สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ผมจะมาพูดเกี่ยวกับเรื่อง "ปัญหาในการพัฒนาหลักสูตร" ก่อนที่จะพูดเกี่ยวกับข้อมูลที่ค้นคว้ามา จากประสบการณ์ของผมในการทำงานในฐานะครู ผมเห็นเลยว่าปัญหาในการพัฒนาหลักสูตรคือ
1. ครูหลายท่านไม่รู้ว่าตัวเองต้องสามารถทำหลักสูตรได้
2. ครูหลายท่าน ทำหลักสูตรไม่เป็น
3. ครูหลายท่านทำหลักสูตรได้ แต่เนื่องจากการทำหลักสูตรต้องอาศัยการร่วมคิดร่วมทำ ในขณะที่ครูบางท่านพอทำไม่เป็น ก็ปฏิเสธงานเลยว่าไม่ทำ ทำให้การพัฒนาหลักสูตรเป็นไปได้ช้าหรือยากลำบาก
ส่วนสำหรับข้อมูลที่ไปค้นมานะครับ สุภาพร แพรวพนิต (ไม่ระบุปีที่พิมพ์ อ้างถึงใน กนิษณ์ฐา ทองดี, 2553) ได้กล่าวถึงปัญหาของการพัฒนาหลักสูตรไว้ว่ามีดังต่อไปนี้
ปัญหาของการพัฒนาหลักสูตร คือปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการยกระดับของหลักสูตรจากระดับที่เป็นขึ้นสู่อีกระดับหนึ่ง ปัญหาอันเกิดจากการร่วมคิดร่วมทำ ร่วมกันสร้างหลักสูตร และร่วมกันนำหลักสูตรไปใช้ มีดังนี้
2. ปัญหาการจัดอบรมครู
3. ปัญหาการไม่ยอมรับและไม่เปลี่ยนแปลงบทบาทการสอนของครูตามแนวหลักสูตร
4. ศูนย์การพัฒนาหลักสูตร ไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตน
5. ขาดการประสานงานที่ดีระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ
6. ผู้บริหารต่าง ๆ ไม่สนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงหลักสูตร
7. ปัญหาขาดแคลนเอกสาร เนื่องจากขาดงบประมาณและการคมนาคมขนส่งไม่มีประสิทธิภาพพอ
นอกจากนี้ Skilbeck (1984 อ้างถึงใน ชัยวัฒน์, สุทธิรัตน์, 2548) และ Marsh et al. (1990 อ้างถึงใน ชัยวัฒน์, สุทธิรัตน์, 2548) สรุปปัญหาอุปสรรคของการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาในต่างประเทศ ไว้ดังนี้ (ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์, 2545 อ้างถึงใน ชัยวัฒน์, สุทธิรัตน์, 2548)
1. ครูมีความรู้และความสามารถด้านการพัฒนาหลักสูตรไม่เพียงพอในด้านการวางแผน ออกแบบ การนำหลักสูตรไปใช้ และการประเมินผลหลักสูตร ครูขาดความมั่นใจ และวิตกกังวลในการดำเนินการพัฒนาหลักสูตร ดังนั้น จึงควรมีโปรแกรมพัฒนาความรู้และความสามารถของครูและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในด้านการพัฒนาหลักสูตรก่อนพัฒนาหลักสูตร
2.ครูขาดแรงจูงใจและมีเจตคติทางลบต่อการพัฒนาหลักสูตร โรงเรียนที่ล้มเหลวเกี่ยวกับโครงการการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา เนื่องมาจากการที่ครูมีเจตคติทางลบและเกิดการต่อต้านจากครู ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของผู้บริหารที่จะส่งเสริมและสนับสนุนบรรยากาศของโรงเรียนตั้งแต่เริ่มต้น และมีการพัฒนากลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องให้มีเจตคติ และแรงจูงใจที่ดีต่อการพัฒนาหลักสูตร
3. โครงสร้างการบริหารงานของโรงเรียนไม่เอื้อต่อการพัฒนาหลักสูตรโดยโครงสร้าง
ของโรงเรียน และการบริหารจัดการเป็นสายงานบังคับบัญชาแบบดั้งเดิม
4. ขาดการวางแผนด้านเวลา การที่ไม่มีการวางแผนเรื่องเวลาในการทำงานพัฒนาหลักสูตร ไม่ลดคาบสอน เพื่อวางแผนการทำงานร่วมกัน การสะท้อนความคิดและการพัฒนาหลักสูตร ซึ่งเวลานี้เกี่ยวพันไปถึงเจตคติ และระดับแรงจูงใจของครู ครูและผู้มีส่วนร่วมบางส่วนจึงอาจมีปฏิกิริยาต่อต้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาได้
5. ขาดผู้เชี่ยวชาญสนับสนุน โดยขาดผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการให้ข้อเสนอแนะในการพัฒนาหลักสูตร
6. ขาดงบประมาณสนับสนุน ในการเตรียมวัสดุอุปกรณ์ และเงินสนับสนุนช่วยเหลือครูแต่ละวันในการพัฒนาหลักสูตร
7. บรรยากาศของโรงเรียนที่ไม่ส่งเสริมการทำงาน เนื่องจากขาดผู้นำที่มีประสิทธิภาพและเกิดจากมีผู้ต่อต้านในการพัฒนาหลักสูตร
ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์ (2548) ได้สรุปปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา
มี 3 ประการ
คือ
แรงจูงใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ความสนใจในแนวคิดของนวัตกรรม และการควบคุมการทำงาน และมีปัจจัยสนับสนุน 6 ประการคือ รูปแบบของกิจกรรม บรรยากาศของโรงเรียน
บุคคลผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เวลา ทรัพยากร
รวมทั้งการสนับสนุนจากภายนอก
จากการที่ผมได้ทำงานจริง เมื่อได้อ่านข้อมูลจากที่ได้ค้นคว้ามาแล้วก็ค่อนข้างเห็นด้วย บางครั้งการทำหลักสูตรก็ทำได้ด้วยความลำบากเนื่องจากไม่มีผู้บริหารมาสนับสนุน เพื่อนร่วมงานก็มองว่าเราหางานมาให้ทำ สร้างภาระให้กับพวกเขา ทั้งๆที่พวกเขาไม่เคยรู้ว่ามันเป็นภาระหนึ่งของครูที่ครูทุกคนต้องทำอยู่แล้ว อีกทั้งจุดประสงค์ที่ให้ครูทำหลักสูตรเอง เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทของครูผู้สอนและโรงเรียนนั้นๆ ซึ่งหากมองตามเจตนาแล้วผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก แต่ถ้ามองในทางปฏิบัติแล้ว ค่อนข้างจะสร้างภาระให้กับครูไม่น้อยทีเดียว จากเดิมที่ครูต้องทั้งเขียนแผนการสอน ทั้งสอน ทั้งตรวจงาน ทั้งดูแลนักเรียน ทั้งงานเก็บใบตอบรับต่างๆของโรงเรียน ออกข้อสอบ ประเมินผลการเรียนนักเรียน ทำวิจัยในชั้นเรียน และอื่นๆอีกมากมาย ต้องบวกการเขียนหลักสูตรเพิ่มเข้าไปอีก ซึ่งต้องยอมรับตรงๆว่าเป็นภาระที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร
รายการอ้างอิง
กนิษณ์ฐา ทองดี. (2553). ปัญหาและแนวโน้มในการพัฒนาหลักสูตร. คัดมาเมื่อ 2 สิงหาคม 2556, จาก http://www.learners.in.th/blogs/posts/408465
ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. (2548). การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา : ฝันที่ยังไปไม่ถึง. คัดมาเมื่อ 2 สิงหาคม 2556, จาก http://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3&source=web&cd=3&cad=rja&sqi=2&ved=0CDoQFjAC&url=http%3A%2F%2Frppiyachan.files.wordpress.com%2F2010%2F07%2Fe0b980e0b89be0b8a3e0b8b5e0b8a2e0b89ae0b980e0b897e0b8b5e0b8a2e0b89a.doc&ei=2Nj7Uf3BMYaFrAfYv4CQBA&usg=AFQjCNGJBnn7V2gtLiJBfxjzgIidIKIcow&bvm=bv.50165853,d.bmk
ไม่มีความเห็น