พี่น้องผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ยุวกาชาดที่เคารพรักทุกท่านครับ ขอเชิญติดตามศึกษา “ คู่มือผู้กำกับลูกเสือ ” ซึ่งเขียนโดย ท่านลอร์ด เบเดน โพเอลล์ และสำนักงานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติเป็นผู้แปล ความรู้ในหนังสือนี้มีประโยชน์อย่างสูงยิ่งสำหรับผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ในฉบับนี้ขอเสนอ ตอนที่ 1 วิธีฝึกอบรมเด็ก ครับผม
เด็ก
ขั้นแรกที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการฝึกอบรมเด็กของท่านก็คือ ท่านต้องทราบบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับเด็กโดยทั่วไปก่อน ครั้นแล้วก็ต้องมีความรู้เกี่ยวกับเด็กคนนี้โดยเฉพาะ
ในคำปราศรัยต่อสมาคมจริยศึกษา (The Ethical Society) ณ กรุงลอนดอน ดร. ซาลิบี ได้กล่าวว่า “ สิ่งสำคัญอันแรกสำหรับการที่จะเป็นครูสอนที่ประสบผลดี คือความรู้อันเกี่ยว กับธรรมชาติของเด็กทั่วไป เด็กผู้ชายหรือผู้หญิงไม่ใช่แบบพิมพ์ฉบับเล็กของผู้ใหญ่ชายหรือหญิง ไม่ใช่แผ่นกระดาษว่างเปล่าซึ่งครูจะเขียนอะไรลงไป เด็กแต่ละคนมีความอยากรู้อยากเห็นของเขาโดยเฉพาะ เด็กขาดประสบการณ์ เด็กมีจิตใจที่สลับซับซ้อน เด็กต้องการความช่วยเหลือที่เฉลียวฉลาด ต้องการส่งเสริมสนับสนุน ต้องการปั้นหรือสร้างให้เป็นรูปหรือปรุงแต่ง และบางครั้งก็ต้องใช้วิธีบังคับบัญชา ”
ถ้าท่านหวนกลับไปนึกคิดถึงเมื่อตัวท่านเป็นเด็ก โดยคิดกลับไปให้ไกลที่สุดที่จะไกลได้ ว่าในสมัยนั้นความคิดของท่านมีอะไรบ้าง แล้วท่านจะเข้าใจถึงความรู้สึกและปรารถนาของเด็กยิ่งขึ้น ต่อไปนี้เป็นคุณสมบัติในตัวเด็กที่เราจำต้องพิจารณา
อารมณ์ขัน
ต้องจำไว้ว่า ตามธรรมชาติเด็กเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน บางอย่างเป็นเพียงตื้นๆ แต่เขาก็เข้าใจสิ่งชวนหัวเราะนั้น และมองในด้านน่าขันของสิ่งต่างๆ สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับเด็ก ความผาสุกและแจ่มใส และจะกลายเป็นเพื่อนที่ร่าเริงแทนที่จะเป็นนายงาน ถ้าหากว่าเขาจะสมัครร่วมสนุกกับเด็กด้วย
ความกล้าหาญ
โดยทั่วไปเด็กมักจะมีความกล้าอยู่ในตัว ตามธรรมดาเด็กไม่ใช่คนขี้บ่น ถึงแม้ว่าเมื่ออายุมากเข้าจะกลายเป็นคนขี้บ่นได้ แต่เมื่อความเคารพของตนเองได้หายไปจากตัวเขาและเมื่อเขาได้อยู่ในหมู่นักบ่นเป็นเวลานาน เขาอาจกลายเป็นคนขี้บ่นได้
ความเชื่อมั่น
ตามปกติเด็กมักจะเชื่อมั่นอย่างมากในพลังของตน ฉะนั้น เขาจึงไม่ชอบจะให้ใครมาปฏิบัติกับเขาอย่างที่ปฏิบัติต่อเด็กเล็กโดยบอกให้ทำสิ่งต่างๆ ทำอย่างนั้นอย่างนี้ เขามักจะพยายามลองทำเอง ถึงแม้ว่ามันจะผิดพลาดก็ตาม
แต่การกระทำผิดทำให้เด็กมีประสบการณ์และสร้างลักษณะนิสัย
ความฉลาดแหลมคม
ตามปกติเด็กมีความฉลาดแหลมคมเหมือนกับเข็ม จึงเป็นการง่ายที่จะอบรมเขาในเรื่องที่เกี่ยวกับการสังเกต แล้วให้อนุมานความหมายของมัน
ชอบการตื่นเต้น
เด็กในเมืองมักจะไม่ตื่นเต้นง่าย ไม่เหมือนกับเด็กชนบท ในเมื่อประสบกับความตื่นเต้นในเมือง เป็นต้นว่าพบรถดับเพลิงที่วิ่งผ่านไปหรือการชกต่อยระหว่างเพื่อนบ้านสองคน เขาไม่สามารถจดจ่ออยู่กับงานใดงานหนึ่งเกินกว่าเดือน หรือสองเดือนเพราะเขาต้องการความเปลี่ยนแปลง
การตอบสนอง
เมื่อเด็กเห็นว่ามีใครคนหนึ่งสนใจในตัวเขาแล้ว เขาจะตามผู้นั้นไป และตรงนี้เองการบูชาวีรบุรุษจึงเป็นกำลังอันสำคัญยิ่งที่จะช่วยผู้กำกับลูกเสือ
ความภักดี
เป็นส่วนสำคัญในลักษณะนิสัยของเด็ก ซึ่งก่อให้เกิดความหวังที่ไม่มีขอบเขต ตามปกติเด็กมักจะเป็นเพื่อนที่มีความภักดีต่อกัน ดังนั้นการผูกมิตรจึงเป็นเรื่องธรรมดาของเด็ก การผูกมิตรเป็นหน้าที่อันหนึ่งที่เด็กเข้าใจดี จากภายนอกดูเหมือนว่าเด็กเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่โดยทั่วไปแล้ว เขาเต็มใจที่จะช่วยเหลือคนอื่น จากจุดนี้เอง ที่ลูกเสือเราถือเป็นจุดสำหรับฝึกอบรมเด็กต่อไป
ถ้าเราพิจารณาและศึกษาลักษณะที่แตกต่างกันในตัวเด็กแล้ว เราจะอยู่ในฐานะที่ดีในการดัดแปลงการฝึกอบรมเด็กให้เหมาะกับข้อแตกต่างของเด็ก การศึกษาเช่นนี้ จะเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการฝึกอบรม
ข้าพเจ้ามีความยินดีมากในการที่ในระหว่างสัปดาห์หนึ่ง ข้าพเจ้าได้พบเด็กสามคนที่ศูนย์การฝึกคนละแห่ง มีผู้ชี้แจงแก่ข้าพเจ้าว่า เด็กทั้งสามคนนี้เป็นอันธพาลและนักเลงที่แก้ไขไม่ได้ แต่ครั้นได้มาอยู่ใต้อิทธิพลของการลูกเสือ
ผู้กำกับลูกเสือแต่ละกองของเด็กทั้งสามได้พบจุดดีของเด็กทั้งสามนี้ในจำนวนความชั่วทั้งหลาย และเมื่อจับจุดดีได้แล้ว จึงได้ให้เด็กทำงานที่เหมาะสมกับนิสัยพิเศษของเขานั้น บัดนี้เด็กหนุ่มสามคนนั้นแต่ละคนรูปร่างล่ำสันและสง่าผ่าเผย แต่ละคนทำงานได้ผลดี แต่ละคนได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง ดังนั้นจะเห็นได้ว่า แม้จะลำบากยากเย็นเพียงไร มันก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่จะจัดตั้งกองลูกเสือขึ้น แม้แต่เพียงจะได้มาซึ่งความสำเร็จอย่างนี้แต่เพียงอย่างเดียวก็ตาม
[ สมาชิกในครอบครัวลูกเสือ คือลูกเสือสำรอง ลูกเสือสามัญ และลูกเสือรุ่นใหญ่ ]
นาย CASSON ได้เขียนไว้ในหนังสือรายคาบ ชื่อ TEACHER’S WORLD บรรยายถึงความสลับซับซ้อนของธรรมชาติของเด็กไว้ดังนี้
“ พิจารณาจากประสบการณ์ของข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าอาจจะกล่าวได้ว่า เด็กมีโลกของพวกเขาเองต่างหากอีกโลกหนึ่ง เป็นโลกซึ่งพวกเขาได้สร้างขึ้นสำหรับพวกเขาเอง โดยไม่ยอมให้ครูหรือการเรียนเข้าไปได้เลย โลกของเด็กนี้มีเหตุการณ์มาตรฐาน ขนบประเพณี การซุบซิบนินทา และความเห็นสาธารณะของพวกเขาเองโดยเฉพาะ ”
จงจำไว้ว่า เมื่อเด็กสมัครเป็นลูกเสือแล้ว เขาต้องการเริ่มต้นการลูกเสือทันที ฉะนั้น จงอย่าทำให้ความกระหายของเขานั้นต้องสลายไป จงสนองความต้องการของเขา ด้วยการกีฬา ด้วยการปฏิบัติทางลูกเสือ ครั้นแล้วจึงสอนรายละเอียดเบื้องต้นทีละน้อยๆ ขณะที่ท่านสอนฝึกอบรมเขาไป
“ ถ้าแม้ว่าจะมีครู มีบิดามารดา เด็กยังคงภักดีต่อโลกของเขาเอง เขายังคงปฏิบัติตามขนบประเพณีของเขา แม้ว่ามันจะแตกต่างขนบประเพณีที่สอนที่บ้านและที่โรงเรียนก็ตาม เขายินดีที่จะรับการทรมานโดยผู้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจในเรื่องเด็กมากกว่าที่จะทรยศต่อขนบประเพณีนั้น ”
“ ขนบประเพณีของครูอาจเอนเอียงไปทางให้มีความเงียบ ปลอดภัย และมีกิริยามารยาทที่สุภาพถูกต้อง แต่ขนบประเพณีของเด็กนั้นตรงข้าม คือ เอนเอียงไปทาง เสียงเอะอะ ชอบเสี่ยงอันตราย และให้เกิดความตื่นเต้น ”
“ ความสนุกสนาน การต่อสู้ และการรับประทาน สามสิ่งนี้จะขาดเสียไม่ได้ในโลกของเด็ก มันเป็นรากฐาน
เป็นสิ่งที่เด็กสนใจอย่างจริงจัง ทั้งไม่มีความสัมพันธ์กับครู หรือหนังสือเรียนเลย ”
“ ตามความเห็นทั่วไปในโลกของเด็ก การที่มานั่งวันละ 4 ชั่วโมง ที่โต๊ะเรียนในร่ม เป็นการสูญเสียเวลาและ แสงสว่างอย่างน่าเสียดาย มีใครเคยรู้จักเด็กคนใดบ้างไหม ที่มีสุขภาพดีตามปกติ ไปขอให้บิดาซื้อโต๊ะเขียนหนังสือให้เขา หรือมีใครบ้างที่รู้จักเด็กที่วิ่งเล่นอยู่นอกบ้านตลอดเวลาคนใดบ้าง ที่ขอให้แม่อนุญาตให้ไปนั่งเล่นในห้องรับแขก ”
“ ไม่มีแน่ เด็กไม่ใช่สัตว์ที่อยู่ประจำโต๊ะเขียนหนังสือ ไม่ใช่สัตว์ที่ชอบนั่งอยู่กับที่ เด็กไม่ใช่คนที่ชอบความสงบเงียบ เด็กไม่เชื่อในหลักปลอดภัยไว้ก่อน ทั้งไม่ใช่เป็นหนอนหนังสือ และไม่ใช่นักปรัชญา ”
“ เขาเป็นเด็กเต็มเปี่ยมล้นไปด้วยความสนุกสนาน การต่อสู้ ความหิว การซุกซนที่เสี่ยงภัย เสียงเอะอะ
การสังเกตและการตื่นเต้น ถ้าเขาไม่เป็นอย่างนี้ เขาก็เป็นเด็กที่ผิดปกติ ”
“ จงปล่อยให้การรณรงค์ระหว่างขนบประเพณีของครูและของเด็กดำเนินต่อไปเถิด ในอนาคตเด็กจะชนะอย่างที่เคยชนะมาแล้วในอดีต เด็กสองสามคนจะยอมแพ้ และชิงทุนเล่าเรียนได้ แต่เด็กส่วนใหญ่ยังคงดื้อดึงต้านทานอยู่ต่อไป และจะโตขึ้นเป็นคนที่สามารถที่สุดและมีสุขภาพดีที่สุดของชาติ ”
“ ตามประวัติศาสตร์ ไม่จริงหรือที่เอดิสัน ผู้ประสบผลสำเร็จในการประดิษฐ์ของหลายพันชิ้น ได้ถูกครูส่งกลับบ้านพร้อมด้วยหนังสือถึงผู้ปกครองว่าโง่เกินไปที่จะสอนได้ ”
“ ไม่จริงหรือที่ว่า นิวตัน และ ดาวิน ผู้ให้กำเนิดวิธีการต่างๆของวิทยาศาสตร์ ก็ถูกครูที่โรงเรียนหาว่าเป็นคนโง่ ”
“ มีตัวอย่างนับเป็นร้อยๆ ไม่ใช่หรือที่ว่า เด็กที่โง่บัดซบในชั้น กลายเป็นคนที่มีประโยชน์และมีชื่อเสียงในชีวิตต่อมา นี่ยังไม่พิสูจน์เป็นการเพียงพออีกหรือว่า วิธีการของเรานี้ไม่อาจพัฒนาการทัศนคติของเด็กได้ ”
“ จะเป็นไปได้ไหมที่จะปฏิบัติต่อเด็กเยี่ยงเด็ก เราจะไม่สามารถที่จะดัดแปลงประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และเลขคณิต ให้เหมาะสมกับความต้องการของโลกของเด็กได้เชียวหรือ เราจะไม่สามารถที่จะแปลสติปัญญาของผู้ใหญ่ ให้เป็นภาษาของเด็กได้เชียวหรือ ”
“ เด็กเป็นผู้ผิดหรือ ในการที่เขาจะดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม ความสัมฤทธิผล และการผจญภัย ตามขนบประเพณีของเขา ”
“ เขาไม่ถือเอาการปฏิบัติก่อนการเรียนอย่างที่เขาควรจะทำหรือ เขาไม่ใช่คนงานตัวน้อยที่มหัศจรรย์ ทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง เพราะว่าขาดผู้นำที่ฉลาดหรือ ”
“ จะไม่เป็นการใกล้กับจุดหมายอย่างมากหรือ ถ้าหากว่าครูจะกลับกลายเป็นนักศึกษาสักชั่วระยะหนึ่ง เพื่อศึกษาชีวิตเด็กผู้ที่น่ามหัศจรรย์ ซึ่งครูพยายามยับยั้งและกดไว้ไม่ได้ผล ”
“ ทำไมเราผลักดันทวนกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว เมื่อน้ำกำลังไหลไปในทิศทางที่ถูกต้อง ”
“ ยังไม่ถึงเวลาอีกหรือที่เราจะดัดแปลงวิธีที่ไร้ผลของเรา และนำมาใช้ให้สอดคล้องกับความจริง ทำไมเรายังขืนกล่าวอย่างเศร้าใจว่า “ เด็กก็จะเป็นเด็กตลอดไป ” แทนที่จะรู้สึกยินดีในพละกำลัง ความกล้าหาญและความ ริเริ่มที่มหัศจรรย์ของเด็ก จะมีงานอะไรที่จะสูงและดีสำหรับครู ที่แท้ยิ่งไปกว่าการชักนำพละกำลังธรรมชาติของเด็ก ด้วยความร่าเริงไปสู่วิถีทางของบริการสังคมเล่า ”
ข้าพเจ้าได้กล่าวแล้วว่า ขั้นแรกที่จะนำไปสู่ความสำเร็จคือการรู้จักเด็กของท่าน แต่ขั้นที่สองท่านต้องรู้จักเรื่องบ้านของเขา เมื่อท่านทราบว่าสิ่งแวดล้อมของเขาเป็นอย่างไรเท่านั้น ท่านจึงอาจบอกได้ว่า มีอิทธิพลอะไรบ้างที่มาครอบงำเขา ในเมื่อเขาพ้นจากกองลูกเสือไปแล้ว ที่ใดความเห็นอกเห็นใจ และการสนับสนุนของบิคามารดาของเด็ก มีอยู่อย่างแน่นแฟ้น และที่ใดบิดามารดาของเด็กได้เข้ามามีส่วนด้วยความสนใจอย่างเต็มที่กับการงานของ ลูกเสือ และจุดประสงค์ของกระบวนการแล้ว ภาวะของผู้กำกับลดลงตามส่วน
บางโอกาสภายในบ้านมีอิทธิพลอันชั่วร้ายที่จำต้องขจัดให้หมดไป นอกจากนั้นยังมีเครื่องล่อใจอื่นๆ ซึ่งผู้กำกับของเด็กต้องพร้อมที่จะต่อสู้ และถ้าได้ทราบล่วงหน้าไว้ก่อน เขาอาจหาวิธีปฏิบัติเพื่อขจัดเครื่องล่อใจเหล่านั้นมิให้มีอิทธิพลต่อเด็กหนุ่มได้ ด้วยวิธีนี้ลักษณะนิสัยของเด็กก็จะพัฒนาไปในทางที่ดี
เครื่องล่อใจที่มีอำนาจมาก อย่างหนึ่งคือภาพยนตร์ ภาพยนตร์เป็นสิ่งชวนตาชวนใจเด็กอันสำคัญอย่างไม่ต้องสงสัย บางคนครุ่นคิดอยู่เสมอว่า จะทำอย่างไรจึงจะหยุดยั้งการดูภาพยนตร์ได้ แต่มันเป็นสิ่งหนึ่งในหลายๆอย่างซึ่งยากที่จะยับยั้ง แม้จะเป็นสิ่งที่ทุกคนประสงค์จะงดเว้นด้วยกันก็ตาม เมื่อเป็นเช่นนี้เราควรมาคิดว่า จะทำอย่างไรจึงจะใช้ภาพยนตร์ให้เป็นประโยชน์แก่เราให้มากที่สุด ตามหลักการที่ว่า เมื่อพบกับความยุ่งยาก ให้พยายามเข้าหาความยุ่งยากนั้น แล้วจึงหาทางแยกออกไปเสียอีกทางหนึ่ง เราควรพยายามดูว่าภาพยนตร์มีคุณประโยชน์อย่างไรบ้าง แล้วเอาประโยชน์มาใช้ฝึกอบรมเด็ก ถ้ามิได้ตรวจควบคุมอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็ไม่ต้องสงสัยว่าภาพยนตร์จะเป็นเครื่องมือที่นำความชั่วมาสู่เด็กได้อย่างมากมาย ได้มีการจัดการตรวจควบคุมภาพยนตร์กันกันอยู่แล้ว แต่ก็ยังต้องจัดต่อไปอีก เพื่อให้ได้มาซึ่งการตรวจควบคุมที่ถูกต้องแม้ว่าภาพยนตร์มีอำนาจนำความชั่วมาสู่ได้มาก ก็จะต้องจัดทำให้ดี เพื่อให้นำคุณงามความดีมาให้ได้ เช่นเดียวกันมีภาพยนตร์หลายเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และธรรมชาติศึกษา ซึ่งทำให้เด็กได้รับความรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ มากมายกว่าที่จะให้เด็กใช้ความสังเกตด้วยตนเอง และดีกว่าบทเรียนหลายบทเกี่ยวกับวิชานั้นๆ ประวัติศาสตร์อาจสอนได้โดยทัศนศึกษา มีบทบาทที่ก่อให้เกิดความน่าสงสาร ความกล้าหาญ ความสนุกสนาน ความตลกขบขัน และความร่าเริง หลายเรื่องที่นำเอาการกระทำชั่วมาตำหนิและเยาะเย้ย ไม่ต้องสงสัยว่า การสอนโดยวิธีทัศนศึกษาเช่นนี้ อาจดัดแปลง ให้ได้รับผลดีเลิศเหมาะสมตามความโน้มเอียง ความสนใจของเด็กในโรงภาพยนตร์อันหรูหรา นอกจากนั้นในเวลานี้ภาพยนตร์แผ่อิทธิพลเข้าไปในโรงเรียน บัดนี้ได้กำลังกลายเป็นผลดี ในการลูกเสือเราอาจทำอย่างนั้นไม่ได้ แต่เราอาจใช้เป็นเครื่องกระตุ้นในความพยายามของเรา เราต้องทำให้กิจการลูกเสือของเรามีความดึงดูดอย่างพอเพียงที่จะให้ชวนตาชวนใจเด็ก โดยไม่ต้องกังวลถึงความดึงดูดในทางตรงข้ามที่มีอยู่
การสูบบุหรี่ของเยาวชน และผลร้ายต่อสุขภาพ การเล่นการพนัน การทุจริตที่จะตามมา ความชั่วของการดื่มของมึนเมา การเที่ยวเสเพลกับผู้หญิง ความไม่สะอาด ฯลฯ เหล่านี้จะแก้ไขให้ดีได้ก็เมื่อผู้กำกับลูกเสือรู้จักสิ่งแวดล้อมตามปกติของเด็ก จะแก้ไขโดยการห้ามปราม โดยการลงโทษนั้นไม่ได้ แต่จะแก้ไขได้ด้วยการนำสิ่งอื่นซึ่งให้ความพึงพอใจแก่เด็กเช่นเดียวกันมาแทน แต่มีผลดีกว่า
อาชญากรรมของเยาวชน ไม่มีอยู่ในตัวเด็กตามธรรมชาติ แต่ส่วนใหญ่อาจเกิดขึ้นจากเจตนารมณ์การชอบผจญภัยที่มีอยู่ในตัวเด็ก จากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากการเป็นผู้ขาดวินัย ทั้งนี้ย่อมแล้วแต่ลักษณะนิสัยของเด็กแต่ละคน
การชอบพูดปดเป็นนิจ เป็นความชั่วอีกสิ่งหนึ่งซึ่งแพร่หลายอยู่ในเด็ก และเป็นเชื้อโรคที่แพร่ไปทั่วทั้งโลก
เราจะพบความชั่วนี้ในจำพวกคนที่ด้อยความเจริญ เช่นเดียวกับในประเทศที่เจริญแล้ว การพูดความจริง และผลของการพูดความจริง จะยกฐานะคนให้เป็นผู้ที่เชื่อถือได้นั้น ทำให้เกิดความแตกต่างในลักษณะนิสัยของประชาชนและของชาติ ดังนั้นย่อมตกเป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต้องทำทุกๆอย่าง ที่จะยกความรักเกียรติและการพูดความจริงระหว่างเด็กทั้งหลาย
สถานอำนวยการกองและค่ายลูกเสือ
เครื่องแก้ความชั่วของสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีนั้น คือ การหาสิ่งที่ดีกว่ามาแทน และสิ่งที่ดีที่สุดนั้น คือ สถานอำนวยการกองและค่ายลูกเสือ ที่ว่าสถานอำนวยการกองลูกเสือนั้น ข้าพเจ้าไม่ได้หมายถึงการฝึกครึ่งชั่วโมงต่อหนึ่งสัปดาห์ในห้องเรียนใหญ่ๆ ที่ยืมใช้ในบางโอกาสซึ่งมักจะเป็นจุดหมายของผู้ที่ปฏิบัติงานกับเด็กอยู่บ่อยๆ แต่ข้าพเจ้าหมายถึง สถานที่ที่แท้จริงหรือที่เด็กรู้สึกว่าเป็นของตน แม้ว่าจะเป็นห้องใต้ถุนหรือห้องบนเพดานก็ตาม หรือสถานที่บางแห่งซึ่งเด็กจะใช้ได้ทุกเวลาเย็น ถ้าต้องการ ทั้งจะได้พบกับงานและความเพลิดเพลิน มีกิจกรรมต่างๆ ทั้งมีบรรยากาศอันแจ่มใสและเบิกบานใจ ถ้าผู้กำกับลูกเสือสามารถจัดการได้ดังกล่าว ก็นับได้ว่าทำกิจกรรมได้ดีมากที่จะจัดสรรสิ่งแวดล้อมอันดีสำหรับเด็กบางคน ซึ่งจะเป็นยาขนานเอกสำหรับแก้สิ่งชั่วอันจะคืบคลานเข้าไปในจิตใจและลักษณะนิสัยของเด็ก
ส่วนค่ายลูกเสือนั้น (ควรจะได้จัดให้มีบ่อยที่สุดที่อาจทำได้) ยังมีความสำคัญไกลไปกว่านั้น และเป็นเครื่องแก้ยาพิษขนานสำคัญกว่าสถานอำนวยการกองลูกเสือ เพราะเป็นสถานที่โล่งแจ้ง บรรยากาศแจ่มใส มิตรภาพเกิดจากการอยู่ร่วมกันเป็นระยะเวลานานภายใต้กระโจมผ้าใบ ตามทุ่งนาและในโอกาสการเล่นรอบกองไฟ ย่อมก่อให้เกิดจิตใจอันดีงามที่สุดระหว่างเด็ก นับเป็นโอกาสอันงดงามแก่ผู้กำกับลูกเสือยิ่งกว่าขณะใดๆ ที่จะอบรมเด็ก และทำให้เด็กเลื่อมใสในบุคลิกลักษณะของเขา
ทำอย่างไรจึงจะได้เด็กมา
ข้าพเจ้าชอบคิดถึงคนที่พยายามจะได้เด็กให้มาอยู่ด้วยภายใต้อิทธิพลที่ดี ว่าเสมือนนักตกเบ็ดที่อยากจะได้ปลา
ถ้านักตกเบ็ดนั้นเกี่ยวเบ็ดด้วยเหยื่อ หรืออาหารที่ตัวนักตกเบ็ดชอบแล้ว ก็ไม่แน่นักว่าเขาจะได้ปลามากโดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาที่ขี้อาย ดังนั้นเขาจะต้องใช้เหยื่อที่ปลาชอบเกี่ยวเบ็ด
เด็กก็เช่นเดียวกัน ถ้าท่านพยายามจะสั่งสอนเด็กด้วยเรื่องที่ท่านคิดว่า จะทำให้เด็กสูงส่งขึ้นแล้ว ท่านจะไม่ได้รับผลสำเร็จ “ เด็กที่ค่อนข้างดี ” จะทำให้เด็กที่ชอบร่าเริงสนุกสนานหนีไปหมด และเด็กเหล่านี้เป็นเด็กที่ท่านต้องการจะได้ไว้ มีทางเดียวคือท่านต้องยื่นบางอย่างที่เป็นสิ่งดึงดูดใจและน่าสนใจให้แก่เด็ก ข้าพเจ้าคิดว่าท่านจะพบว่า วิชาการลูกเสือจะช่วยท่านได้ ภายหลังท่านจะปรับปรุงให้เขาทำอะไรๆ ได้ตามที่ต้องการ การที่จะผูกมัดใจเด็กได้ ท่านต้องทำตัวของท่านเป็นเพื่อนกับเด็ก แต่ต้องไม่รีบร้อนจนเกินไป กล่าวคือต้องรอจนเด็กหมดความกระดากอายในตัวท่านก่อน มิสเตอร์ เอฟ ดี ฮาว ได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ในหนังสือชื่อ Book of the Child ให้คำแนะนำอย่างถูกต้องดังต่อไปนี้
ชายคนหนึ่งในขณะที่เดินเล่นเป็นประจำวัน ได้มายังถนนสกปรกสายหนึ่ง ได้แลเห็นเด็กเล็กคนหนึ่งหน้าตาเปรอะเปื้อนสกปรก แขนขาเรียวเล็ก กำลังเล่นเปลือกกล้วยที่ทิ้งอยู่ในท่อน้ำข้างถนน ชายผู้นั้นพยักหน้าให้กับเด็กแต่เด็กกลับวิ่งหนีด้วยความตกใจกลัว วันต่อมาชายคนนั้นได้พยักหน้ากับเด็กอีก เด็กคนนั้นคิดว่า ไม่มีอะไรที่จะต้องกลัวจึงถ่มน้ำลายให้ วันต่อมาเด็กน้อยนั้นเป็นเพียงแต่จ้องตาดู วันหลังต่อมาอีก เด็กคนนั้นได้ร้องทักเมื่อชายผู้นั้นเดินผ่านมา ต่อมาอีกเด็กน้อยนั้นได้ยิ้มตอบในคำทักทาย ซึ่งเดี๋ยวนี้เขาหวังว่าคงจะได้รับจากชายคนนั้น ในที่สุดความมีชัยชนะก็ตกอยู่แก่ชายคนนั้น เพราะเด็กเล็กนั้นได้คอยเขาอยู่ตรงมุมถนน และตรงเข้าจับนิ้วของชายคนนั้นไว้ในอุ้งมือที่สกปรกของเขา ถนนนี้เป็นถนนที่น่าสลดใจก็จริง แต่มันกลับเป็นจุดที่แจ่มใสที่สุดในชีวิตของชายผู้นั้น
อะไรที่ผู้กำกับลูกเสือทำเด็กจะทำตาม จะดูผู้กำกับ ดูได้จากตัวเด็ก จากการเสียสละและความรักชาติของผู้กำกับของเขา เด็กจะเป็นผู้รับการถ่ายทอด การเป็นผู้เสียสละ อาสาสมัคร ทำงานอาสาสมัครเพื่อรับใช้ชาติ ไปจากการฝึกของ ผู้กำกับ
ขอบคุณท่าน ศน.คนเก่งมาก ถึงมากที่สุดจ้ะ
หนังสือนี้ไม่ได้เขียนเองนะครับพี่ B-P เขียน ผมอ่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์กับครูลูกเสือมาก ก็เลยสำเนามาให้อ่านกัน ผมตามหาหนังสือเล่มนี้มานานมาก ได้ต้นฉบับมาจาก ท่านอาจารย์นิคม อินทรโสภา ท่านผู้ตรวจการลูกเสือฝ่ายพัฒนาบุคลากร (คนปัจจุบัน) ความดีงามที่ได้จากการอ่านหนังสือนี้ ขอยกให้ท่านอาจารย์นิคม ทั้งหมดครับผม
น่าสนใจมาก
ชอบกิจการลูกเสือ ปัจจุบันบ้านเราเปลี่ยนไปมากนะครับ
ขออนุญาตแชร์ใน Facebook น่ะ เพื่อจุดประกายผู้กำกับลูกเสือ
ขอบพระคุณครับ ถ้าเราเชื่อว่า การลูกเสือสามารถพัฒนาเยาวชนให้เป็นคนดีได้ เราก็ต้องพยายามจัดกิจกรรมลูกเสือตามแนวทางที่ B-P เขียนไว้ เพราะท่านเป็นผู้คิดกิจการลูกเสือขึ้นมาในโลกใบนี้ ปัจจุบันเรามักจะได้เห็นลูกเสือแบบแปลกๆ การฝึกอบรมปนๆกับการฝึกเยาวชนแบบต่างๆมากมาย ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดอะไรนะครับ แต่ถ้าท่านผู้กำกับลูกเสือ ได้อ่านคู่มือผู้กำกับลูกเสือ ซึ่ง B-P เป็นผู้เขียน ก็จะทำให้เข้าใจการฝึกอบรมเด็กและเยาวชน ในรูปแบบที่เรียกว่า ลูกเสือ ชัดเจนขึ้นครับผม