รำลึกพฤษภาทมิฬ จาก สรอ...ยุคแรกอินตะเน็ท..ด้วยเพลง


ความเงียบ กลาย มะเร็งก้อนโต (Silence’s like a cancer grow) 


...บทความนี้เขียนเมื่อนานปีมากแล้ว...แต่วันนี้มีวงเล็บแบบพศ. ๒๕๕๖ เพื่อเตือนใจคนรุ่นหลังให้เข้าใจ    

...ช่วงการเมือง พศ. ๒๕๓๕   เมืองไทยหวิดเกิดจลาจล   ผมอยู่สุขสบายที่ สรอ. แต่ก็ได้ร่วมกันทำงานกับคนไทยทั่วโลก ผ่าน soc.culture.thai   โดยผมได้เป็นแกนนำแต่งจดหมายเปิดผนึกแสดงจุดยืนของพวกเราหลายต่อหลายฉบับ (เป็นภาษาอังกฤษ)   โดยมีการร่วมกันลงนาม กดดันมาผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้ง Bangkok post  

จากนั้นผมได้แต่งเพลงนี้ (Sound of Muzzle)   ซึ่งใช้ทำนองเพลง Sound of Silence...อันโด่งดังของ ไซม่อน และ การ์ฟังเกล    (โห บ้าได้ขนาดเลยเรา เอาเสียงแห่งความเงียบกับเสียงปืนมาโยงกันจนได้ )    

ลองฟังเพลง Sound of Silence ก่อน แล้วถ้าสนใจจะร้องคลอด้วย คำร้องของ Sound of  Muzzle ก็ค่อยว่าทีหลังนะครับ  

http://www.youtube.com/watch?v=_34mW0mPCMQ

...The Sound of Muzzles... 

Lyric By: Tawit Chitsomboon  ,  

Tune By: "The Sound of Silence"  (Simon & Garfunkel)  


Note: Kaset = General Kaset Rojananil ....Su = Gen. Sujinda Kraprayoon ....Chalard = Lueitenant Chalard Vorachat….composed during the 1992 uprising of Thai people,  led by Gen. Chamlong Srimuang,  against a dictatorial regime of Gen. Suchinda.


Hello Kaset our old pain.  (เกษตร...our old pain) 

Su's  gone to talk with him again.   (สุจินดา) 

Because a  bloodshed's softly creeping.   (ขบวนประชาคืบมา) 

Left its seeds while Chalard was fasting.  (รต. ฉลาด อดข้าวประท้วง) 

And the suppression that was planned in his brain, 

Still remain..

Using the sound... of muzzles.   (เสียงแห่งปากกระบอกปืน) 


In toiletless scheme I wasn't alone.   (ตัดขาดห้องส้วม) 

The street was full with human clones. 

'Neath the halo of a street lamp, 

They dragged my fellows to be burnt in their camps. (ลากศพไปเผา)

Then my back was stabbed by the flash of a bullet flight, 

That split my spine, 

After the sound...of muzzles. 



And in the naked light I saw, 

Ten thousand people maybe more. 

Soldiers' shooting without thinking, 

Polices' beating without reasoning, 

People sending faxes, that voices never share.  (ม็อบมือถือ) 

And we're still there, 

Despite the sound...of muzzles. 



"Please!" Said I , my blood still flow. 

Crying while the death tolls grow. 

"Here's my blood if it might please you." 

"Take my arms if they might stop you." 

But my words’re  like silent raindrops fell, 

And echoed in the barrels, 

Of muzzles. 


And the Army barked and said, 

On the TV God they made. 

And the TV flashed out its warning, 

In the words that it was distorting. 

And the screen said "The words of the pardon are written with - 

the blood that spilled, 

In Amnesty Bill.".....     (พรบ. นิรโทษกรรม..ประวัติศาสตร์ซ้ำร้อยวันนี้ ๒๕๕๖)  

And blacked out the sound...of muzzles. 


