นับแต่นี้ไป เราจะทุบไข้เลือดออกด้วยสมุนไพร จนไข้เลือดออก กลายเป็น ไข้เลือดไม่ออก ในสังคมไทย


ด้วยความที่เกิดโต หาดใหญ่ สงขลา   เรียนจบ หาดใหญ่ สงขลา  ทำงาน หาดใหญ่ สงขลา  

และเคยทำงานควบคุมโรคไข้เลือดออก  ในเขตอำภอหาดใหญ่ มา นานๆ  นับ 10 ปี   พ.ศ.2539-02549

และสนใจใช้สมุนไพร กับผู้ป่วยไข้เลือดออก ที่รพ. หาดใหญ่  และ รพ แจ้ห่ม   ก็มานับ 15 ปี  พ.ศ.  2540- 2556

แล้วทุกวันนี้  จังหวัดสงขลา  มีผู้ป่วยไข้เลือดออกเสียชีวิต จากต้นปี ถึง กลางเดือน มิย 2556   8 ราย   สูงที่สุดในประเทศไทย

จนคิดว่า   เราไม่ควรตายจากไข้นี้ หากเรารู้วิธีรับมือ  

ความจริงแล้ว ก็นึกว่า จะเขียนอย่างไร ที่ไม่โอ้อวด  และ ไม่ถูกหมั่นไส้   ก็เลยหยุดเขียน หรือ เขียนแล้ว ไม่เผยแพร่บันทึก     ทั้งที่ก็เคยเขียนเล่าไว้หลายปีมาแล้ว 

 แต่ความมั่นใจ ก็มากขึ้นตามลำดับ จากประสบการณ์ตรงที่สะสม

แล้วก็รู้สึกว่า  น่าจะลองส่งแนวคิด ให้ผู้สนใจเลือก  อ่านแล้วให้คุณค่ากันเอาเอง 


โดยหวังว่า ไม่ควรจะมีคนไทยเสียชีวิต จาก ไข้ที่แสนจะธรรมดา   หากเรามีประสบการณ์และ ความคิดที่ถูกต้องในการใช้สมุนไพรง่ายๆ

ความจริงแล้ว มีงานวิจัยไข้เลือดออก จำนวนมากทั่วโลก    แต่ไม่มีการพิสูจน์ การใช้สมุนไพรเปรียบเทียบ สักที

โรคนี้ก็ระบาด มีผป. จำนวนมากให้ศึกษาวิจัย

แต่ประเทศไทยเรา ขาดอาจารย์มหาวิทยาลัย (ซึ่งมีความพร้อมในการวิจัย)  ที่จะสนใจ วิจัยการใช้สมุนไพรกับไข้เลือดออก

แตกต่างจากประเทศจีน  ที่มีงานวิจัยใหม่ เช่น การใช้ฟ้าทะลายโจรฉีด ได้ผลดี กับผู้ป่วยโรคมือปากเท้าที่มีอาการรุนแรง

ประเทศไทยเรา ก็ควรทำวิจัย การใช้สมุนไพรไทย ( ไม่ใช่สมุนไพรเทศ) กับไข้เลือดออก ที่รุนแรง  หรือ ที่เสี่ยงมีอาการรุนแรง

และที่ยอดเยี่ยม ขั้นแรก คือ  การวิจัย พิสูจน์  สิ่งที่ช่วยบอกทำนาย ความรุนแรง ของผู้ป่วยได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มไข้

 ( เพราะ ปัจจุบัน เราจะรู้ว่าหนัก เมื่อป่วยไข้หลายวันแล้ว ทรุดจนกู้ชีพไม่ทัน

เพราะหากเรามั่นใจ และ ยอมรับกันในวงการ  ในตัวทำนายความรุนแรงนี้  เราก็สามารถคัดเลือกผป.อาการหนัก มาวิจัยเปรียบเทียบการใช้สมุนไพร ต่อไป

เพราะผป.ไข้เลือดออกอาการไม่หนัก หายได้ง่าย ก็มีมาก  หากเราไปรักษากลุ่มนี้ด้วยสมุนไพร 

เราอาจจะด่วนสรุปผิด   ว่า สมุนไพรเราดี     ทั้งๆที่ไม่ใช้สมุนไพร ก็หายดี  

เราลองทายดูน่ะครับว่า  มหาวิทยาลัยใด จะเห็นความสำคัญ และจัดงบประมาณวิจัยให้ อาจารย์ในสังกัดตนเอง 

เพื่อทำวิจัยให้คำตอบ แก่สังคมไทยและ สากล    ซึ่ง น่าจะยาก หรือไม่มีความเป็นไปได้


นอกจากนี้ หากเราสามารถใช้สมุนไพร บ่อย  จนชำนาญในกรณีไข้เลือดออก  แล้วสิ้นเปลืองค่ายาสมุนไพร เพียง 50 บาท  กระทืบเชื้อไข้จาก ไวรัสเดงกี่   จน ไข้เลือดไม่ออกสักที   ไข้ไม่ตายสักที

จนไข้เลือดออก  ไร้พิษสง  เสมือนหนึ่งเป็น เพียงผิวหนังอักเสบ

เชื่อได้ว่า การจะเสียเงินฉีดวัควีนไข้เลือดออกในอนาคต เข็มละ 1000  บาท หลายๆเข็ม ให้ฝรั่งรวย   ก็ดูเหมือนไม่จำเป็น

เราคิดพัฒนาวัคซีนไข้เลือดออก ได้ แต่เราผลิตจำนวนมากไม่ได้ ต้องให้ฝรั่งขายเราอยู่ดี 

ดังนั้นเราช่วยกันพิสูจน์ ยาสมุนไพรไทย( ไม่ใช่สมุนไพรเทศ)   บ่อยๆกันมั่นใจว่า  เพียง 50 บาท  ก็เอาอยู่หมัด

หรือ รายที่หนักมากหน่อยก็ไม่เกิน 100 บาท


เราคงจะไม่ต้องไปเสียเงิน เสียแรงพ่นหมอกควัน   ซึ่งจ่ายแพงกว่า แล้วไม่ค่อยได้ผลในการควบคุมยุง ควบคุมโรค


โปรดใจเย็น ติดตามรายละเอียดไปเรื่อยๆ

หมายเลขบันทึก: 539377เขียนเมื่อ 15 มิถุนายน 2013 01:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2013 01:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ตามมาติดๆ ค่ะอาจารย์ หาดใหญ่สงขลาไข้เลือดออกกำลังระบาดหนักค่ะ รณรงค์กำจัดยุงลายกันแทบทุกถนนค่ะ 

รออ่านต่ออย่างใจจดใจจ่อค่ะ 

http://www.gotoknow.org/posts?tag=ไข้เลือดออก


ขอติดตามด้วยครับ เพราะใกล้ตัวกันจริง ๆ ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท