ธรรมะสำหรับ "นักเรียน..."


คณะครูและนักเรียนได้พากันมานอนวัดมาประพฤติปฏิบัติธรรม วันนี้คุณครูและนักเรียนจะพากันกลับบ้าน เราได้มาเข้าค่ายปฏิบัติธรรมทั้งภาคปฏิบัติและความเข้าใจ ต่อไปยังเหลือภาคปฏิบัติที่คุณครูและนักเรียนจะได้นำไปปฏิบัติที่บ้านที่โรงเรียน

โรงเรียนก็หมายถึงที่ที่เราไปเรียน ไปรู้ ไปศึกษาให้เข้าใจในการดำเนินชีวิตเพื่อไปประกอบอาชีพในการที่จะได้ทำ ได้ปฏิบัติในสิ่งที่ดี ๆ เป็นแผนที่ เป็นรูปแบบของชีวิตที่จะให้เราอยู่กันอย่างผาสุก

เรื่องการประพฤติตัวหรือการปฏิบัติ ให้นักเรียนทุก ๆ คนเข้าใจว่ามันเป็นหน้าที่เป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้าเราไม่ประพฤติปฏิบัติ ตัวเราเองก็จะมีทุกข์ในอนาคต ลูกหลานเราเกิดมาในอนาคตเค้าก็จะได้รับความยากลำบาก

"ทุก ๆ คนต้องขยัน อดทน ตั้งมั่น เข้มแข็ง" ชีวิตของเราต้องสู้ต้องทนด้วยความ  เหน็ดเหนื่อย ด้วยความยากลำบากทางกาย...

ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ตั้งใจเรียนหนังสือที่เรากำลังเรียนอยู่ให้ดีที่สุด...

เรามีความจำเป็นที่จะต้องบังคับตนเองในเรื่องกินเรื่องเล่นเรื่องเที่ยว

พ่อแม่ของนักเรียนทุก ๆ คนเค้าก็พากันแก่ขึ้นทุกวัน มีหนี้มีสินกันพอสมควร เราต้องมาช่วยเหลือพ่อเราแม่เราด้วยการทำงาน ด้วยการรู้จักประหยัด เพราะสมัยทุกวันนี้อะไรทุกอย่างเราก็ต้องซื้อเค้าหมด ถ้าเราไม่จำเป็นจริง ๆ ไม่ต้องซื้อไม่ต้องจ่าย 

นักเรียนทุกคนทั้งหมดนี้ต้องตั้งสติไว้ดี ๆ... บุหรี่ เหล้า การพนัน สิ่งเสพติดทุกชนิด  การเป็นคนเจ้าชู้ นี่เป็นหนทางที่จะให้นักเรียนทุก ๆ คนตกเป็นคนทุกข์ยากลำบาก "นักเรียนทุกคนต้องไม่เสพ ไม่ทำ..."

เพื่อนเราน่ะในบ้านในสังคม มันมีทั้งคนดีคนไม่ดี.. ให้นักเรียนทุกคนถือว่ามันเป็นเรื่องของเขา มันเป็นเรื่องของคนอ่อนแอ มันเป็นเรื่องของคนขาดความเข้มแข็ง ไม่มีระเบียบ ไม่มีวินัยที่จะบังคับตนเอง ปล่อยให้ตัวเองเป็นคนติดบุหรี่ ติดเหล้า เล่นการพนัน ไม่มีศักยภาพในชีวิต นักเรียนทุกคนอย่าได้พากันไปทำอย่างนั้น...

 

ทุกคนมันใจอ่อนนะ... ส่วนใหญ่สมาธิไม่แข็งแรง จิตใจไม่แข็งแรง ทำกันไปตามเพื่อน ตามฝูง ตามสังคม ไม่เป็นตัวของตัวเอง 

ให้นักเรียนอดเอา ทนเอา มันอยากคิดเราก็ไม่คิด มันอยากพูดเราก็ไม่พูด มันอยากทำเราก็ไม่ทำ เราอยากไปเราก็ไม่ไป ถ้าเราอดทนอย่างนี้แหละประมาณซัก ๗ วัน ใจของเราจะหยุด ใจของเราจะเย็นขึ้น ถ้า ๗ วันมันยังไม่เย็นก็ต้องอดทนต่อ ถ้าเราทำอย่างนี้จิตใจของเราจะเย็นขึ้นแน่นอน สมาธิของเราก็จะแข็งแกร่ง

ทุกวันนี้น่ะคนในครอบครัวของเรา ในบ้าน ในสังคมมีจิตใจที่ไม่แข็งแรงกัน รักษาใจตัวเองก็ไม่ค่อยได้ไม่ค่อยเป็น มันอยากไปก็ไป ไม่มีสติยับยั้ง มันอยากพูดอยากคิดก็ไม่มีสติยับยั้ง ถ้าเราไม่มีสติยับยั้ง สิ่งที่ไม่ดีมันก็ย่อมเกิดแก่เราแน่นอน ปัญหามีปากมีเสียงทะเลาะกันของพ่อแม่เรา เราถึงเห็นประจำ ปัญหาที่เค้าทะเลาะวิวาทกันมันถึงมีประจำ 

นักเรียนได้รู้แจ้งเห็นแจ้งในสังคมเราว่าสังคมเราขาดสมาธิในจิตใจ ไม่ยับยั้งชั่งใจ พากันทำตามความอยากความเห็นไม่ได้อบรมบ่มอินทรีย์ เราถึงเห็นเขากระโจนเข้าหาความทุกข์กันเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ ไฟมันร้อนมีแต่จะไหม้เผาผลาญตาย กิเลสมันเป็นของร้อน มันเผาจิตเผาใจเราในชีวิตประจำวัน เราไม่ตายมันก็เผาเราเสียแล้ว นี่แหละมันเป็นนรกหลุมเล็กหลุมใหญ่เผาครอบครัวเรา เผาพ่อเผาแม่แล้วก็กลับมาเผาพวกเราอีก...

นักเรียนทุกคนต้องเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ไม่ทำตามใจตัวเอง ไม่ทำตามเพื่อนไม่ทำตามสังคมที่เค้าทำกันผิด ๆ 

นักเรียนทุกคนพยายามพัฒนาที่ใจตัวเอง เพราะความสุขความทุกข์ของมนุษย์อยู่ที่ใจของเราสงบ ใจของเราไม่วิ่งตามความคิดตามอารมณ์ ใจของเราต้องเป็นคนสงบไม่เป็นคนขี้เกียจขี้คร้าน ความขี้เกียจขี้คร้านตัวเราก็ไม่ชอบคนอื่นก็ไม่ชอบ ความขี้เกียจขี้คร้านทำให้ทุกคนเป็นคนยากจน ทุกคนต้องขยันหมั่นเพียร ต่อสู้อุปสรรค คือจิตใจของเราอย่าให้ใจของเรามันขี้เกียจขี้คร้าน อย่าให้ใจของเราอ่อนแอ 

ปัญหาต่าง ๆ นั้นที่มันฉายออกมาข้างนอกมันมาจากจิตใจทั้งนั้น ที่ทำให้เราเป็นคนจน ติดเหล้า ติดบุหรี่ ขี้เกียจขี้คร้าน เป็นภัยต่อสังคม นิสัยไม่ดี มันก็มาจากจิตใจของเรานั้นไม่ได้ฝึกไม่ได้ควบคุม

นักเรียนอย่าไปคิดว่าเรายังเป็นเด็กนะ...! เป็นเด็กนั่นแหละดีจะได้ฝึกตั้งแต่เด็ก ๆ โตมามันฝึกไม่ได้ เรามันติดขี้เกียจขี้คร้านตามใจตัวเอง เป็นคนแต่จะเอาตัวเองเป็นที่ตั้งไม่ได้เอาธรรมะไม่ได้เอาการเสียสละ ไม่มีอะไรทำให้เราจนได้ ไม่มีอะไรทำให้เรารวยได้ ไม่มีอะไรทำให้เรามีคุณธรรมได้นอกจากตัวเรา "ทำดีมันได้ดี ทำชั่วมันได้ชั่ว" เราทุกคนเป็นผู้ก่อผู้สร้างทั้งนั้นแหละ

นักเรียนต้องเด็ดเดี่ยวเข้มแข็ง มีการประพฤติปฏิบัติดีให้มันต่อเนื่องกันหลาย ๆ ปี อย่าได้ไปประมาทอย่าได้ไปทดลองในสิ่งที่ไม่ดี ชื่อว่าการไม่ทำบาปทั้งปวง ทำแต่ความดี...

เราไม่ต้องไปโทษคุณพ่อคุณแม่เรา ว่าคุณพ่อคุณแม่เรายากจน นั้นเป็นเรื่องของคุณพ่อคุณแม่ เรื่องของเราเราก็ต้องมาพัฒนา สร้างเหตุสร้างปัจจัยไม่ให้มันเป็นคนจน สร้างเหตุสร้างปัจจัยให้ตัวเองเป็นคนที่มีประโยชน์ ไม่ว่าอะไรที่จะมายั่วยวนกวนใจ นักเรียนทุกคนต้องผ่านให้ได้ อย่าได้เห็นกงจักรเป็นดอกบัว อดเอาทนเอา ให้ใจของเราสูงอย่าให้ใจของเราต่ำเพราะมนุษย์คือผู้มีใจสูง ถ้าเป็นคนก็ทำสะเปะสะปะ ทั้งดีทั้งชั่ว

นักเรียนกลับไปบ้านต้องมีข้อวัตรปฏิบัติให้กับตัวเอง กราบพระที่หัวนอนของเรา บทสวดเล็ก ๆ น้อย ๆ เราก็ต้องฝึกท่องให้มันได้ นะโมฯ อรหังสัมมาฯ สั่งสมาธิทำใจสงบ ๆ ไม่ต้องคิดอะไร ท่องพุทโธ ๆ ติดต่อกันเป็นร้อย ๆ ครั้งอย่างนี้เป็นต้น ไม่ให้อารมณ์มันแทรกเข้าได้ มันเป็นคุณธรรมเป็นความดีที่นักเรียนต้องปฏิบัติ ไม่ต้องอายใคร เพราะบ้านเราอาจจะไม่มีใครไหว้พระ ทำการทำงานอะไรต่าง ๆ บ้านเราสกปรกก็ปัดกวาด เก็บที่อยู่ที่นอน เราอย่าไปปล่อยวางไม่ถูกต้อง ที่อยู่ที่นอนก็สกปรก รอบนอกทั่วไปก็สกปรก ห้องน้ำห้องสุขาก็สกปรก นี่ก็หมายถึงความขี้เกียจที่มันมีในจิตในใจ

พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ทำงานสิ่งเหล่านี้ให้มีความสุข กวาดบ้านถูบ้าน ทำงานให้มีความสุข ทำไมถึงได้ความสุข..? เพราะว่าเราเสียสละละความขี้เกียจขี้คร้าน เราได้ทั้งความสุขใจ ได้ทั้งความสะอาด 

เราอย่าไปเถียงพ่อเถียงแม่ ถ้าเราเป็นคนเถียงมันเป็นเครื่องหมายของคนไม่มีสมาธิ อะไรก็แก้ตัวไว้ก่อน อะไรก็เถียงไว้ก่อน เราจะว่าเรารักษาสิทธิเสรีภาพที่เราต้องแสดงเหตุผลอย่างนี้ไม่ได้ เราไม่มีโอกาสได้ฝึกใจ เราต้องฝึกเป็นคนไม่เถียง ฝึกเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน พ่อแม่เราจะเป็นคนดีเป็นคนไม่ดีก็ช่างท่าน เรามาแก้ที่ตัวเรา "การเรียนการศึกษาให้เราเข้าใจเรื่องนี้แล้วนำไปประพฤติปฏิบัติ..."

เรามีโอกาสมีเวลาเราก็จะได้ศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่สูงขึ้นไป... 

เราศึกษาก็เพื่อความฉลาด เพื่อความเข้าใจ แล้วเอาการศึกษานั้นไปประพฤติปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือตนเองเพื่อช่วยเหลือคนอื่นได้ เป็นคนดีเป็นคนเสียสละ ไม่กินบ้านกินเมือง โกงบ้านโกงเมือง "ไม่ใช่เป็นคนเรียนมากรู้มากแล้วมาเอาเปรียบคนอื่น เอาความสุข บนความทุกข์ของคนอื่น อย่างนั้นไม่ใช่คนรู้จริง...!"

ทุก ๆ คนระบบสมองสติปัญญาก็ไม่ต่างกันมาก ต่างกันที่ใครมีโอกาส เรียนมากศึกษามากมันก็ย่อมรู้มาก 

เราเป็นคนด้อยโอกาสด้อยทรัพย์ เราก็ย่อมพัฒนาความขยันความหมั่นเพียร พัฒนาให้เราเป็นคนดี แล้วความดีก็จะช่วยเหลือเรา เปลี่ยนแปลงเราไปในทางที่ดี เพราะในโลกนี้ ในครอบครัวนี้เราต้องการพ่อแม่เป็นคนดี ในหมู่บ้านเราก็ต้องการผู้ใหญ่บ้านต้องการ อบต.ที่เป็นคนดี "ความดีเท่านั้นที่จะนำนักเรียนทุกคนเข้าถึงความสุขความดับทุกข์..."

นักเรียนถึงจะเหนื่อยยากลำบากให้ถือว่าเป็นเรื่องของกาย เรื่องของใจนั้น "ดีมาก..." เราได้เสียสละ ละความเห็นแก่ตัว "ถือว่าชีวิตนี้เป็นของประเสริฐเกิดมาเพื่อสร้างความดีสร้างคุณธรรม"

ความสุขของเราทุก ๆ คนมันอยู่ที่ใจสงบ ถ้าเรารวยเป็นมหาเศรษฐีแต่ถ้าใจของเราไม่สงบมันจะมีความสุขอะไร...! เพราะความสุขของหมู่มวลมนุษย์อยู่ที่จิตใจสงบ

ให้นักเรียนทุกคนดีใจภูมิใจที่ได้มาอบรมปฏิบัติธรรม ที่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางที่ดี อันไหนไม่ดีรู้แล้วก็จะเลิก ไม่ทำอีก จะขอสมาทานขอตั้งใจเอาความดีเข้าสู่ชีวิตจิตใจ 

ขออนุโมทนากับคุณครูและนักเรียนทุกคนที่ได้ปฏิบัติ ก็ถือว่าดีแล้วถูกต้องแล้วที่ปฏิบัติ แต่ก็ถือว่าเป็นเบื้องต้น นำคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปประพฤติปฏิบัติในครอบครัวในสังคมให้มันดียิ่งขึ้นไปตลอดกาล...

พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์เมตตาให้นำมาบรรยายให้แก่คุณครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านบุเจ้าคุณ

เช้าวันศุกร์ที่ ๑๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๖

 

หมายเลขบันทึก: 545765เขียนเมื่อ 17 สิงหาคม 2013 21:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม 2013 21:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สาูธุ สาูธุ สาูธุ

อนุโมทนากับเด็กน้อย และคุณครู

ที่เข้าถึงเส้นทางบุญค่ะ

มีคำถามเมื่อพิจารณาไพล์ภาพ

เมื่อเราพิจารณาภาพเหล่านั้นแล้ว(ผม.ขน หนัง น้ำเลือด น้ำหนอง กระดูก เอ็น ฯล)

สภาพจิตใจหดหู่และน้ำตาไหล ควรพิจารณาอะไรต่อไปคะ

ควรทำเช่นไรคะ

กราบนมัสการค่ะ

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท