รู้ว่าภาษิตนี้เป็นภาษิตสอนกำราบใจผู้แพ้ให้พ่ายแพ้โดยดุษฎีหรือเปล่า อย่างไรก็ตามภาษิตนี้มีนัยน่าสนใจ นั่นหมายความว่า เมื่อเขาแรงมาเราก็เบาไป ถ้าเราแรงไป เราก็ต้องหยุดความรุนแรงนั้นลง อันนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับการปรับตัว กรณีที่งานซึ่งเราทำอยู่นั้นไม่ใช่ธุรกิจส่วนตัวของเราหากแต่เรามาสนองงานเขา ดังนั้นจึงต้องสนองงานต่อไป เมื่อไรที่เราคือเจ้าของธุรกิจ เราค่อยแสดงความเชี่ยวชาญในงานนั้น

สันติอย่างยั่งยืนอยู่ที่ใจใช่ที่กำลังกาย

คำสำคัญ (Tags): #ปรัชญาความคิด
หมายเลขบันทึก: 57087เขียนเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2006 11:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 ตุลาคม 2015 10:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท