“ธรรมะนิ่ง ๆ น้ำกลิ้งบนใบบอน”
ทุกท่านเคยอ่านเคยรู้จัก สำนวนที่ว่า “ น้ำกลิ้งบนใบบอน” กันทุกคนแล้วนะคะ
และรู้ว่าความหมายของสำนวนนี้มักจะเป็นทางลบ หมายถึง คนที่มีจิตใจกลับกลอก หรือเอาแน่นอนอะไรไม่ได้
วันนี้ตัวครู ญ.หญิง เพิ่งกลับจากการไปเที่ยวอุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ สกลนคร เห็นภาพบัวสวยงามมากมาย จึงทำให้นึกถึงนิทานธรรมะของคุณแม่ที่เคยเล่าให้ฟังหลายปีผ่านมาแล้ว...ดังนี้
มีอยู่วันหนึ่งแม่ทานข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มานั่งคุยกับลูก ๆ หน้าจอโทรทัศน์
แม่ถามว่า “ใครรู้บ้างว่าทำไมน้ำจึงไม่ติดบนใบบอน”
ตัวข้าพเจ้าก็ตอบแบบกำปั้นทุบดิน ตลก ๆ ว่า “ เพราะใบบอนมันคัน อะไรก็ไม่อยากอยู่ใกล้ ฮาฮา ฮา ฮา ๆๆๆ”
แม่จึงตอบว่า "ตามหลักธรรมะ คนที่มีจิตใจสว่าง สะอาด สงบ จะไม่ยึดติดกับอะไร เหมือนใบบอนที่จะไม่ยึดติดอะไร อะไรมากระทบก็ปล่อยมันไปเช่นนั้นเอง"
หลังจากแม่พูดจบก็บอกว่า ที่แม่พูดให้ลูกฟังนั้นไม่รู้จะถูกหรือไม่เพราะแม่พูดตามหลักธรรมะ แม่ไม่ใช่คุณครู
ลูกๆ จึงบอกว่าที่แม่สรุปมานั้นเป็นแนวคิดที่ดี เพราะนั่นย่อมบอกให้ลูกเป็นคนดี คิดดี ทำดี ไม่ยึดติดกับสิ่งใดก็เพียงพอแล้ว
ญ.หญิง
น้ำกลิ้งบนใบบอนได้ก็เพราะใบบอนมันมีความเหมาะสม...เหมือนจิตวิญญาณอยู่ในร่างกายได้ก็เพราะมันมีร่างกายที่เหมาะสม
พี่ครู ญ.หญิง...มุมมองครูวิทย์เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ค่ะ Lotus Effect เพราะใบบัว หรือใบบอน ...ข้อมูลอธิบายจากหนังสือคม ชัด ลึก.....ผิวด้านบนของใบบัวเคลือบด้วยสาร ซึ่งมีลักษณะคล้ายแวกซ์ มีคุณสมบัติเกลียดน้ำ (Hydrophobic) ทำให้น้ำไม่กระจายตัวออก คุณสมบัติทั้ง 2 ประการ ทำให้ใบบัวมีคุณสมบัติเป็น Super hydrophobic surface คือหากมีฝุ่นผง สิ่งสกปรกติดอยู่บนใบบัว เมื่อหยดน้ำตกลงมาหยดน้ำจะกลิ้งพาสิ่งเหล่านั้นไปกับหยดน้ำ เนื่องจากแรงยึดเหนี่ยวระหว่างหยดน้ำกับสิ่งสกปรกมีค่าสูงกว่าแรงยุดเหนี่ยวระหว่างสิ่งสกปรกกับใบบัว จึงทำให้ใบบัวสะอาดอยู่เสมอ ในทางวิทยาศาสตร์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า Lotus Effect หรือน้ำกลิ้งบนใบบัว
นอกจากได้ความรู้เรื่องธรรมะแล้ว...ยังได้ความรู้เรื่องโลตัส เอฟเฟคท์ด้วย...ขอบคุณมาก ๆ ครับผม