คนหาปลาที่อ่างเก็บน้ำทับเสลา (เขื่อนระบำ) การบ้านเฮฮาศาสตร์ 10 (ตอนที่ 5)


คนหาปลาที่อ่างเก็บน้ำทับเสลา (เขื่อนระบำ)

       ผมและคณะเดินทางไปถึงอ่างเก็บน้ำทับเสลา(เขื่อนระบำ) ประมาณบ่ายสามโมงของวันที่  6 ธันวาคม 2556  หลังจากสนทนากับญาติแซ่เฮที่นานๆ จะได้เจอกันสักครั้ง แล้วก็ขนของเข้าที่พัก  เมื่อยังพอมีเวลาเหลือชาวคณะโดยเฉพาะเด็กๆ อยากไปดูสันเขื่อนซึ่งมองเห็นอยู่ไม่ไกลจากฝั่งของที่พัก เราจึงขับรถขนคนขึ้นกระบะเคลื่อนขบวนกันไปทางสันเขื่อน โดยย้อนออกมาตามเส้นทางที่เราเข้าไปตอนขาเข้านั่นเอง

 


แนวสันเขื่อนและกลุ่มคนหาปลาเมื่อมองมาจากบริเวณบ้านพัก

 

 

       พอไปถึงสันเขื่อนพบว่าทางกรมชลประทานเขาไม่อนุญาตให้เอารถขึ้นไปบนสันเขื่อนได้ เราจึงเปลี่ยนเป้าหมาย โดยจะลงไปดูที่บริเวณที่มีชาวบ้านมาจอดเรือและจับปลากันแทน โดยรถยนต์สามารถเข้าถึงและลงไปจนถึงท้องอ่างน้ำได้

       พอขับรถเข้าไปใกล้ๆ สิ่งที่เห็นแต่ไกลก็คือเสาคอนกรีตหลายต้น ดูเหมือนคล้ายๆ เสาไฟฟ้าปักเรียงกันเหมือนว่าจะติดป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ประมาณนั้น มี่ 2 แถวๆ ละ 3 ต้น  เกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า เอ..หรือว่าเขาติดป้ายประชาสัมพันธ์อะไรกันนะ  

 

 

          เมื่อจดรถเรียบร้อยคณะเราก็เดินเข้าไปใกล้ๆ เห็นเรือจอดอยู่หลายลำ มีคนจับปลาอยู่ไม่กี่คน เห็นกะละมังที่หุ้มด้วยตาข่ายผมรีบเดินเข้าไปดูเพื่อที่จะขอดูว่าคนหาปลาวันนี้จับได้ปลาอะไรกันบ้าง มากน้อยแค่ไหน แต่พอเข้าไปใกล้ๆ ในกะละมังมีหอยเชอรรี่อยู่เต็ม สอบถามคนหาปลาได้ความว่าวันนี้ปลาไม่ขึ้น จับปลากันไม่ค่อยได้เลยจับหอยแทน

 

 

หอยเชอรี่หรือที่ชาวบ้านก็เรียกว่าหอยโข่ง

          หลังจากได้สอบถามและพูดคุยกับชาวบ้านที่มาหาปลาจึงพอจะรู้ข้อมูลว่า คนที่มาหาปลาในเขื่อนนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวๆ นี้  ซึ่งส่วนมากเป็นคนอีสาน ส่วนแท่งเสาคอนกรีตที่เห็นก็คือค้างบั้งไฟนั่นเอง จึงถึงบางอ้อว่าทำไมเขาจึงปักเสาเป็นแถวๆ อย่างที่เห็นมาแต่ไกล

          เมื่อถามถึงเครื่องมือในการหาปลาจึงทราบว่า พาหนะหลักก็คือเรือลำเล็กติดเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งเห็นจอดอยู่หลายลำ ส่วนวิธีการหาปลานั้นมีหลายๆ วิธี แต่วิธีที่แปลกกว่าที่อื่นและตอนที่นั่งอยู่ข้างที่พักมองเห็นมาจากระยะไกล เห็นการกระแทกตุ้มลงน้ำเป็นระยะๆ เสียงดังและน้ำข้างเรือแตกกระจาย วนกลับไปมา แล้วสักพักก็ย้ายไปกระแทกตุ้มที่อื่นแทน บางรายก็กระแทกไม้ลงน้ำแบบเดียวกันแต่ไม่มีเสียง ทำให้อยากรู้เหมือนกันว่าเขาทำอะไรกัน

 

          พอเข้าไปใกล้ๆ และเห็นอุปกรณ์แล้วจึงร้องอ๋อ เพราะในเรือแต่ละลำจะมีอุปกรณ์ลักษณะแปลกๆ ซึ่งยังไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน อุปกรณ์แรกคือตุ้มที่ทำด้วยไม้ ต่อด้ามยาวประมาณ 2 – 3 เมตร ได้รับการอธิบายว่าใช้กระแทกน้ำเพื่อไล่ปลา โดยใช้การจับปลาด้วยวิธีดักตาข่าย ก็จะหาทำเลที่เหมาะๆ แล้ววางตาข่ายให้เสร็จก่อนสังเกตแนวตาข่ายได้จากทุ่นลอยที่ใช้ขวดน้ำหรือแกลลอนสีขาวๆ  แล้วก็จะขับเรือวนรอบตาข่ายทิ้งระยะห่างแนวตาข่ายพอประมาณ แล้วก็กระแทกน้ำด้วยทุ่นไม้ให้เกิดเสียงดังและน้ำกระเทือนเพื่อไล่ปลาให้เข้าไปติดตาข่ายนั่นเอง

 

ตุ้มไม้

        อีกเครื่องมือตัวช่วยหนึ่ง ในการไล่ปลาให้ไปติดตาข่ายก็คือวงเหล็กกลมรี รัศมีประมาณ 20 ซ.ม. ร้อยด้วยตลับลูกปืนเก่า หลายอัน(ตามภาพ) ยึดติดกับลำไม้ไผ่ยาวๆ เพื่อใช้กระแทกลงน้ำเพื่อไล่ปลาให้เข้าไปติดตาข่ายเช่นกัน

 

 

วงเหล็กร้อยตลับลูกปืนเก่า

          ส่วนปลาที่หาได้ ซึ่งวันนี้จับไม่ค่อยได้เพราะ "ปลาไม่ขึ้น"ตามที่บันทึกไปแล้วข้างต้น พบว่าปลาที่จับได้ในวันนี้ที่เห็นส่วนมากจะเป็นปลานิลครับ และหลังจากที่พักที่นี่หลายวัน บางวันมีเมนูที่อร่อยมากของที่นี่ก็คือปลาแดดเดียวทอด ปลาแดเดียวที่ว่านั้นก็คือปลานิลที่จับได้จากอ่างเก็บน้ำทับเสลา(เขื่อนระบำ) นี้เอง และการชำแหละปลาเพื่อทำปลาแดดเดียวนั้นก็คงจะทำกันบริเวณริมน้ำ ใกล้กับที่เรือหาปลานำปลาขึ้นมาจากในอ่างนี้เอง  แม้จะไม่เห็นการตากปลาเพราะเป็นเวลาเย็นมากแล้ว แต่สังเกตได้จากเขียง  มีด เกลือป่น และผงชูรสที่วางรวมๆ กันอยู่ใกล้ๆ นี้เอง

 

 

น่าจะเป็นอุกปกรณ์ทำปลาแดดเดียว

 

บันทึกมาเพื่อการ ลปรร. ครับ

สิงห์ป่าสัก

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 557406เขียนเมื่อ 26 ธันวาคม 2013 11:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม 2013 11:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขอบคุณครับ ผมเพิ่เก็นกระบวนวิธีจับปลาที่ใช้ตุ้ม ทุ่มน้ำให้มีเสียงดัง เพื่อไล่ปลา มันคงได้ผลนะ เราไม่ได้ดูตลอดกระบวนการ และไม่มีเวลาเปรียบเทียบกับการจัดปลาแบบไม่ใช้ตุ้มทุ่มน้ำแบบนี้ น่าสนจริงๆ

  • สวัสดีครับ
  • น่าสนใจครับแปลกดี เลยตามไปดู
  • ภาพที่ใช้ 2 ภาพตอนทุ่มตุ้มนั้น จำไม่ได้ว่าเอาจากกล้องใคร
  • ยืมใช้ก่อน เพราะกล้องผมถ่ายซูมมาไม่ชัด
  • ขอบคุณครับ อิอิ

น่าสนใจจริงๆ ค่ะ พลาดไปแล้วทริปนี้ค่ะ

ขอให้น้องสิงห์และครอบครัวมีสุขภาพที่แข็งแรง มีความสุขมากๆ กับปีใหม่ที่กำลังมาเยือนนะคะ

โอ้ย โย่..ปลาแดดเดียว..ก็ใส่..ผงชูรส..แล้วหรือ..ก้าวไกล..จริงๆ..แต่ก่อนได้ยิน..ว่า..ผสม..ดีดีที..กันแมลงวัน..ตอม..เติม..ผงชูรส..ด้วย..มิน่า..อร่อยเหลือหลาย..กิโลละร้อยสองร้อย..๕๕๕๕....ขอบคุณค่ะที่นำภาพมาให้เห็นกัน....จ้า

  • สวัสดีครับพี่อร Bright Lily
  • เอาไว้ครั้งหน้านะครับ
  • ขอบพระคุณมากครับสำหรับคำอวยพรปีใหม่
  • ขอพรนั้นจงเกิดแกพี่อรและครอบครัวเช่นกันครับ
  • สวัสดีครับ ยายธี
  • น่าจะเป็นผงชูรส นี่เองนะครับที่ทำให้อร่อย
  • อิอิ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท