สยามเมืองยิ้ม
นายอานนท์ ภาคมาลี (หมอแดง)
จงภูมิใจเถิดที่เกิดที่เกิดเป็นไทย เป็นคำร้องท่อนแรกของสยามเมืองยิ้ม กิริยาอาการยิ้มแย้มแจ่มใส โอบอ้อมอารี มีน้ำใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามทุกข์ยาก แม้แต่คนที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องของตน ถือเป็นทุนเดิมที่ติดตัวมาจากรุ่นสู่รุ่น เป็นด้านดีงามของมนุษย์
การดำรงชีวิตเชิงประจักษ์ คือทุนทางสังคม ทุนของคนไทย เป็นรากเหง้าของจิตอาสา ที่ชนชาวสยามมีและดำรงอยู่มาช้านาน แต่นับวันกำลังถูกท่าทายจากสังคมบริโภคนิยม สังคมวัตถุนิยม เนื้อหาของเพลงที่บ่งบอกอัตลักษณ์ ความเป็นตัวตนของคนไทยทำให้ระลึกสู่ถิ่นฐานคนไทย รากเหง้าของตนของชุมชนมากขึ้นเพื่อให้เราเกิดความภาคภูมิใจ รักถิ่นฐานบ้านเกิดและอาจส่งไปถึงความรักความสามัคคีปรองดองของคนในชาติก็ได้นะครับ ไม่น่าเชื่อเลยเพลงทำนอง/เนื้อร้องของคุณวิเชียร คำเจริญ ร้องโดยคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ จะเป็นตัวจุดประกาย ลองพิจารณาเนื้อหาของเพลงดูเถิด
จงภูมิใจเถิดที่เกิดเป็นไทย มิเป็นทาสใคร และมีน้ำใจล้นปริ่ม
ทั่วโลกกล่าวขาน ขนานนาม ให้ว่าสยามเมืองยิ้ม เราควรกระหยิ่มถึงความดีงาม
คนเย็นใจซื่อได้ชื่อว่าไทย ร้อนมาจากไหน ชาติไทยไม่เคยหวงห้าม
ข้าเขตข้ามโขงถิ่นน้ำขุ่น มาพึ่งใบบุญเมืองสยาม เรายิ้มรับตามที่ท่านต้องการ
เลืองชื่อลือนาม สยามมีแต่น้ำใจ ขอเตือนท่านผู้อาศัย อย่าทำอะไรให้ไทยร้าวราน
คนไทยใจซื่อ เขาถือแต่โบราณกาล แค่เพียงข้าวสุกหนึ่งจาน ใครลืมของท่าน เนรคุณ
คนไทยรักชาติและศาสนา เทิดองค์เจ้าฟ้า ผู้ทรงเปี่ยมนาบุญ
ถ้าท่านเคารพสิทธิ์ของไทย ท่านอยู่ต่ออีกได้นานคุณ สยามใจบุญ ยังยิ้มเสมอ
ข้าพเจ้าจะไม่ขยายความในเนื้อหาสาระของเพลง เพราะมีคุณค่าในตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่อยากให้ท่านประเมินเองน่าจะสนุกกว่าอีกเรื่องหนึ่งที่ข้าพเจ้าชวนผู้อ่านคิด คือเรื่องการให้เกียรติศิลปินนักร้องรวมทั้งผู้แต่งเพลงที่มีผลงานมานาน และมีคุณค่าเป็นที่ยอมรับ ให้เป็นศิลปินแห่งชาติ และเพื่อเป็นเกียติแก่วงศ์ตระกูลของคุณวิเชียร คำเจริญ และคุณพุ่มพวง ควงจันทร์ ตลอดไป
ภูมิใจค่ะ สยามเมืองยิ้ม
-สวัสดีครับ.
-ภูมิใจที่เป็นคนไทยครับ..
เป็นเพลงที่ ทาง อบต. บ่อนอกใช้เป็นเพลงบังคับในการประกวดร้องเพลงในงานลอยกระทงเกือบทุกปีจ้ะ