พระโพธิสัตว์ประทับอยู่ภายในจิตของเราตลอดเวลา
ลูกสาวเล่าให้ฟังเมื่อปีที่แล้วสมัยเป็นนักเรียนแพทย์ปี1ที่ U.of Melbourne ในช่วง 10 วันแรกของการเรียน จะเป็นการปรับทัศนคติของนักเรียนแพทย์ ให้เห็นคุณลักษณะ หน้าที่และความรับผิดชอบของการเป็นแพทย์ที่ดี โดยจะเป็นการแสดงละครจากนักแสดงจริงให้ดู บางครั้งก็ให้เหล่านักเรียนร่วมแสดงกับตัวแสดงด้วย เพื่อให้เห็นจริง สัมผัสจริง รู้สึกจริง กับเหตุการณ์สถานการณ์จำลองืที่ถูกเขียนบทโดยทีมอาจารย์แพทย์
มีละครอยู่เรื่องหนึ่ง ที่ผมได้ข้อคิดดีๆ ที่จะนำมาแชร์แบ่งปันให้เพื่อนๆครับ
คุณหมอท่านหนึ่งกำลังเตรียมตัวไปพักร้อนหลังจากที่ทำงานหนักมาอย่างเต็มที่ วางแผน เก็บกระเป๋า เรียกรถ เตรียมจะออกเดินทางอยู่แล้ว พลันก็ได้ยินเสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น พอยกหูฟังขึ้นก็ทราบว่าพยาบาลโทรตามให้ช่วยไปดูคนไข้หนักรายหนึ่ง คุณหมอก็ได้ปฏิเสธไปว่าตอนนี้ลาพักร้อนอยู่ให้ตามหมอท่านอื่น พยาบาลกล่าวขอร้องอีกว่า คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เก่งที่สุดในเรื่องนี้ ถ้ามาช่วยดูคนไข้รายนี้ ก็จะช่วยคนไข้ได้มากทีเดียว คุณหมอปฏิเสธอีกครั้งก่อนที่จะวางโทรศัพท์ แล้วขึ้นรถที่มารออยู่หน้าที่พัก รีบออกเดินทางเพื่อไปพักร้อนตามที่ได้วางแผนไว้
ขณะที่นั่งอยู่บนรถ คุณหมอรู้สึกไม่สบายใจ เพราะใจก็เป็นห่วงคนไข้คนนั้น ทำใหคิดต่อไปว่า ถึงแม้จะเดินทางไปเที่ยวใจก็คงไม่สนุก และถ้ากลับมาพบว่าคนไข้คนนั้นมีปัญหาเกิดขึ้น ความเสียใจคงติดตัวเขาไปอีกนาน ดังนั้นเขาจึงบอกให้คนขับรถขับกลับไปที่โรงพยาบาล
ฉากละครตัดมาที่คุณหมอและคนไข้คนนั้นยิ้มให้กันอย่างมีความสุข คนไข้หายพ้นวิกฤตและหายจากการเจ็บป่วยในครั้งนั้น คุณหมอก็มีความสุขที่ได้ใช้ความรู้ความสามารถของตนดูแลรักษาเยียวยาผู้ป่วยรายนี้ แล้วคุณหมอก็วางแผนที่จะลาพักร้อนต่อไป
เรื่องนี้พอผมได้ฟังแล้วก็ทำให้คิดถึง "คติขอพระโพธิสัตว์" คือ การแบกรับความทุกข์ของผู้อื่นเข้ามาสู่ตน และเยียวยาความทุกข์นั้นให้เป็นความสุข แล้วส่งมอบความสุขนั้นกลับคืนสู่ผู้ทุกข์รายนั้น
คุณหมอท่านนี้ได้แสดงจิตของพระโพธิสัตว์ออกมาให้เราเห็นได้ เช่นเดียวกันเราก็สามารถที่จะแสดงจิตพระโพธิสัตว์ออกมาได้ ตราบเท่าที่เราสามารถแบกรับความทุกข์และแบ่งปันความสุขกับผู้อื่นที่กำลังรอยคอยสิ่งเหล่านี้อยู่
เป็นความรู้สึกที่ดีมากจริงไหมครับ บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน ท่านคงทราบแล้วนะครับว่า "พระโพธิสัตว์ประทับอยู่ภายในจิตของเราตลอดเวลา"
ไม่มีความเห็น