จั่วหัวเรื่องก่อนนะคะจากประสบการณ์ที่มีคุณแม่เป็นอัมพฤกษ์ รูปนี้ตอนคุณแม่เป็นสาวเหนืออายุ17 เจ๊า
โปรดติดตามตอนต่อไป แม่จันทร์สม ในอดีต 78 ปีผ่านประสบการณ์ความลำบาก จากครอบครัวยากจน แต่พื้นนิสัยเรียนดี ขยัน มุ่งมั่น ชัดเจน เด็ดขาด มีวิสัยทัศน์ แต่ขาดโอกาสจากครอบครัวที่มีพ่อขี้เมา หวงลูกสาว จบ ม2 ประกอบอาชีพสารพัดช่าง เย็บผ้า เสริมสวย สุดท้ายเป็นแม่ค้าร้านอาหาร ขายของชำ มีครอบครัวก็ต้องอย่าร้าง มีลูก 5 คน ราชการ 3 เอกชน 2 แต่โชคดีถึงวัยเกษียณ ลูกๆขอให้หยุดค้าขาย ก็ได้พักตามอัตภาพ ด้วยเงินเดือนจากการทำบ้านเช่า เก็บเงินรายเดือนเล็กๆน้อย สามารถสอบใบขับขี่รถยนต์มาสด้าเล็ก วัยหลังเกษียณ พออายุ 70 กว่า ลูกๆ เป็นห่วง ขอร้องและขอให้เปลี่ยนจาก 4 ล้อคันใหญ่เป็นคันเล็ก ให้เหมาะสมกับ ผู้ สว. ( คงอยากเห็นของเล่นละซิ... ) ขอพักช่วงก่อนนะคะเลิกงานแล้ว ติดตามตอนต่อไป อ้อ ! คุณแม่มีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดันโลหิตสูงรับยาไม่เคยขาด 30 กว่าปี
มาแล้วค่ะ พร้อมกับรถ 4 ล้อคันใหม่ ซึ่งกว่าคุณลูกๆ จะสรุปได้ใช้เวลา เกือบ 2 ปี เพราะราคาเกือบ 7 หมื่น ซื้อรถ แล้วใส่หลังคาเพิ่ม ชั่งน้ำหนัก คุ้ม ? ไม่คุ้ม ? หมายความว่า คุ้มของคุณแม่ ไม่คุ้มของคุณลูก สุดท้ายก็มอบน้องชาย จัดการติดต่อจัดหา จนได้รถคันใหม่ให้คุณแม่ ถึงวันที่16 เมษายน 2554 ครบรอบปีที่ 76 พวกเราก็ได้เห็นความสุขสดชื่น หยาดเยิ้มอยู่ในดวงตาและรอยยิ้มของคุณแม่ ได้ขับรถมอเตอร์ไซด์ ไฟฟ้าคันสีแดงสดใส ออกไปเยี่ยมเพื่อน ไปตลาด สุขทั้งผู้ให้ สุขทั้งผู้รับ อ้อ ! ลืมบอก ลูกๆของแม่ ก็อยู่ในวัยเกือบครึ่งชีวิตทั้งนั้น และมีที่ทำงาน มีบ้านอยู่ในลำพูน - เชียงใหม่ ไปมาหากันสะดวกมากๆ
บทเรียนช่วงชีวิตนี้จากผู้บันทึก : หากท่านคิดว่าอยากทำอะไรแล้วเป็นความสุข ก็ขอให้ทำทันที เงินทองเป็นของภายนอก จิตใจเป็นของภายใน รังสรรเองได้ไม่จำกัดเวลาและสถานที่
แม่ที่มีโอกาสได้ทำบุญ ให้พรลูกหลาน ในวันที่ 3 ก.ค 2554 ที่ตรงกับวันเลือก
ตั้งทั่วประเทศ แต่แล้วก็มีเหตุ เวลา ประมาณ 2 ทุ่มกว่า แม่มีอาการเวียนศรีษะ ลูกคิดว่าเป็นอาการทั่วไปของผู้สูงวัย พักสักครู่ก็หาย น้องสาวก็ชวนไปนอนด้วย พอเที่ยงคืน แม่ขอกลับไปนอนห้องตัวเอง ตี 3 แม่ตื่นเข้าห้องน้ำ ปรากฏว่า มือขวายกไม่ขึ้น ขากระตุกแต่พอทรงตัวได้ ได้เรียกน้องสาว พาไปรพ. สองคนแม่ลูกพยุงกันขึ้นรถยนต์ไปรพ. ใกล้บ้าน น้องสาวอยากเข้าไปดูแต่เจ้าหน้าที่บอกว่าคนไข้พูดคุยได้ ให้ญาติรอข้างนอก นั่งรอด้วยความกระวนกระวาย แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาถามญาติเลย ผ่านไป 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่มาบอกให้ญาติว่าคนไข้อาการดีแล้วกลับบ้านได้ น้องสาวดีใจมากถามว่า" อาการมือยกไม่ขึ้นหายแล้วเหรอ? " อนิจจา ! ปรากฏว่า 1 ชั่วโมงที่เสียไป แม่ได้รับยาฉีดแก้เวียนศรีษะแล้วหลับไปด้วยฤทธิ์ยา ...ทีม รพ. รีบดูอาการ ทดสอบแขน ขา ประสานรพ.ที่รับส่งต่อ หมดเวลานาทีทองแล้ว สำหรับอาการสโตร๊ค ( Stroke ) ส่งทำ CT.scan วินิจฉัยว่า หลอดเลีือดในสมองอุดตันผู้บันทึกได้รับโทรศัพท์จากน้องสาวเมื่อเวลา 6 โมงเช้า เฮ้อ ??? การรักษาสังเกตอาการ นอนใน รพ. 5 วันจึงขอย้ายไปรพ.เฉพาะทางระบบประสาท นอนติดเตียง พร้อมกับการใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ สิ่งที่ตามมา ทั้งคนไข้และญาติ จะทำไงดี ????
บทเรียนช่วงชีวิตนี้จากผู้บันทึก : อุทาหรณ์จากการให้ประวัติ แม้คนไข้จะพูดได้ อย่าได้ไว้วางใจในทีมสุขภาพ แล้วจะต้องมาเสียใจภายหลัง หากคนในครอบครัวท่าน มีอาการฉับพลันดังนี้ให้ระวัง โรค stroke ชา อ่อนแรง หน้ามือแขนขา สับสน ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด ตามืด มัว การมองเห็นผิดปกติ เวียนศรีษะ เดินเซ ปวดศีษะไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะผู้มีโรคประจำตัวระบบหลอดเลือด ความดัน เบาหวาน
อนิจจา แม่ของลูกๆ ได้ใช้รถคันใหม่ แค่ 3 เดือน .........และแล้วโอกาสของลูกๆ มาถึงแล้ว ....................ติดตามตอนต่อไป
ชอบภาพแบบนี้มากเลยค่ะ