ผิดไปแล้วกับชีวิตในวัยเรียนของครูอ้อย


ความผิดที่จะไม่อาจจะลืม หรือยกโทษให้กันได้นั้นมีมากมายหลายครั้งเหลือเกินในชีวิตของครูอ้อย บัญชีชั่ว กับบัญชีแห่งความดี แยกกันคนละส่วน ครูอ้อยยังคงทำความดีให้หนีความชั่วไปให้ห่าง ก็ไม่พ้นบ่วงแห่งกรรมชั่วที่ได้ทำไว้ แต่ยังมีความเชื่อมั่นว่า ทำความดีแล้วได้ดีตอบแทนเสมอ

ครูอ้อยได้ทำการบ้านส่งอาจารย์  เรื่อง  อัตตชีวประวัติของข้าพเจ้า  และมีกัลยาณมิตรหลายท่านมีความต้องการจะอ่าน  เพื่อช่วยครูอ้อยตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนส่งอาจารย์ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 นี้

ดังนั้นท่านผู้อ่าน  เมื่ออ่านจบแล้ว  กรุณา.....ติ  และเพิ่มเติมให้ครูอ้อยด้วยนะ  จะเป็นพระคุณอย่างสูง(เพราะเกิดมาก็ไม่เคยเขียนสักที)

ขณะนี้ครูอ้อยได้แยกส่วนของอัตตชีวประวัติครูอ้อย   เพื่อจะนำมาเขียนลงในบันทึกและง่ายต่อการอ่านของผู้สนใจ

เรื่องที่เขียนนั้นเป็นตอนๆไป เหมือนหนังจีน 

ซึ่งตอนที่ 1 คือ  ครูอ้อยในวัยก่อนเรียน  เชิญอ่านได้ที่นี่  

แต่ตอนต่อไปเป็นตอนที่ 2  คือ  ครูอ้อยในวัยเรียน  ซึ่งเป็นเรื่องครูอ้อยเรียนในวัยประถมต้น  มัธยมต้น  มัธยมปลายและอุดมศึกษา 

เรียนเชิญอ่านที่นี่ค่ะ

เมื่อจบแล้ว  ยังมีอีกหลายตอนค่ะ  วัยแห่งความรักก็มี  บรื๋อ........

แต่วัยแห่งความรัก  ไม่ได้ส่งอาจารย์  กำลังพิจารณาอยู่ว่าควรส่งอาจารย์ดีหรือไม่  หากผู้อ่านแล้ว  ช่วยพิจารณาด้วยนะคะว่า  ควรนำเข้าไปส่งอาจารย์  ดีหรือไม่  เพราะอะไรด้วยนะคะ

คำสำคัญ (Tags): #siriporn#ph.d#diary#dear
หมายเลขบันทึก: 54801เขียนเมื่อ 16 ตุลาคม 2006 15:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 11:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

แล้วรูปถ่านสีคล้ำๆ นั่นรูปใครค่ะ

หนูเข้าไปอ่านมาแล้วคะ   คำถามคือ..??..ทำไมช่วงท้าย ๆ ของเรื่อง...เหมือนไม่อธิบายรายละเอียดเหมือนตอนต้นหรืออาจจะกลัวว่า...มันยาวเกินไปหรือเปล่าคะ ??  (อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวคะ)

อ้อ..!!  ลืมบอกไปคะ ในเรื่อง ครูอ้อยในวัยเรียน คะ ไม่รุ้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่านะคะ..ที่ตอนท้ายดูเหมือนตัดรายละเอียดออกไป ///..

ค่ะ  น้องนิว  ครูอ้อยยังไม่ได้ทบทวน  แล้วมาอ่านใหม่นะคะ  ขอบคุณมากค่ะ  ครูอ้อยรีบไปหน่อยค่ะ  คืนนี้ครูอ้อยจะเพิ่มเติมค่ะ
  • ครูอ้อยเขียนได้สนุกน่าติดตามครับ ผู้อ่านอ่านจนรู้สึกอินเข้าไปในบท   อิ อิ
  • ผมขออนุญาตแก้ไขข้อความในย่อหน้านี้ครับ รู้สึกเหมือนเครื่องยังไม่ติด ก็เลยตะกุกตะกักนิดหน่อย แต่เนื้อหาดีแล้วครับ
  • ที่บ้านครูจงกล ผู้เขียนจำได้ว่า มีเด็กละแวกนั้นหลายคนมาเรียนด้วย มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แม้ว่าผู้เขียนจะเรียนไม่เก่งแต่ก็นับว่าเป็นเด็กขยันคนหนึ่ง พ่อกับแม่เคยเล่าให้ฟังว่า ผู้เขียนจะพยายามตั้งใจเขียนหนังสือให้ดีที่สุด ถ้าเขียนไม่สวย ก็จะไม่ยอมเลิกเขียนและจะไม่ยอมกินข้าวด้วย (มีเด็กละแวกนั้นมาเรียนมากเลยทั้งหญิงและ
    ชาย ผู้เขียนเรียนไม่เก่ง แต่ขยันมาก พ่อแม่เล่าว่า พยายามเขียนให้ดีที่สุด ถ้าไม่ไม่สวย
    จะไม่ยอมเลิกเขียนและจะไม่ยอมกินข้าวด้วย) เวลาที่ผู้เขียนชอบที่สุดที่บ้านครูจงกลคือ
    ตอนพักกลางวัน แม่ให้สตางค์มา 1 สลึง คือ 25 สตางค์ ไว้ซื้อขนมกิน ขนมของครู
    จงกลคือ ข้าวเหนียวตากแห้งและนำมาทอดจนกรอบโรยน้ำตาลและเกลือ เป็นขนมที่
    อร่อยมากกว่าขนมที่เป็นถุงๆละ 5 บาทในปัจจุบันนี้เสียอีก เวลาครูจงกลขายขนม ท่าน
    ก็จะนำกระดาษสีขาวมาม้วนเป็นกรวยให้พวกเราเด็กๆถือไว้ ท่านก็ค่อยๆบรรจงเอา
    ช้อนตักตวงข้าวพองนั้นใส่กรวยพร้อมกับให้พวกเรานับเลขไปด้วย สนุกมาก ผู้เขียน
    ชอบขนมนี้มาก วันหนึ่งผู้เขียนเก็บขนมข้าวพองนี้ใส่กระเป๋า ตั้งใจว่าจะเอากลับไปให้แม่กินที่บ้าน แม่จะได้กินขนมอร่อยบ้าง แต่ความที่ผู้เขียนห่อกระดาษไม่เป็น ขนมจึงหกเลอะเทอะอยู่ในกระเป๋า เมื่อกลับไปถึงบ้าน จึงถูกแม่ดุ เพราะแม่ไม่รู้เจตนาของผู้เขียน ว่าต้องการให้แม่ได้ชิมขนมอร่อย แต่ผู้เขียนก็พูดไม่เป็น (บางวันครูอ้อยเก็บใส่กระเป๋ามาให้แม่กินด้วย แต่ห่อไม่เป็นจึงหกใส่
    กระเป๋าเลอะเทอะ แล้วแม่ก็ดุด้วย เพราะแม่ไม่รู้เจตนาว่าผู้เขียนจะนำขนมมาให้แม่กิน
    ให้รู้ว่าขนมอร่อย แต่ผู้เขียนพูดไม่เป็น)
  • ในย่อหน้านี้มีชื่อครูอ้อยติดมาด้วย ครูอ้อยลองใช้คำสั่ง Find หรือ Replace ในโปรแกรม word ก็ได้ ค้นหาดูว่ามีชื่อครูอ้อยติดไปด้วยกี่คำ
  • ครูอ้อยเล่าได้สนุกครับ ชวนติดตามดีมาก
  • ในตอนท้ายเรื่องความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าครูอ้อยจะขยายความต่อหรือไม่ เพราะเนื้อหาที่กล่าวถึง ยังไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร มีสาเหตุจากอะไร ดำเนินไปแบบไหน รู้แต่เพียงว่ามีปัญหาเท่านั้น หากครูอ้อยไม่ต้องการขยายความต่อ ก็น่าจะตัดส่วนที่เกี่ยวข้องกับปัญหานี้ออกทั้งหมดครับ แต่ถ้าจะขยายความต่อ ผมว่าน่าติดตามดีครับ เสียดายว่าหน้ากระดาษหมดเสียแล้ว ต้องติดตามตอนต่อไป แล้วอย่างนี้ต้องไปกางมุ้งรอเวลาหนังสือจะออกหรือเปล่าครับ