[Dedicate to the woundeds and the deads of May 17-20, 1992] 


...คนถางทาง 


หมายเลขบันทึก: 536941เขียนเมื่อ 24 พฤษภาคม 2013 02:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม 2013 22:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีค่ะ อ. คนถางทาง

ร่วมรำลึกต่อเหตุการณ์  และร้องเพลงคลอตามไปด้วยเลย  ขอบคุณคุ่ะ:-))   สำหรับเนื้อร้องที่สะท้อนภาพสังคมในยุคนั้น    ดีจังเลยค่ะที่ อ. คนถางทาง เขียนชื่อตัวละครกำกับไ้ว้ให้ง่ายในการทำความเข้าใจ    อนุชนจะได้เรียนรู้ไปด้วยค่ะ  เพราะเป็นประวัติศาสตร์ชาติเช่นกัน

 จริงๆแล้วโดยส่วนตัวก็ร่วมสมัยในเหตุการณ์นั้นอยู่   .. แฮ่ะๆๆ .. อายุก็ตามๆอาจารย์กันไปแบบห่างๆไม่มาก  เลยนึกภาพออกค่ะ   อาจารย์ คนถางทาง ร่วมทำงานช่วยกู้ชาติจากภายนอกประเทศ      ในขณะที่พวกเราหมู่มวลพี่น้องทางปักษ์ใต้ แดนไกลโพ้น ถูกปิดข่าว ไม่รู้เรื่องราวข้อเท็จจริง   บ้านเมืองเข้าสู่กาลียุค  (แต่ไม่ยืดเยื้อดั่งยุคนี้)    แม้กระทั่งสื่อก็ถูกปิดบัง  แต่เราจะรับทราบสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง จาก สื่อ BBC shortwave ค่ะ    อ้อ..มีฺฺBBC ภาคภาษาไทยด้วย  เปิดกระจายข่าวให้ได้รับทราบทั่วๆกัน   เราไม่เห็นด้วยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ร่วมแสดงพลังเดินขบวนจากในมอ ชวนกันแต่งกายไว้ทุกข์ขาวดำ   ถือพระบรมฉายาลักษณ์และธงชาติ  เดินไปในเมือง ร่วมแสดงพลังประชาชน  ไปแสดงจุดยืนทีี่ศาลากลางจังหวัด  ร้อนเปรี้ยงก็ไม่ย่อท้อ  ทนไม่ไหวจริงๆน่ะ  .. เป็นไทยเฉยกันไม่ได้อีกต่อไปแล้วค่ะ  สมัยนั้น

..แต่สถานการณ์ปักษ์ใต้ในช่่วงนั้นยังไม่มีเหตุการณ์รุมเร้าเช่นนี้ ..พลังพี่้น้องเลยเข้มแข็ง..  อืมม์..มิอาจคาดคิดว่า  ปัจจุบันปักษ์ใต้ส่วนล่างเราบอบซ้ำกันมาก  มีเหตุการณ์ไม่เว้นแต่ละวัน  ใครมาตีเมืองก็ไม่รู้ว่าจะยึดร้อยยืนหยัดกันด้วยอะไรแล้วเนี่ย...ความไม่ไว้วางใจกัน.. เป็นบ่อนทำลายความเข้มแข็งของพื้นที่ที่ดูจะลามไปทั่วซะจริงเชียว ...เฮ้อ..Three times (ตามสคริปท์) :-((

..วันนี้วันวิสาขบุชา วันเพ็ญเดือนหก  ได้แต่ภาวนาให้บุญรักษาประเทศชาติอันเป็นที่รักด้วยเถิด   สาธุๆๆ

Gee, what a flatter!  Here's another later version... please enjoy. I like this song so much due to its high poetic content. http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=L-JQ1q-13Ek&feature=endscreen

ใช่ครับ..ขอภาวนาด้วยคนให้บุญรักษาประเทศไทย ขอจงอย่าเป็นประเทศที่เต็มไปด้วย sound of silences.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท