การหาหลักฐานอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ และเป็นข้อมูลที่เป็นการศึกษาล่าสุด หรือทันสมัยที่สุด เพื่อนำมาเป็นแหล่งอ้างอิงหรือสนับสนุนการให้เหตุผลทางคลินิก ส่งเสริมให้การฝึกงานทางกิจกรรมบำบัดมีกระบวนการและมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
วันนี้ขอแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้อ่านทุกท่านเกี่ยวกับกรณีศึกษาที่ข้าพเจ้าได้ไปฝึกงาน ในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน ที่หอผู้ป่วยจิตเวชแห่งหนึ่ง โดยในบทความนี้ขอกล่าวถึงรายละเอียดของกรณีศึกษาเพื่อให้ทุกท่านได้ทราบในเบื้องต้น และนำหลักฐานอ้างอิงที่เกี่ยวข้องมาสนับสนุนเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
ชื่อนาย อนุ (นามสมมติ) เพศ ชาย อายุ 56 ปี
Dx. Alcohol dependent ,Alcohol withdrawal with derilium , MCI
ก่อนมาโรงพยาบาล :
- ดื่มเหล้าจำนวนมาก (ข้ามคืน) เพราะมีงานเลี้ยงงานแต่งเพือนของลูกสาว
- มีอาการสับสน วัน เวลา สถานที่ บุคคล
- เดินออกจากบ้านไปไกล แต่บอกลูกว่าไม่ได้เดินไปไหน
Grover Sandeep, Sharma Akhilesh, Kate Natasha, Surendra K. Mattoo,Basu Debasish, Chakrabarti Subho, et al. Symptom Profile and Outcome of Delirium Associated with Alcohol Withdrawal Syndrome: A Study from India. The American Journal on Addictions 2013 ; 1–7
ในผู้รับบริการผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ
- เกิดภาวะ delirium สับสน ในด้าน สถานที่และบุคตล (disorientate)
- Short attention
- low self awareness
การให้น้ำหนักคุณค่าความน่าเชื่อของหลักฐาน : + “น่าทำ”
2. Suzanne M. Peloquin and Carrie A. Ciro T. Self-Development Groups Among
Women in Recovery: Client Perceptions of Satisfaction and Engagement
เป้าหมายในการศึกษาคือ : การประเมินการให้ความร่วมมือในการเกิดความพึงพอใจ ใน
การทำกลุ่มแบบ Self -development คือ การพัฒนาตนเอง โดยผ่านกระบวนการการเรียนรู้
จากประสบการณ์ที่เราทำขึ้นมาด้วยความจงใจ ตั้งใจ และเต็มใจของเราเอง ในกลุ่มผู้รับ
บริการผู้หญิงที่ใช้สารเสพติด
ผลสรุปคือ การทำกลุ่มแบบ Self- development ร่วมกับการใช้ person–environment–
occupation model จะส่งเสริมให้เกิดความพึงพอใจและการร่วมมือในการรักษาทางกิจกรรม
บำบัด ในกลุ่มผู้รับบริการผู้หญิงที่ใช้สารเสพติด
การให้น้ำหนักคุณค่าความน่าเชื่อของหลักฐาน : +/-“อาจทำหรือไม่ทำ”
การให้คะแนน PEDro scale ดังนี้
Internal Validity Score: 1/10 Statistical Reporting Score: 0/10 • Randomly allocated: No • Between-group comparisons: No • Concealed allocation: No • Point estimates and variability: No • Baseline comparability: No • Eligibility Criteria Specified: No • Blind subjects: No • Blind therapists: No • Blind assessors: No • Adequate follow-up : Yes • Intention-to-treat: NO
3. Claudia I ,Georg KE,Martin KU, Hartmann HI, Wolfgang W.Cognitive Remediation
Therapy During Treatment for Alcohol Dependence. J. Stud. Alcohol Drugs, 2012;
73 : 625–634.
เป้าหมายในการศึกษาคือ เพื่อศึกษาว่าการให้การรักษา cognitive remediation (CR) ใน
ขณะให้การรักษา กับผู้รับบริการที่ติดสุราจะสามารถ แก้ไข(improve) ความสามารถด้าน
ความรู้ความเข้าใจ (cognitive) ในผู้ป่วยติดสุราได้หรือไม่
ผลสรุปคือ : การได้รับการรักษาด้วย cognitive remediation สามารถปรับปรุงให้ที่ดีขึ้นอย่าง
มีนัยสำคัญ ในด้านต่างๆ ได้แก่ attention/executive function ,memory domain โดย
เฉพาะอย่างยิ่งคือ attention (การตื่นตัว,การเปลี่ยนความสนใจ),ความจำในด้านการ
ทำงาน,ความจำที่ล่าช้า และนอกจากนี้ในผู้รับบริการที่ติดสุราจะมีนัยสำคัญเพิ่มมากขึ้นใน
ด้าน psychological well-being และระดับความสามารถในการบังคับความยากการดื่มเหล้า
(Obsessive Compulsive Drinking
Scale–German version)
การให้น้ำหนักคุณค่าความน่าเชื่อของหลักฐาน : ++ “ควรทำ”
การให้คะแนน PEDro scale ดังนี้
Internal Validity Score:5 /10
Statistical Reporting Score: 1/3
• Randomly allocated: Yes
• Between-group comparisons: Yes
• Concealed allocation: No
• Point estimates and variability: No
• Baseline comparability: Yes
• Eligibility Criteria Specified: No
• Blind subjects: Yes
• Blind therapists: No
• Blind assessors: No
• Adequate follow-up : Yes
• Intention-to-treat: Yes
การหาหลักฐานอ้างอิงที่่น่าชื่อถือและเหมาะสมกับกรณีศึกษา เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การให้เหตุผลทางกิจกรรมบำบัดสมบูรณ์
..... Alcohol ..... เป็นอบายมุข ไม่ดีทั้งนั้นนะคะ ..... ขอบคุณบทความดีดีนี้ค่ะ
ขอบคุณ Dr.ple สำหรับกำลังใจนะค่ะ