คุณไมโตคะ

  • ครูอ้อยมีความสุขมากที่มีคนชอบการเขียนและมีความสุขที่สุดที่ติเตียนมาด้วย  แก้ไขให้ด้วย 
  • ถ้าคุณไมโตอยากให้ครูอ้อยขยายความตอนท้าย  ครูอ้อยก็ขยายเสร็จแล้วนะคะ 
  • ลองเข้ามาอ่านอีกครั้ง  น้องนิวก็ติเหมือนกันค่ะ  ครูอ้อยก็เข้าไปอ่านและรู้สึกว่า  กินแบบไม่อิ่ม 
  • ครูอ้อยเติมตามคำเรียกร้อง
  • และจะแก้ไขอีกตอนที่คุณไมโตโพสต์มานะคะ
  • อ่านจบแล้ว  ชังขี้หน้าครูอ้อยหรือเปล่าคะ 
  • คุณไมโตเข้าไปอ่านใน 212 cafe  รักแรกของครูอ้อยหรือยังคะ
  • ขอบคุณมากนะคะ
  • ครูอ้อยน่าจะขยายความเพิ่มอีกนิดนะในหน้าสุดท้ายว่า อะไรทำให้ครูอ้อยคิดได้ว่า เรื่องนี้เพื่อนของครูอ้อยช่วยอะไรไม่ได้ คนที่ช่วยได้ครูตัวครูอ้อยเอง
  • ที่ครูอ้อยขยายความเรื่องปัญหานั้น ตอนนี้ชัดเจนแล้วครับ ทราบที่ไป ที่มาชัดเจน เขียนได้ดีมากครับ อ่านสนุกครับ
  • ไปอ่านในบล็อก 212 cafe แล้วครับ
  • ผมว่าครูอ้อยเขียนได้น่ารักมากครับ บรรยายได้เห็นภาพชัดเจนครับ จนผมอดนึกย้อนไปว่าผมจะเขียน รักแรกของผมได้น่าประทับใจเท่าของครูอ้อยมั้ย,,,,,ได้แต่ย้อนคิดครับ เพราะว่าคงไม่มีความสามารถบรรยายได้เห็นภาพชัดเจนอย่างครูอ้อยแน่
  • ต่อให้ผมเขียนรักครั้งสุดท้ายกับคุณสมจิน ก็คิดว่ายังไงก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้เท่ากับที่ครูอ้อยเขียนครับ ขอชื่นชมจากใจจริง

คุณไมโตคะ 

  • ขอบคุณนะคะที่ให้ความสนใจกับบันทึกและเก็บมันไว้เป็นพิเศษ  ครูอ้อยได้เข้าไปดูในรวมบล็อกของคุณไมโตเห็นบันทึกของครูอ้อยอยู่ 2 บล็อก 
  • จริงๆแล้วครูอ้อยมีบล็อกตั้ง 12 บล็อก 
  • มิน่าเล่า  บางบันทึกในบล็อกอื่นๆคุณไมโตไม่ได้เข้ามาอ่านและให้ความเห็น 
  • คงมีแต่บันทึกปริญญาเอกและบันทุกครูสิริพรเท่านั้น  
  • สมน้ำหน้าจาก12 ได้แค่ 2 คะแนนเอง  อิอิ
สวัสดีตอนเช้าครับครูอ้อย
  • แม้ว่าครูอ้อยจะเขียนบล็อกมากถึง 12 บล็อกก็ตาม แต่ละบล็อกจะมีหัวข้อชัดเจน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการเป็นครู หรืออื่นๆ ซึ่งค่อนข้างห่างจากอาชีพและความสนใจของผม กลัวว่าจะหน้าแตกถ้าเข้าไปให้ความเห็นที่เป็นเรื่องทางเทคนิค เพราะบันทึกของครูอ้อยมีคนที่ติดตามค่อนข้างมาก แล้วผมก็มักจะมีความคิดอะไรแปลกๆที่ไม่ค่อยจะเกาะกลุ่มไปกลับชาวบ้านในบางครั้ง.....แฮ่ แฮ่
  • ไม่ได้หมายความว่า 12 แต้มแล้วครูอ้อยได้ 2 แต้มครับ ถ้าผมให้คะแนน ครูอ้อยควรจะได้เต็ม 100 ในทุกบล็อกครับ โดยเฉพาะสุดท้ายในบันทึกเรื่อง รักแรกของครูอ้อย ซึ่งเป็นเรื่องในอดีตกว่า 40 ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่ผมประทับใจที่สุดในจำนวนเรื่องเล่าทั้งหมดของครูอ้อย
  • ตอนทำกลุ่มบล็อกนั้น ผมเลือกจากบล็อกของครูอ้อย ที่ active ที่สุดครับ

คุณไมโตคะ  

  • คุณได้อ่านฉบับที่ 4 วัยทำงานของครูอ้อยหรือยังคะ  ถ้าคุณไมโตได้อ่านแล้ว  จะต้องมีคำถามกลับมาหาครูอ้อยมากมาย
  • แสดงว่าคุณไมโตเป็นแฟนพันธ์แท้ของบันทึกครูอ้อยใช่ใหม  ถึงได้ติดตามไปทุกบล็อกของครูอ้อย
  • แต่ความจริงครูอ้อยชอบและต้องการความคิดแปลกแหวกแนวที่ไม่ได้อยู่ในวงการเดียวกัน  ครูอ้อยยิ่งชอบ  แบบจะมองแบบ bird eye view  ซึ่งจะนำไปประยุกต์  ปรับเปลี่ยนได้ดีมากเลยค่ะ  คุณไมโต
  • วันนี้ครูอ้อยคงเสร็จสิ้นอัตตชีวประวัติ  จะเรียนถามคุณไมโตผู้หยั่งรู้  ว่า  ในอนาคตเมื่อเรียนจบ ป.เอก  ครูอ้อยจะทำอะไรดี  เอาคำตอบที่ดีกว่า  " เลี้ยงหลาน" นะคะ  อิอิ  แบบครูอ้อย  หน้าตาแบบนี้  ความรู้ความสามารถแบบนี้  บางทีต้องถามกระจกหกด้านนะคะ  อิอิ
  • ครูอ้อยติดตรงนี้  เขียนต่อไปไม่ได้
  • ขอบคุณค่ะ
  • ผมอาจจะทำให้ครูอ้อยแปลกใจอีกแล้ว เพราะผมไม่มีคำถามครับ
  • ความที่ผมไม่ได้อยู่ในวงการครู ผมเองอาจจะไม่สามารถมองภาพในอนาคตของครูอ้อยได้ชัดเจนนัก ซึ่งครูอ้อยน่าจะเป็นคนตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดครับ
  • เพียงแต่มุมมองของผม ผมคิดว่า ถ้ามองว่าครูอ้อยมีความรู้ในเรื่องต่างๆมากมาย แล้วครูอ้อยจะเอาความรู้ต่างๆที่ครูอ้อยมีมาใช้ประโยชน์ในเรื่องอะไรบ้าง นั่นจะเป็นคำตอบของครูอ้อย ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นได้แก่
     - ความสามารถด้านการบริหาร หมายถึงเอาไปใช้อะไรในด้านนี้บ้าง อาจรวมถึงการพัฒนางานประจำด้านการเรียนการสอนด้วย
     - ความสามารถด้านการวิจัย จะทำวิจัยทางด้านไหนต่อไป
     - ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ และเป็นที่ยอมรับในวงวิชาชีพ อย่างการเป็นวิทยากร เป็นต้น

คุณไมโตคะ

  • ครูอ้อยอยากไปอยู่ต่างจังหวัด  หลังจากเกษียณอายุราชการแล้ว  ครูอ้อยอยากทำงานอยู่กับธรรมชาติมากที่สุด  ธรรมชาติของคนไม่เอาแล้ว   ครูอ้อยอยากท่องเที่ยวไปทั่วประเทศและทำงานด้วย 
  • ทั้ง 3 ประการที่เป็นมุมมองของคุณไมโต  เพื่อนๆก็มองแบบนั้น
  • ครูอ้อยยังไม่แน่ชัด  ซึ่งแล้วแต่ปัจจัย และตัวแปร  คุณไมโต  คิดว่าที่ครูอ้อยพูดมาทั้งหมดนี้น่าจะเป็นประเด็นในการเขียน  เรื่อง  ชีวิตหลังเกษียณอายุราชการ  ได้ใหมคะ
  • ทั้งสามหัวข้อนั้น เป็นเรื่องการใช้ประโยชน์จากความรู้ที่เรามีอยู่ คือจะทำอะไรต่อไปในอนาคต
  • ส่วนชีวิตหลังเกษียณ เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ ส่วนใหญ่ก็กลับบ้าน เลี้ยงหลาน อยู่กับธรรมชาติ เขียนหนังสือ อุทิศตัวให้กับสาธารณประโยชน์โดยการเป็นวิทยากร มีธุรกิจเล็กๆที่อยากทำและไม่หวังประโยชน์ด้านกำไรตอบแทนเป็นที่ตั้ง เดินทางท่องเที่ยว ฯลฯ ผมเองไม่เคยคิดเรื่องไกลมาถึงขนาดนี้ ก็เลยอาจช่วยครูอ้อยได้ไม่มาก

คุณไมโตคะ

  • ครูอ้อยมีนิสัยเสียอยู่หลายอย่าง  ในจำนวนนิสัยเสียนั้นมีอยู่หนึ่งอย่างคือ

ถ้าคิดอะไรแล้วต้องทำให้ได้  ครูอ้อยเลยไม่อยากคิดไงล่ะคะ

  • ทีนี้ปัญหาคือ  อาจารย์ให้ทุกคนคิด  หนักใจจัง  วันนี้จะเขียนออกใหมนี่  ไปนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ก่อนดีกว่า  ลามั้ง
  • เท่าที่คุณไมโตเป็นเพื่อนคู่คิดให้ครูอ้อยนี่ก็ดีมากมายแล้ว
  • ตอนนี้อาจจะมีใครเล่นซ่อนแอบแต่ไม่ยอมออกมาแปะกับครูอ้อยอย่างน้อย  3 คนค่ะ อิอิ
  • เรื่องแผนระยะยาวของชีวิต นี้ เป็นเรื่องเล็กๆครับ ต้องยกให้คุณสมจินคิด ส่วนผมเอาไว้คิดเรื่องใหญ่ๆ อย่างเช่น วันนี้กินอะไรดี เป็นต้นครับ  อิ อิ

คุณไมโตคะ

  • บางเรื่อง  บางอย่างในชีวิตเรานะคะ  ถึงแม้จะวางแผนมาอย่างดี   เมื่อพลาดแล้วเราก็ควรจะมีแผนสอง
  • แต่สำหรับครูอ้อยไม่สามารถจะวางแผนได้เลย  เราเชื่อเรื่องของบาปบุญ  และกรรมเวร
  • ที่อยู่มานี่ก็เพื่อ..สนองคุณ  เพื่อล้างหนี้  และทำดีสะสมค่ะ
บันทึกนี้  ก็ยังดีดีเลย  อืมมม..ผ่านไปซิ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท