สรุปแนวคำตอบอัตนัยรุ่น 40 คำฟ้องคดีแพ่ง


ข้อ 1. เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 จำเลยได้ทำสัญญายืมเงินจำนวน 1,000,000 บาท ไปจากนายสอง กุมภา ตกลงชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 12 ต่อปี เป็นรายเดือนในวันสิ้นเดือนของทุกเดือน มีกำหนดชำระเงินต้นคืนในวันที่ 31 กรกฎาคม 2555 โดยจำเลยนำที่ดินของจำเลยโฉนดเลขที่ 11เลขที่ดิน 22 เนื้อที่ 50 ตารางวา ตำบลลาดยาว อำเภอลาดยาว กรุงเทพมหานคร จดทะเบียนจำนองเป็นประกันหนี้ เงินกู้ดังกล่าว และมีข้อตกลงในสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนองว่าหากบังคับจำนองได้เงินไม่พอชำระหนี้ จำเลยจะชำระหนี้ส่วนที่ขาดให้จนครบ รายละเอียดปรากฏตามสำเนาสัญญาเงินกู้ สำเนาโฉนดที่ดิน สำเนาสัญญาจำนอง และสำเนาสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนอง เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1- 4

* วันที่ 25 มิถุนายน 2555 โจทก์ได้ขายรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าคัมรี รุ่นปี 2553 หมายเลขทะเบียน งง. 5454 กรุงเทพมหานคร ของโจทก์ให้นายสอง กุมภา ไปในราคา 1,200,000 บาทนายสอง กุมภา ชำระเงินให้โจทก์จำนวน 200,000 บาท ส่วนเงินค่ารถยนต์ที่เหลืออีก 1,000,000 บาท นั้น โจทก์และนายสอง กุมภา ตกลงกันให้นายสอง กุมภา โอนสิทธิเรียกร้องในฐานะเจ้าหนี้ตามสัญญาเงินกู้ดังกล่าวในข้อ 1 ที่มีต่อจำเลย นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 ให้แก่โจทก์แทนการชำระราคารถยนต์ที่เหลือ รายละเอียดปรากฏตามสำเนาสัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 5

* โจทก์และนายสอง กุมภา ได้มีหนังสือลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2555 แจ้งการโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวข้างต้นส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับให้จำเลยทราบ และจำเลยได้รับไว้แล้วเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2555 รายละเอียดปรากฎตามสำเนาหนังสือแจ้งการโอนสิทธิเรียกร้องและใบตอบรับของบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 6 และ 7

* โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องตามสัญญาเงินกู้เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 1 ในฐานะเจ้าหนี้เงินกู้ของจำเลยรวมทั้งประกันแห่งหนี้ดังกล่าวแทนนายสอง กุมภา ตามกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 เป็นต้นมา

* ข้อ 2. เมื่อถึงกำหนดชำระเงินต้นคืนตามสัญญาเงินกู้ดังกล่าว ปรากฏว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระดอกเบี้ยของเดือนกรกฎาคม 2555 และเงินต้นคืนให้แก่โจทก์

* โจทก์ได้ติดตามทวงถามให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญาเงินกู้หลายครั้งแต่จำเลยขอผัดผ่อนเรื่อยมาครั้งสุดท้ายโจทก์ได้มอบอำนาจให้ทนายความมีหนังสือทวงถาม ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับถึงจำเลยให้ชำระหนี้ตามสัญญาเงินกู้ จำเลยได้รับแล้วเพิกเฉย รายละเอียดปรากฎตามสำเนาหนังสือทวงถามและใบตอบรับของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 8 และ 9

* ข้อ 3. การกระทำของจำเลยเป็นการผิดสัญญา ทำให้โจทก์เสียหาย จำเลยมีหน้าที่ตามกฎหมายต้องชำระเงินจำนวน 1,000,000 บาท ให้แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 12 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 เป็นต้นไป จนกว่าจำเลยจะชำระให้แก่โจทก์ครบถ้วนซึ่งดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้องเป็นเวลา 2 เดือน เป็นเงิน 20,000 บาท รวมเงินต้นและดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน 1,020,000 บาท หากจำเลยไม่ชำระ ขอให้ยึดที่ดินที่จำนองโฉนดเลขที่ 11 เลขที่ดิน 22 เนื้อที่ 50 ตารางวา ตำบลลาดยาว อำเภอลาดยาว กรุงเทพมหานคร และทรัพย์สินอื่นของจำเลยออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์จนกว่าจะครบถ้วน

* โจทก์ไม่มีทางบังคับจำเลยได้ จึงต้องนำคดีมาฟ้อง เพื่อขอบารมีศาลเป็นที่พึ่งบังคับจำเลยต่อไป

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

คำขอท้ายฟ้อง

* ข้อ 1 ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 1,020,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 12 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 1,000,000 บาท นับตั้งแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเงินให้แก่โจทก์ครบถ้วน

* ข้อ 2 หากจำเลยไม่ชำระเงินตามข้อ 1 ให้แก่โจทก์ ให้ยึดที่ดินที่จำนองโฉนดเลขที่ 11 เลขที่ดิน 22 เนื้อที่ 50 ตารางวา ตำบลลาดยาว อำเภอลาดยาว กรุงเทพมหานคร และทรัพย์สินอื่นของจำเลยออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์จนกว่าจะครบถ้วน

* ข้อ 3 ให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมศาลและค่าทนายความแทนโจทก์

หมายเหตุที่ทำ * คือย่อหน้า

คำสำคัญ (Tags): #คำฟ้องคดีแพ่ง
หมายเลขบันทึก: 549754เขียนเมื่อ 29 กันยายน 2013 20:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 ตุลาคม 2013 13:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท