ลูกวัยรุ่น..กวนอารมณ์


ถ้าเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกไม่ได้ ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมและมุมมองของพ่อที่มีต่อลูก ต้องยอมรับว่าลูกเรานั้นเป็นคนกวนอารมณ์(หรือกวนตีนอย่างที่แม่ว่า).. คิดให้ได้ว่า.. "มันก็เป็นของมันอย่างนั้นละ"
ขอแบ่งปันมาจาก facebook ของพี่ตุ๊บปองอีกเช่นเคย เรื่องเล่าร้อยเรียงจากพี่ตุ๊บปอง (เรืองศักดิ์ ปิ่นประทีป) เจ้าของผลงานนิทานเด็กคุณภาพมากมาย เช่น กุ๊กไก่ปวดท้อง ที่โด่งดังเด็ก ๆ มักรู้จักนิทานเรื่องนี้ดี และยังพ่วงท้ายอีกหลายตำแหน่งเป็นทั้งนักพัฒนา ทำงานจิตอาสา ฯลฯ ปัจจุบันทำงานอยู่มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก  ไปอ่านกันเลยจ้า

แม่ที่น่ารักท่านหนึ่งถามว่า มีลูกวัยรุ่นที่กวนอารมณ์มาก ๆ (แม่ท่านนี้ใช้คำว่า "กวนตีน" ) จะทำอย่างไรดี เมื่อวานนี้บ้านแทบแตกเพราะพ่อเกือบเตะลูก

แม่เคยพูดคุยกับลูกว่า..
เป็นพ่อคนแม่คนนี่นะ..ต้องวางให้เป็น เย็นให้ได้
ต้องรู้จักให้อภัยลูก ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูก ต้องทำดีให้ลูกเห็น เป็นคนดีให้ลูกดู จะได้สั่งสอนลูกได้อย่างน่าเชื่อถือ

เรื่องนี้คงต้องกระซิบพ่อ..
ถ้าเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกไม่ได้ ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมและมุมมองของพ่อที่มีต่อลูก ต้องยอมรับว่าลูกเรานั้นเป็นคนกวนอารมณ์(หรือกวนตีนอย่างที่แม่ว่า)..
คิดให้ได้ว่า..
"มันก็เป็นของมันอย่างนั้นละ"

เมื่อยอมรับแล้ว จะได้มองข้ามบางเรื่องไป ไม่เก็บมาเป็นอารมณ์..จะได้ไม่ขุ่นมัว เมื่อลูกแสดงพฤติกรรมอะไรมากระทบ จะได้ไม่กระเทือน แล้วกระแทกกลับ..อย่างที่เป็นอยู่

พ่อแม่ต้องหัดสังเกตพฤติกรรม หัดเดาใจลูก และต้องรู้อย่างถ่องแท้ว่าลูกแต่ละคนนั้นต้องการความรักและความเข้าใจแค่ไหน ต้องการมาก หรือ น้อยแค่ไหน และจะให้ความสนใจลูกแต่ละคนด้วยวิธีใด มากแค่ไหนจึงจะต้องจริต..และทำให้ลูกเข้าใจถึงสิ่งที่พ่อแม่ให้

บ้านเรา..
แม่ปฏิบัติตน พร้อมชี้ชวนให้คนอื่นรอบ ๆ ตัวที่ต้องมาสัมพันธ์กับลูกไม่ทางใดก็ทางหนึ่งให้ทำความเข้าใจทั้งเรื่องความสามารถและความต้องการตามวัยของลูก คน ๆ นั้นจะได้ไม่คาดหวังว่าลูกต้องเป็นอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้ จนลูกเสียความเป็นตัวตนไป..เหมือนที่แม่ทำเสมอมา

ในขณะเดียวกัน..
แม่ก็สอนให้ลูกรู้จักอ่อนน่อมถ่อมตนกับผู้ใหญ่ทุกคน ถ้าผู้ใหญ่สอนก็ให้ฟัง แล้วนำมาคัดกรอง ถ้าลูกเห็นว่าดีและต้องจริต ก็ให้นำไปปฏิบัติ..ถ้ารับไม่ได้ แม่ก็สอนให้ลูกยอมรับ แล้วทำความเข้าใจว่า "เขาคงไม่เข้าใจลูก"..ก็ไม่เป็นไร

แต่นั่นหมายถึง..
แม่มั่นใจนะว่าลูกแม่คิดดี ทำดีตามครรลองของสังคมอุดมความด

แม่ไม่เคยยอมให้ลูกก้าวร้าวกับพ่อแม่เด็ดขาด..นี่คือกติกาของบ้านเรา
แม่สอนเสมอว่า..
เป็นลูกต้องเชื่อฟังพ่อแม่ ถ้าขัดแย้งทางความคิดไม่เป็นไร..คุยกันได้ แต่ต้องไม่มีความรุนแรงเด็ดขาด

ลูกจะทำอะไรก็ได้ จะแสดงความคิดเห็นหรือจะแสดงอารมณ์อย่างไรก็ได้ ภายใต้กติกา คือ..
1.ต้องไม่ทำร้ายตนเอง
2.ต้องไม่ทำร้ายคนอื่น
3.ต้องไม่ทำลายข้าวของเครื่องใช

แม่อ่านหนังสือเล่มใน คือ ใจของลูกออกอย่างเข้าอกเข้าใจ..อ่านได้ทะลุปรุโปร่ง
แม่จึง เข้าใจว่า..
ลูกมีสิ่งไหน และ ไม่มีสิ่งใด ลูกพร่องสิ่งใด และ ต้องการเพิ่มสิ่งไหน ลูกเป็น และไม่เป็นอะไร

นอกจากแม่จะรู้และเข้าใจแล้ว..
แม่ยังยอมรับได้ ถึงสิ่งที่ลูกมีและไม่มี เป็นและไม่เป็น ทำได้และทำไม่ได้
และที่สำคัญ คือ..
แม่รู้ดีว่า เพราะเหตุใดลูกจึงมีและไม่มีสิ่งนั้น รู้ว่าเพราะเหตุใดลูกจึงพร่องสิ่งนั้นและต้องเพิ่มอะไรจึงจะทำให้ลูก"พร้อม"ให้จงได้ และแม่ก็รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดลูกจึงเป็นและไม่เป็นเช่นนั้น..แล้วจึงส่งเสริมให้ลูกเป็นในสิ่งที่ควรเป็น ..อย่างสมบูรณ์

แม่เข้าใจถึงธรรมชาติของการเจริญเติบโตของลูก ทั้งทางสรีระ ภาวะนิสัยใจคอ จุดเด่น จุดละเอียดอ่อน ข้อจำกัด รวมถึงความต้องการตามวัยของลูกทุกคน

แม่เข้าใจว่า..
เมื่อลูกยังเล็กนั้นมีความหลากหลาย เนื่องจากเป็นระยะที่มีการพัฒนาทางจิตใจจากความเป็นเด็กเล็ก ไปสู่ความเป็นเด็กที่โตขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้ลูกเกิดความรู้สึกวิตกกังวล ไม่กล้าเล่น ไม่กล้าแสดงออก ..แมจึงอยู่ใกล้ชิดและใส่ใจในรายละเอียดทุกความต้องการของลูก เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกเพื่อเป็นทุนทางชีวิตที่ดีในอนาค

แม่เข้าใจว่า..
ลูกแต่ละคนนั้นมีความสนใจในเรื่องอะไรบ้างที่เหมือนและไม่เหมือนกัน 
แม่รู้ว่าลูกคนไหนชอบอะไร ลูกคนไหนไม่ชอบอะไร และลูกคนไหนสนใจเรื่องอะไร แม่จึงใช้สิ่งเหล่านี้เป็นช่องทางที่ดีในการ "เข้าหาลูก" คุยกับลูกอย่างน่าสนใจ เพราะแม่จะใช้เรื่องที่ลูกชอบ มาต่อยอดเรื่องของการสอนให้ทำดี ที่สำคัญ คือ ทำให้ความสัมพันธ์ของแม่และลูกใกล้ชิดกัน 

แม่เข้าใจว่า..
ลูกมีก้าวย่างการเรียนรู้ และเข้าใจในสิ่งต่าง ๆ ไม่เท่ากัน ทั้งการเรียนรู้ทักษะชีวิต สติปัญญา สังคม คุณธรรม และสมอง การพูด อ่าน เขียน การเข้าใจสิ่งต่าง ๆ หรือการแสดงออก

ด้วยเพราะความเข้าใจที่ถ่องแท้..
แม่จึงมีความอดทนต่อทุกพฤติกรรมของลูก และยอมรับในทุกพฤติกรรมของลูกได้ แม่จึงไม่เคยคาดหวังว่าลูกต้องเป็น "ดั่งใจ" และใจเย็นพอที่จะรอให้ลูกปรับพฤติกรรมที่ไม่ดีให้จงได้ และลูกจะเป็นอย่างไรแม่ก็รัก แม่ไม่เคยสร้างเงื่อนไขว่าต้องเป็นคนดี ต้องเรียนเก่ง..แม่จึงจะรัก

ที่สำคัญ คือ ..
แม่ไม่เคยเปรียบเทียบลูกกับพี่ ๆ น้อง ๆ และคนอื่น ๆ แต่จะเปรียบเทียบกับตัวของลูกเอง ลูกจึงดีได้ด้วยแม่แผ้วทางให้เป็นตัวของตัวเอง
รักแม่เป็นที่สุด
 
หมายเลขบันทึก: 552702เขียนเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2013 19:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2013 19:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

หากใครสนใจติดตามอ่านทุก ๆ เรื่องราวของพี่ตุ๊บปอง  ติดตามได้ที่ www.facebook.com/toobpongtoobpong  อ่านสดทุกเรื่องราวติดตามได้รายวัน พี่ตุ๊บปองขยันแบ่งปันเรื่องราวดีๆ เสมอ ๆ แม่ดาวก็ติดตามอ่านเรื่อย ๆ เช่นกันค่าเมื่อเวลาอำนวย  

จะติดตามอ่านอีกครับ

ขอบคุณที่แบ่งปัน

...มีตัวอย่างดีๆมากมายนะคะ...แลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ

เรื่องแบบนี้ก็เกิดกับผู้เขียนครับ เด็กสมัยนี้..บางคน..ชอบกวน..อวัยวะบางอย่าง..ถูกต้องครับคำตอบคือ...ต้องให้เขียนจริงๆเหรอ ?ผมเตือนเสมอว่าเวลาขี่มอเตอร์ไซค์ให้สวมหมวกกันน๊อค..และยกตัวอย่างว่าเพื่อนป๋าเองยังนอนไม่รู้สึกตัวเพราะไม่ยอมสวมหมวกกันน๊อค พี่แกกวนกลับมาว่า..หนูไปแค่นี้เอง  และหนูขอให้เพื่อนป๋าหายไวไว..ตอนนี้เริ่มเป็นผู้ใหญ่และมีครอบครัวแล้ว คงกลัวขึ้นมาสิครับ ผมเเอบสังเกตุ..สวมหมวกกันน๊อคเสมอ..เอหรือว่ากลัวเมียตีหัว..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท