ยุทธศาสตร์และวิธีแถลงการณ์ต่อศาลโลกของไทย


การแถลงการณ์ต่อศาลโลก

ผมฟังการแถลงการณ์ต่อศาลโลกของฝ่ายไทยเราแล้วมีความเห็นว่า

๑. จังหวะการพูดเร็วเกินไป ...เราต้องไม่ลืมว่า คณะศาลนั้นมีหลายหลายภาษา ต้องมีการแปลเป็นภาษาต่างๆ  การพูดที่เร็วเกินไปอาจทำให้แปลไม่ทัน  หรือ ผิดเพี้ยนไปจากใจความเดิม  แม้เป็นภาษาเดียวที่ฟังกันรู้เรื่องดีก็ตาม  การนำเสนอยังต้องช้ากว่านี้เลย  เพื่อให้ฟัง แล้วย่อยตามทัน  โดยเฉพาะในจุดสำคัญ ๆ  ต้องยิ่งช้าลง และเน้นเสียงบ้าง ทนายฝ่ายไทยส่วนใหญ่พูดแบบเรื่อยๆ  ไม่ค่อยมีการเน้นเสียง 

๒.  พูดแบบน้ำท่วมทุ่งมากไป....ดูเหมือนว่าต้องการแสดงให้เห็นว่าทำงานการบ้านมามาก คุ้มค่าเงินจ้างอย่างนั้นแหละ  ไม่ต้องเต้นวนมากก็ได้ท่านทนาย ขอหมัดเด็ดหนักๆ  แบบหลับคาเวทีเลยสักหมัดเดียวได้ไหม  ส่วนคำว่า “พระวิหาร”  ก็ออกเสียง เป็น “เปรี๊ยะวิเหียร” อยู่นั่นแหละ  แสดงวาฝ่ายไทยเรา ทั้งที่เป็นผู้จ้าง ไม่ใส่ใจเรื่องนี้เลยหรือไร

๓.  ทนายไทย..ที่พูดเปิดคดี นั้น ..ดูเหมือนท่านจะพูดทั้งฝรั่งเศส และ อังกฤษ  สำนวนอังกฤษของท่าน ด้วยความเคารพ  ไม่ดีเลย  คนเป็นทูตระดับนี้น่าจะออกสำเนียงได้ดีกว่านี้  และยังพูดเร็วเกินไปอีกด้วย  คล้ายๆ จะโชว์ว่าพูดเก่งยังงั้นแหละ  ผมฟังดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ  พูด  ยังดีกว่านี้มากๆ  ทั้งที่ท่านไม่ได้เป็นทูตสักหน่อย

๔. ส่วนล่ามไทยที่แปลนั้น...แย่มากๆ  มีคนเดียวที่พอฟังได้ (ผู้หญิง)  ...ก็เห็นใจครับ  เพราะภาษาที่ใช้เป็นภาษากฎหมายชั้นสูง แปลยาก แล้วเขายังพูดเร็วอีกด้วย  แต่อย่างไรก็ควรเฟ้นคนหน่อย ไม่ใช่ว่าเก่งภาษาอย่างเดียว มันต้องเข้าใจบริบทด้วย จึงจะแปลได้เนียน ...บางช่วงถ้านำเสนอเป็นอังกฤษ ผมเข้าเน็ตไปฟังเสียงดั้งเดิม เข้าใจได้ง่ายกว่าแปลเป็นไทยเสียอีก 

๕.  เป็นผมเป็นผู้กำกับรายการนี้..ผมจะสั่งสืบประวัติตุลาการทุกคนให้ลึก  ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร  เกิดที่ไหน ประวัติการศึกษา ทำงาน  บทความงานเขียนเก่าๆ  คำตัดสินเก่าๆ  เอามาดูให้หมด  แล้ววางเกมส์การนำเสนอให้สอดคล้องกับนิสัยและความเชื่อของตุลาการเหล่านี้ด้วย 

๖.  เรื่องตัวบทกฎหมาย  การตีความ ...ก็ว่ากันไป  แต่ผมอยากให้ใส่อารมณ์ทางประวัติศาสตร์เข้าไปด้วย  ว่าเราเป็นผู้เสียหาย  เป็นผู้ถูกรุนรานจากลัทธิล่าอาณานิคม เป็นลูกแกะ ที่ถูกหมาป่าฝรั่งเศสรังแก  แต่เท่าที่ฟัง ไม่เห็นมีเรื่องนี้เลย  ทั้งที่มันสอดแทรกได้สบายๆ 

๗. โหงวเฮ้ง ของประธานศาล  บอกตรงๆว่าไม่ชอบเลย  ไม่ว่าดวงตา จมูก  (สงสัยว่าจะเป็นฝรั่งเศส)  และบุคลิก  สังเกตสิ นั่งไม่เคยนิ่ง  หลุกหลิกไปมาตลอด  ส่วนท่านอื่นๆ นั่งกันนิ่งดี สมกับเป็นตุลาการศาลโลก ที่ต้องนิ่ง

...คนถางทาง (๑๗ เมย ๒๕๕๖) 


คำสำคัญ (Tags): #พระวิหาร ศาลโลก
หมายเลขบันทึก: 533201เขียนเมื่อ 17 เมษายน 2013 23:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 เมษายน 2013 23:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

เหมือนได้ย่นเวลา...เพราะอาจารย์สรุปได้อย่างลงตัวจังครับ

เห็นด้วยกับอาจารย์หลายประเด็นเลยค่ะ สงสัยจังว่าแล้วผู้ที่มีอำนาจในการบริหารจัดการเขาทำไมไม่วางแผนให้ดีกว่านี้ น่าจะมีการซักซ้อม การศึกษาเบื้องลึกเบื้องหลัง ทำการบ้านในจุดนี้บ้างนะคะ เพราะเห็นข่าวบอกว่าเตรียมการมาค่อนข้างนาน น่าเสียดายหลายๆจุดที่การพูดจะช่วยได้ เราไม่ได้ใช้วิธีการพูดให้เป็นประโยชน์ด้วย ทั้งๆที่คนฟังไม่ใช่แต่ตุลาการศาลโลก คนทั้งโลกเลยที่จะได้มองเห็นความเป็นจริงที่ชัดเจนขนาดนี้

สวัสดีค่ะ อ. คนถางทาง

ได้ติดตามดูเช่นกัน แต่ไม่ได้ดูช่องที่มีโลโก้ "หอย"ค่ะ    ดูช่อง TNN live..ปรับTV ซึ่งมีให้เลือกสองภาษา ก็เลยได้ฟังเต็มอรรถรส  ไม่ต้องผ่านการแปล  เสียงภาษาอังกฤษก็รับฟังได้ชัดเจนดี

อ่านข้อเสนอแนะของ อ. คนถางทาง .ทำให้นึกภาพย้อนกลับไป  หลายข้อก็ใช่เลย... แต่บางข้อยังไม่ได้สังเกต คราวต่อไปจะได้เป็นข้อชวนสังเกตเพิ่มขึ้น... ขอบคุณค่ะ

ขอสารภาพว่า... รู้สึกดี ภูมิใจค่ะ... ที่ได้ดูการให้ข้อเท็จจริง  ชั้นเชิง กลยุทธ์การต่อสู้ในศาลระดับศาลโลก ต่อกรณีข้อพิพาทของชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ  

นึกย้อนไปเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ตัวข้าน้อยยังมีอายุ ยังไม่ถึงขวบปีเลยยังมิรับรู้อะไรได้    พอมาปีนี้คนพาล มาหาเรื่อง แถมมีวาระซ่อนเร้นอีกต่างหาก    การได้มีส่วนร่วมรับฟัง ถือเป็นความภูมิใจ ที่ได้รับรู้ รับทราบ.. ต้องขอบคุณที่ "โลกแคบลง" อย่างกะได้ไปนั่งในศาลโลกด้วย   เป็นเพราะเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ทำให้เราได้รับชมและติดตามทั่วถึงกันค่ะ  เพียงแต่ต้องประติดประต่อเอาจาก ข่าว/tweet..แต่ละที่ ..เรื่องปูมหลัง  ประวัติคณะทำงานต่อสู้ในศาลฝ่ายไทย/เขมร... จึงพอประกอบเป็นพื้นฐานขณะติดตามฟังได้บ้าง

ต่อเหตุการณ์เขาพระวิหาร..สมัยเรียนหนังสือ พอโตขึ้นมาหน่อย อ่านเรื่องราวก็ทราบว่า  สมัยครั้งกระโน้นเมื่อคดีสิ้นสุดในศาล รัฐบาลสมัยนั้น ยกเสาธงชาติออกจากบริเวณ โดยไม่เชิญธงไตรรงค์ ลงจากยอดเสา  ..สุดยอดมาก ..รับได้ถึงความรู้สึก.. ศักดิ์ศรีของความเป็นไทย เลือดรักชาติ...  ขอบคุณผู้นำรบ.สมัยนั้น... (by the way...ไม่อยากนึกถึงผู้นำ รบ.สมัยนี้)...

มาเมื่อวานได้ติดตามการถ่ายทอดสดทั้งสองช่วง.  ..ปกติก็ไม่ได้มีความรู้อะไรทางกฏหมาย  แต่ชอบดูหนังซีรีส์ law & order หรือชอบอ่านหนังสือแปลของ John Grisham ประเภทเรื่องราวการไต่สวนในโรงในศาล  เลยนึกเปรียบเทียบกัน พล็อตเรื่อง/กลยุทธ์ในศาลทั้งในหนัง หรือ หนังสือ  แต่นี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดของประเทศชาติโดยตรงก็ยิ่งเข้มข้นมากกว่า     ทำให้ทั้งสองช่วงของการติดตาม เป็นไปด้วยความอยากรับรู้ ในประวัติศาสตร์ชาติหน้านี้จะจารึกว่าอย่างไร...  เมื่อวานนี้ก่อนจบในช่วงหกโมง ก็ได้ยินว่า... the court's adjourned...เป็นอันรับรู้ว่า.รอฟังรอบสองทุ่มต่อไป..

เห็นเช่นเดียวกับ อ. คนถางทาง ที่จังหวะการพูดของ ท่านทูตไทย  เมื่อเทียบกับของ Prof. ทั้งหลายและผู้ที่เกี่ยวข้อง ...ฤา ท่านเตรียมตัวมาเต็มที่่ มั่นใจ ก็เลยเป็นอย่างนั้น

รอรับฟังตอนต่อไปในศาล  ด้วยใจจดจ่อ..... ต่อประเด็นคำถามที่ฝากไว้ในศาลก่อนจบ...

เช่นเดียวกันรออ่านจาก อ คนถางทาง.... เขียนให้อ่าน อีกนะค่ะ... ชอบ..ข้อวิพากย์สังคมและอื่นๆ ที่อาจารย์เขียน ชวนคิด

...ขอบคุณค่ะ

ผมฟังอยู่ ทนายไทยเขาก็พูดว่าพระวิหารนะ
เห็นด้วยกับข้อ 6 และ 7 ครับ

ท่าน sleepless ผมหมายถึงทนายฝรั่งน่ะครับ  เปรี๊ยะวิเหียร์ ทุกคน  ยกเว้นบางครั้งที่เขาโควตถ้อยคำของฝ่ายไทยแบบตรงๆ   


ด้วยความเคารพในท่าน หากการเป็นถึงระดับอาจารย์ ก็น่าจะวิจารณ์ ที่ผ่านการวิเคราะห์ในทางทีีมีสาระ ประโยชน์และเพื่อก่อ มันมีความแตกต่างก้นอย่างสิ้นเชิงระหว่างคำว่า วิจารณ์ กับการ ตำหนิ นินทา

คนอีกด้านที่ทุ่มเท และทำงานอย่างหนัก  ส่วนอีกด้านที่คอยนังจ้องจับผิด 

การพูดหากพูดแล้วมีประโยชน์ยังต้องพึงระวังที่จะพูด

คุณ kul ไม่เข้าใจบริบท   ผมแนะนำ เพื่อประโยชน์ชาติ ด้วยความรักชาิติ เพราะรักจึงต้องแนะ เข้าใจไหม


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท